บาเซิล, สวิตเซอร์แลนด์ – การประกวดเพลงยิ่งใหญ่ระดับทวีปยุโรป “ยูโรวิชัน ซอง คอนเทสต์” (Eurovision Song Contest) ครั้งที่ 69 ประจำปี 2025 ปิดฉากลงอย่างงดงาม ณ เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยผู้คว้าชัยชนะในปีนี้คือ JJ ตัวแทนจากประเทศออสเตรีย กับบทเพลง “Wasted Love” ที่ผสมผสานกลิ่นอายป๊อปและโอเปร่าได้อย่างลงตัว สะกดใจผู้ชมและคณะกรรมการทั่วทั้งยุโรปและภูมิภาคอื่น ๆ ที่คาดการณ์ว่ามีผู้ติดตามรับชมการถ่ายทอดสดรอบชิงชนะเลิศในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาสูงถึง 160 ล้านคน ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการประกาศศักดิ์ศรีทางดนตรี แต่ยังส่งสัญญาณถึงพลวัตทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมบันเทิงของยุโรป
JJ หรือที่รู้จักในฐานะนักร้องเคาน์เตอร์เทเนอร์ผู้ได้รับการฝึกฝนด้านดนตรีคลาสสิกมาอย่างเข้มข้น ได้นำเสนอความสามารถอันโดดเด่นผ่านเพลง “Wasted Love” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีป๊อปที่เข้าถึงง่ายกับเทคนิคการร้องแบบโอเปร่าที่ทรงพลัง สร้างความประทับใจและเป็นที่จดจำให้กับผู้ชมอย่างมาก การแสดงของเขาในรอบชิงชนะเลิศซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของค่ำคืนที่เต็มไปด้วยสีสันและความหลากหลายทางดนตรีจาก 26 ประเทศที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย
สำหรับผลการประกวดอันดับรองลงมา ได้แก่ Yuval Raphael จากอิสราเอล ที่มาในเพลง “New Day Will Rise” คว้าอันดับที่สองไปครอง ในขณะที่ Tommy Cash ศิลปินจากเอสโตเนีย กับเพลงแนวสนุกสนาน “Espresso Macchiato” ได้รับอันดับที่สาม ส่วน KAJ ตัวแทนจากสวีเดน ซึ่งเคยถูกยกให้เป็นตัวเต็งจากผลสำรวจหลายสำนักด้วยเพลงจังหวะสนุกสนานอย่าง “Bara Bada Bastu” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับซาวน่า จบการแข่งขันในอันดับที่สี่ ซึ่งอาจสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนเพลงบางส่วน ด้านคู่ดูโอ Abor & Tynna จากเยอรมนี ทำผลงานได้ในอันดับที่ 15 ด้วยเพลง “Baller”
การประกวดในปีนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ของยุโรปอย่างแท้จริง ตั้งแต่เพลงบัลลาดกีตาร์โปรตุเกสอันไพเราะ วงร็อกทางเลือกจากลิทัวเนีย การแสดงโอเปร่าจากออสเตรีย (ผู้ชนะ) ไปจนถึงคณะนักร้องประสานเสียงจากลัตเวีย การนำเสนอแนวดนตรีที่แตกต่างกันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่ำรวยทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่ทวีปยุโรปมีต่ออุตสาหกรรมดนตรีโลก
ชัยชนะของ JJ และออสเตรียในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยง่าย แต่มาจากการตัดสินที่ผสมผสานระหว่างคะแนนโหวตจากผู้ชมทั่วยุโรปและคะแนนจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในแต่ละประเทศ ซึ่งคะแนนของคณะกรรมการนั้นได้ถูกบันทึกไว้ล่วงหน้าจากการซ้อมใหญ่ในคืนวันศุกร์ (untelevised dress rehearsal) ระบบการตัดสินเช่นนี้มุ่งหวังให้เกิดความสมดุลระหว่างความนิยมจากมหาชนและความเห็นเชิงเทคนิคจากผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรี
ผลกระทบทางเศรษฐกิจและมิติทางอุตสาหกรรมของ Eurovision 2025
นอกเหนือจากความบันเทิงและการแข่งขันทางดนตรีแล้ว “ยูโรวิชัน ซอง คอนเทสต์” ยังเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่มีนัยสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างยิ่ง การเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดถือเป็นโอกาสอันล้ำค่าสำหรับเมืองที่ได้รับเลือก เช่น เมืองบาเซิลในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยว สื่อมวลชน และแฟนเพลงจากทั่วโลก ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคบริการ การโรงแรม การขนส่ง และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง การลงทุนในการเตรียมงานและการโปรโมทเมืองยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์และโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว
สำหรับประเทศผู้ชนะอย่างออสเตรีย ชัยชนะของ JJ ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจในระดับชาติ แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสทางเศรษฐกิจมากมาย บทเพลง “Wasted Love” มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ทั้งในด้านยอดขายและยอดสตรีมมิ่งทั่วโลก ขณะที่ตัวศิลปินเองก็จะได้รับความสนใจและมีโอกาสในการขยายฐานแฟนเพลงและอาชีพในระดับนานาชาติมากขึ้น นอกจากนี้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของยูโรวิชัน ประเทศผู้ชนะจะได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประกวดในปีถัดไป (Eurovision 2026) ซึ่งหมายถึงโอกาสที่ออสเตรียจะได้แสดงศักยภาพในการจัดอีเวนต์ระดับโลกอีกครั้ง พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ภายในประเทศอย่างมหาศาล การเป็นเจ้าภาพยูโรวิชันนั้นต้องอาศัยงบประมาณการลงทุนที่สูง แต่ผลตอบแทนในรูปของรายได้จากการท่องเที่ยว การสร้างงาน และการประชาสัมพันธ์ประเทศนั้นก็คุ้มค่าเช่นกัน
“ยูโรวิชัน” ในฐานะแบรนด์ระดับโลก ยังมีมูลค่าทางการตลาดมหาศาล สิทธิในการถ่ายทอดสดการประกวดเป็นที่ต้องการของสถานีโทรทัศน์ทั่วยุโรปและหลายประเทศทั่วโลก สร้างรายได้จำนวนมากให้กับสหภาพการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งยุโรป (EBU) ผู้จัดงาน นอกจากนี้ยังมีรายได้จากผู้สนับสนุนหลัก (sponsorships) สินค้าที่ระลึก (merchandise) และแม้กระทั่งอุตสาหกรรมการพนันที่เกี่ยวข้องกับการทายผลผู้ชนะ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่งรอบการประกวด
ในมิติของอุตสาหกรรมดนตรี ยูโรวิชันทำหน้าที่เป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอศิลปินหน้าใหม่และแนวเพลงที่หลากหลายจากทั่วยุโรปสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก เป็นการส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางดนตรีข้ามพรมแดน ศิลปินหลายรายแจ้งเกิดและประสบความสำเร็จในอาชีพหลังจากการเข้าร่วมประกวดในเวทีนี้ สำหรับผู้ชมจำนวนกว่า 160 ล้านคนนั้น ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ามหาศาลสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสื่อและโฆษณา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในภาคส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี
การที่ศิลปินจากสวีเดน KAJ ซึ่งเป็นตัวเต็งจากผลสำรวจ ไม่สามารถคว้าชัยชนะได้นั้น ยังชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนและความตื่นเต้นของการแข่งขัน ซึ่งปัจจัยด้านการแสดงสดในคืนตัดสินจริงและรสนิยมที่หลากหลายของผู้ชมทั่วยุโรปล้วนมีผลต่อการตัดสินใจ นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของยูโรวิชันที่ทำให้การแข่งขันยังคงความสดใหม่และน่าติดตามอยู่เสมอ
บทสรุปและอนาคตที่น่าจับตามอง
ชัยชนะของ JJ จากออสเตรียด้วยเพลง “Wasted Love” ในการประกวด Eurovision Song Contest 2025 ณ เมืองบาเซิล เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถทางดนตรีที่โดดเด่นและความสำเร็จในการผสมผสานแนวดนตรีที่แตกต่างได้อย่างลงตัว เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่เป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับศิลปินและประเทศออสเตรีย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังของอุตสาหกรรมดนตรีและอีเวนต์ระดับโลกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างโอกาส และเชื่อมโยงวัฒนธรรมที่หลากหลายของยุโรปเข้าไว้ด้วยกัน
บัดนี้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังประเทศออสเตรีย ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประกวด Eurovision Song Contest ครั้งที่ 70 ในปี 2026 อันจะเป็นการตอกย้ำบทบาทของออสเตรียในเวทีดนตรีสากล และเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งในการกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศต่อไป การเดินทางของ “ยูโรวิชัน” ยังคงดำเนินต่อไป พร้อมกับเรื่องราวทางดนตรี เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต.
#Eurovision2025 #ยูโรวิชัน2025 #JJออสเตรีย #WastedLove #ออสเตรียชนะยูโรวิชัน #เศรษฐกิจยูโรวิชัน #อุตสาหกรรมดนตรียุโรป #บาเซิล2025 #PopOpera #ข่าวเศรษฐกิจ #CreativeEconomy #เศรษฐกิจสร้างสรรค์