Meta ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยี จัดงาน Meta Marketing Summit 2025 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเสริมศักยภาพให้ธุรกิจไทยด้วยนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ล่าสุด ชูธงนำทัพโซลูชันอัจฉริยะช่วยผู้ประกอบการทุกขนาดเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาด สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้ลูกค้า พร้อมผลักดันการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เผยธุรกิจไทย 77% เริ่มนำ AI มาปรับใช้แล้ว สะท้อนการเปิดรับเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – Meta เผยข้อมูลเชิงลึกและโซลูชัน AI ใหม่ล่าสุดในงาน Meta Marketing Summit 2025 ชี้ AI คือกุญแจสำคัญขับเคลื่อนประสิทธิภาพทางการตลาดและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจไทย เปิดตัวแอปพลิเคชัน Meta AI ในไทย พร้อมเครื่องมือใหม่ Opportunity Score และ Advantage+ Leads Campaigns หวังลดต้นทุน เพิ่มยอดขายให้ผู้ประกอบการ
AI: หัวใจหลักขับเคลื่อนธุรกิจไทยยุคใหม่
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ปฏิวัติวงการการตลาดทั่วโลกอย่างแท้จริง ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยที่ AI กำลังมอบโอกาสและเครื่องมือใหม่ๆ ให้ธุรกิจสามารถเพิ่มการเติบโตและผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม การสร้างสรรค์แคมเปญโฆษณาที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงการส่งข้อความทางธุรกิจ (Business Messaging) ถึงลูกค้าจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รายงานล่าสุดที่ Meta ร่วมกับ Deloitte จัดทำขึ้นในหัวข้อ “เอไอสำหรับธุรกิจ: แนวโน้มการใช้แพลตฟอร์ม AI ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” (AI for Business: APAC Trends in AI-Platform Adoption) ชี้ให้เห็นถึงการตื่นตัวของภาคธุรกิจไทย โดยพบว่า 77% ของธุรกิจในประเทศไทยได้นำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้ในกระบวนการดำเนินงานแล้ว ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมและการเปิดรับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่เน้นนำ AI มาใช้ในการสื่อสารกับลูกค้า (69%) และการหาลูกค้าใหม่ (51%)
ในงาน Meta Marketing Summit ประจำปี 2025 ซึ่งจัดขึ้นสำหรับเจ้าของธุรกิจและนักการตลาดมืออาชีพในประเทศไทย Metaได้นำเสนอนวัตกรรมด้านการตลาดล่าสุด พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจไทย ด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อผลักดันการเติบโตและยกระดับอิทธิพลทางเศรษฐกิจของไทยบนเวทีโลก
ผู้บริหาร Meta ชี้ศักยภาพ AI ไทย พร้อมหนุนเต็มกำลัง
คุณแพร ดำรงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย ได้กล่าวเน้นย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจว่า “Metaเชื่อในศักยภาพของ AI ที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจทุกขนาด งาน Meta Marketing Summit ในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะร่วมมือกับธุรกิจไทย และส่งมอบเครื่องมือและความรู้ในการใช้ AI ให้เป็นประโยชน์ในการยกระดับการบริการลูกค้า ปรับปรุงการดำเนินงาน และสร้าง ROI ได้อย่างมีนัยสำคัญ”
คุณแพรยังเสริมอีกว่า “ธุรกิจจะสามารถดึงดูดผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสการปิดการขาย (Conversion) ได้ง่ายขึ้นด้วยกระบวนการที่มีประสิทธิภาพและมีความเป็นอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรต่างๆ ทำให้Meta เป็นที่ที่ดีที่สุดที่จะมอบเครื่องมือการสร้างสรรค์ที่ทรงพลัง มีประสิทธิภาพ และเห็นผลลัพธ์จริง ที่สำคัญ เครื่องมือ AI เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพให้กับทีมนักการตลาดในประเทศ โดยเปิดโอกาสให้แต่ละทีมต่อยอดจากความเข้าใจเชิงลึกในตลาดประเทศไทย เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น”
“เรามั่นใจว่านวัตกรรม AI และเทคโนโลยีดังกล่าวที่ให้บริการผ่านชุดเครื่องมือการตลาด Meta Advantage+ Creative จะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจไทยบรรลุเป้าหมายในการสร้างความเติบโต รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย”
นวัตกรรม AI ล่าสุดจากMeta: เครื่องมือปั้นธุรกิจให้โตไว
Metaได้เปิดตัวนวัตกรรม AI ล่าสุดหลายรายการที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจทั่วประเทศไทยโดยเฉพาะ โดยมีฟีเจอร์ใหม่ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงตั้งแต่ช่วงแรกที่เปิดให้บริการ ได้แก่:
- Opportunity Score: เครื่องมือใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถประเมินและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ภายใน Ads Manager และ Advantage+ Leads Campaigns จากการทดสอบในช่วงแรกพบว่า เครื่องมือนี้สามารถช่วยลดต้นทุนต่อการได้ลูกค้าหนึ่งราย (Cost Per Lead – CPL) ได้เฉลี่ยถึง 14% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ต้องการควบคุมงบประมาณและเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน
- Advantage+ Sales Campaigns: โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือในการช่วยให้ธุรกิจสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- Advantage+ Shopping Campaigns: จากการวิจัยพบว่า ทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ธุรกิจใช้จ่ายไปกับ Advantage+ Shopping Campaigns สามารถสร้างผลตอบแทนจากการใช้จ่ายด้านโฆษณา (ROAS) ได้โดยเฉลี่ยสูงถึง 4.52 ดอลลาร์ ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างยอดขายและผลกำไรที่คุ้มค่า
ความสำเร็จของเครื่องมือ AI ของMeta ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2567 มีผู้ลงโฆษณาทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านรายที่เลือกใช้เครื่องมือสร้างสรรค์โฆษณาด้วย AI ของMeta อย่างน้อยหนึ่งอย่าง นอกจากนี้ การโฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย AI บนแพลตฟอร์มของMeta ยังคงสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาล่าสุดในช่วงต้นปี 2567 พบว่าผู้ลงโฆษณาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้รับผลตอบแทนจากการใช้จ่ายด้านโฆษณา (ROAS) เฉลี่ยประมาณ 3.47 ดอลลาร์ต่อการลงทุนทุกๆ 1 ดอลลาร์บนแพลตฟอร์มของMeta ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับปี 2565 อัตราการเติบโตเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถของเครื่องมือ AI ของMeta ที่พัฒนาไปอีกขั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาดทั่วทั้งภูมิภาค
เจาะลึกเทรนด์การใช้งาน AI ที่น่าจับตามองในปี 2568
Metaได้สรุปเทรนด์การใช้งาน AI ที่สำคัญและน่าจับตามองสำหรับนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจในปี 2568 ไว้ดังนี้:
- การเชื่อมต่อในวงกว้าง (Broader Connectivity): การลงทุนด้าน AI ของMeta กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ธุรกิจเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานประจำวันกว่า 3.4 พันล้านคนบนแพลตฟอร์มต่างๆ ของMeta รวมถึงวิธีที่ผู้ใช้งานเหล่านั้นเชื่อมต่อถึงกันและกัน ที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันเนื้อหาบน Instagram ถึง 50% เป็นเนื้อหาที่แนะนำโดย AI แสดงให้เห็นว่า AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในการคัดเลือกและนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคนมากขึ้น
- การตลาดที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น (Smarter Marketing): ด้วยชุดเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของMeta นักการตลาดและแบรนด์สามารถสร้างเนื้อหาที่หลากหลาย เขียนข้อความโฆษณา และส่งเสริมการซื้อขายผ่านแอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมของMeta (เช่น Messenger, WhatsApp) ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในไตรมาสที่ผ่านมา มีผู้ลงโฆษณาหันมาใช้เครื่องมือสร้างสรรค์ด้วย AI เพิ่มขึ้นถึง 30% ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของเครื่องมือเหล่านี้
- การเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ (Campaign Optimization): ปัจจุบัน AI สามารถช่วยนักการตลาดและแบรนด์ขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญแบบเรียลไทม์ และจับคู่โฆษณากับกลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วม (Engage) มากที่สุด ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกเม็ดเงินที่ลงทุนไปจะถูกใช้อย่างคุ้มค่า
- Conversion ที่คุ้มค่ามากขึ้น (More Valuable Conversions): การใช้ฟีเจอร์อย่างวิดีโอสินค้าจากแคตตาล็อก (Catalog Product Videos) และโฆษณาแบบร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ (Partner Ads) ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายและผลการตอบรับของกลุ่มเป้าหมายโดยตรงได้อย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลชี้ว่าสามารถนำไปสู่ Conversion ที่เพิ่มขึ้นถึง 20% และช่วยลดต้นทุนต่อการได้ลูกค้าใหม่ (Cost per Acquisition – CPA) ลงได้ถึง 19% ตามลำดับ นอกจากนี้ Conversion จากโฆษณาใน Reels บน Facebook ยังเพิ่มขึ้นอีก 5% ในไตรมาสที่ผ่านมา
- การสร้างเนื้อหา (Content Creation): เครื่องมือ Generative AI ที่ล้ำสมัยของMeta กำลังเข้ามาปฏิวัติกระบวนการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านเวลา ทรัพยากร และผลลัพธ์ ด้วยความสามารถในการสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งปรับรูปแบบโฆษณาให้เหมาะสมกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้นักการตลาดสามารถผลิตชิ้นงานโฆษณาจำนวนมากและมีความหลากหลายได้ในเวลาอันสั้น
Meta AI พร้อมใช้งานแล้วในประเทศไทย! ยกระดับประสบการณ์เฉพาะบุคคล
เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการสร้างประสบการณ์ AI ที่เป็นส่วนตัวและเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น Metaได้ให้ความสำคัญกับการเปิดตัวเครื่องมือและโซลูชัน AI ล่าสุดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Metaได้ประกาศเปิดตัว แอปพลิเคชันMeta AI ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
Meta AI เป็นแอปพลิเคชัน AI ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ แยกต่างหากจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ของMeta สร้างขึ้นบนพื้นฐานของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model – LLM) ซึ่งเป็นโมเดลโอเพนซอร์สชั้นนำของอุตสาหกรรมโมเดลล่าสุดของMeta การเปิดตัวแอปพลิเคชันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำเสนอประสบการณ์ AI ที่เป็นส่วนตัวและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น
ผู้ใช้งานชาวไทยจะสามารถโต้ตอบกับMeta AI ได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ มาพร้อมกับฟีด Discover ใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้สำรวจและแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงคำแนะนำต่างๆ ที่น่าสนใจ จุดเด่นสำคัญคือMeta AI ได้รับการติดตั้งและผสานรวมเข้ากับแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง WhatsApp, Messenger, Facebook, Instagram และแอปพลิเคชันอื่นๆ ของMeta อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงผู้ช่วย AI อัจฉริยะนี้ได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ ไม่ว่าจะกำลังแชทกับเพื่อน ค้นหาข้อมูล หรือเลื่อนดูฟีดข่าว
ความนิยมของMeta AI ได้รับการยืนยันจากตัวเลขผู้ใช้งาน โดยMeta บันทึกสถิติผู้ใช้งานประจำเดือน (Monthly Active Users) มากกว่า 1 พันล้านคนทั่วทั้งกลุ่มแอปพลิเคชันในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งมากกว่าผู้ช่วยเสมือนรายอื่นๆ ในตลาด
Meta ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประสบการณ์ AI ที่เป็นส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะเปลี่ยนวิธีการวางแผนชีวิต การเรียนรู้ และการเข้าถึงข้อมูลของผู้คนให้ล้ำหน้าไปอีกขั้น ในอนาคตอันใกล้นี้Meta AI จะมีความสามารถที่น่าตื่นเต้นเพิ่มขึ้นอีกมากมาย เช่น:
- การวางแผนการเดินทางอัจฉริยะ: ผู้ใช้งานจะสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างง่ายดาย โดยMeta AI จะช่วยสร้างสรรค์แผนการเดินทางที่ปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็น ความชอบส่วนตัว งบประมาณที่กำหนดไว้ และกิจกรรมที่สนใจ เพียงแค่ระบุข้อมูลพื้นฐานบางอย่าง
- การสรุปข้อมูลอย่างรวดเร็ว:Meta AI จะนำเสนอความสามารถในการสรุปบทความและเอกสารที่มีเนื้อหายาวๆ ให้อยู่ในรูปแบบที่กระชับและเข้าใจง่ายได้อย่างรวดเร็ว คุณสมบัตินี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการติดตามข่าวสารในโลกที่ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจประเด็นสำคัญจากบทความข่าวสาร งานวิจัย หรือแม้แต่กระทู้สนทนาบนโซเชียลมีเดียที่มีความยาวได้ทั้งหมดภายในแพลตฟอร์มMeta ที่พวกเขาคุ้นเคย
การเปิดตัวนวัตกรรมและโซลูชัน AI เหล่านี้ในงานMeta Marketing Summit 2025 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของMeta ในการเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจไทยทุกขนาดสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน และร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไปในเวทีโลก
#MetaMarketingSummit #AIเพื่อธุรกิจ #ธุรกิจไทย #การตลาดดิจิทัล #MetaAI #โซลูชันAI #เทคโนโลยีการตลาด #เศรษฐกิจดิจิทัล #ROAS #CPL #AdvantagePlus