พม. อุ้มเด็ก 4 ขวบพ่นควัน ชี้ปัญหาครอบครัวเปราะบาง ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทย

พม. อุ้มเด็ก 4 ขวบพ่นควัน ชี้ปัญหาครอบครัวเปราะบาง ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทย

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยการสั่งการของรัฐมนตรี “วราวุธ ศิลปอาชา” เข้าช่วยเหลือเด็กชายวัย 4 ขวบมีพฤติกรรมสูบบุหรี่ใต้สะพานพระราม 8 สะท้อนปัญหาครอบครัวเปราะบางจากพิษเศรษฐกิจ ผู้ปกครองตกงาน ไร้ที่อยู่ ชี้เป็นสัญญาณอันตรายต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของชาติในระยะยาว กระทบโครงสร้างประชากรและภาระงบประมาณภาครัฐ วอนสังคมตระหนัก “ท้องเมื่อพร้อม” เพื่อสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งให้ประเทศ

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – กรณีเด็กชายวัยเพียง 4 ปี ถูกพบควันบุหรี่พ่นโขมงใต้สะพานพระราม 8 ไม่เพียงแต่สร้างความตกใจแก่สังคมถึงความเหมาะสมในการเลี้ยงดู แต่ยังเป็นภาพสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจระดับครัวเรือนที่กำลังกัดกินรากฐานสังคมไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. สั่งการเร่งด่วนให้ความช่วยเหลือ พร้อมชี้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งของปัญหาครอบครัวเปราะบาง ที่อาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในอนาคต ทั้งในมิติของทุนมนุษย์ที่ด้อยคุณภาพ ภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้น และความท้าทายต่อการแก้ปัญหาวิกฤตประชากรที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคลิปวิดีโอเด็กชายวัยประมาณ 4 ขวบ นั่งสูบบุหรี่อย่างคล่องแคล่วบริเวณใต้สะพานพระราม 8 ซึ่งสร้างความวิตกกังวลในวงกว้างผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยนายวราวุธแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพและพัฒนาการตามวัยของเด็กเล็ก แต่ยังบ่งชี้ถึงปัญหาที่ซับซ้อนกว่านั้นในระดับครอบครัวและสังคม

“ผมได้รับรายงานจากศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ของกระทรวง พม. ทันทีที่ทราบเรื่อง และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือโดยด่วน เพราะเด็กเล็กขนาดนี้ไม่ควรต้องเข้ามาข้องเกี่ยวกับสารเสพติดใดๆ ทั้งสิ้น มันเป็นอันตรายต่อพัฒนาการทางร่างกาย สติปัญญา และอนาคตของเขาอย่างมาก” นายวราวุธกล่าว

ปฏิบัติการช่วยเหลือเร่งด่วนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 โดยทีม ศรส. ร่วมกับกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) นำโดยเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัว (บพด.) กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ได้ลงพื้นที่บริเวณสะพานพระราม 8 ฝั่งด้านหน้าศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบเด็กชายคนดังกล่าวอาศัยอยู่กับบิดาและมารดาในบริเวณนั้นจริง และมีพฤติกรรมตามที่ปรากฏในคลิป

จากการสอบถามบิดาของเด็ก ทำให้ทราบถึงต้นตอของปัญหาที่หยั่งรากลึกกว่าพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเด็ก กล่าวคือ ครอบครัวนี้เพิ่งประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ บิดาเพิ่งตกงาน ทำให้ขาดรายได้จนไม่สามารถจ่ายค่าเช่าห้องพักได้ และไม่มีญาติพี่น้องที่สามารถให้ที่พักพิงชั่วคราวได้ จึงจำเป็นต้องพาครอบครัวมาอาศัยหลับนอนในที่สาธารณะบริเวณใต้สะพานพระราม 8 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของครัวเรือนเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า

เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการให้คำแนะนำปรึกษาแก่บิดามารดาของเด็กเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตรอย่างเหมาะสมตามหลักพัฒนาการ พร้อมทั้งดำเนินการตามกระบวนการคุ้มครองเด็ก โดยนำเด็กพร้อมบิดามารดาไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.ชนะสงคราม และดำเนินการขอหนังสือส่งตัวเพื่อนำเด็กเข้ารับการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ซึ่งบิดาและมารดาของเด็กได้ให้ความยินยอมและแสดงความประสงค์ที่จะฝากบุตรไว้ในการดูแลของ พม. เป็นการชั่วคราว เนื่องจากยอมรับว่ายังไม่มีความพร้อมทั้งด้านการงานและที่อยู่อาศัยที่จะเลี้ยงดูเด็กได้อย่างเหมาะสมในขณะนี้ โดยทั้งคู่จะเร่งออกไปหางานทำและจัดหาที่พักใหม่ให้มั่นคง เมื่อมีความพร้อมแล้วจึงจะมารับเด็กกลับไปดูแลด้วยตนเอง นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ พม. จะดำเนินการติดตามหาญาติของเด็กเพื่อพิจารณาทางเลือกในการส่งเด็กกลับคืนสู่สภาพแวดล้อมครอบครัวที่เหมาะสมต่อไป เพื่อให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูที่อบอุ่นและปลอดภัย

การวิเคราะห์เชิงเศรษฐกิจ-สังคม:

เหตุการณ์เด็ก 4 ขวบสูบบุหรี่ใต้สะพานพระราม 8 มิได้เป็นเพียงปัญหาพฤติกรรมส่วนบุคคล หรือปัญหาการเลี้ยงดูที่บกพร่องในระดับครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่หลายมิติ

  1. ผลกระทบจากความเปราะบางทางเศรษฐกิจของครัวเรือน: การตกงานของหัวหน้าครอบครัวดังเช่นกรณีนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงในชีวิตของสมาชิกทุกคน โดยเฉพาะเด็กเล็กซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่สุด การขาดรายได้นำไปสู่การไร้ที่อยู่อาศัย การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการ และการเข้าไม่ถึงบริการพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การศึกษาและสาธารณสุข สถานการณ์เช่นนี้ไม่เพียงแต่สร้างความเครียดและความทุกข์ยากให้แก่ครอบครัว แต่ยังเป็นการผลักดันให้เด็กต้องเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาพฤติกรรมเลียนแบบที่ไม่เหมาะสม การขาดโอกาสทางการศึกษา และการเข้าสู่วงจรความยากจนข้ามรุ่นในที่สุด

  2. ต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจจากปัญหาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์: นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า “ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่า ถ้ายังไม่พร้อมมีบุตร หรือยังไม่มีความพร้อมในการดูแลเด็ก ขอความกรุณาให้ป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพราะความสนุกชั่วคราว อาจจะตามมาด้วยชีวิตของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งถ้าหากเขาเติบโตขึ้นมา และไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง จะทำให้เด็กเติบโตขึ้นมาจะกลายเป็นปัญหาที่จะตามมาอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดและความรุนแรง” คำกล่าวนี้ชี้ให้เห็นถึง “ต้นทุนค่าเสียโอกาส” (Opportunity Cost) และ “ต้นทุนทางสังคม” (Social Cost) ที่มหาศาล หากเด็กไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ เด็กที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ขาดความพร้อม มีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ขาดทักษะ ไม่สามารถประกอบอาชีพที่มั่นคงได้ หรืออาจเข้าไปพัวพันกับปัญหาสังคม เช่น ยาเสพติด อาชญากรรม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วภาระในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้จะตกอยู่กับภาครัฐและสังคมโดยรวม ทั้งในรูปแบบของงบประมาณที่ต้องใช้ในการดูแล ฟื้นฟู บำบัดรักษา รวมถึงการสูญเสียผลิตภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

  3. ความเชื่อมโยงกับวิกฤตโครงสร้างประชากร: นายวราวุธยังได้เน้นย้ำถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่า “ปัจจุบันเรามีเด็กเกิดขึ้นน้อยอยู่แล้ว ไม่ใช่เติบโตขึ้นมาแล้วกลายเป็นภาระให้อีกหลายฝ่ายที่ต้องมาช่วยกันดูแลรับผิดชอบ เราอยากจะเห็นเด็กในประเทศไทยเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ และมาเป็นกำลังสำคัญของสังคมไทย” ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะอัตราการเกิดต่ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ในสภาวะเช่นนี้ “คุณภาพ” ของเด็กแต่ละคนที่เกิดมาจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่ออนาคตของประเทศ การลงทุนในการพัฒนาเด็กจึงไม่ใช่แค่เรื่องของมนุษยธรรม แต่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว หากเด็กที่เกิดใหม่จำนวนไม่มากนี้ ไม่ได้รับการดูแลและพัฒนาอย่างเหมาะสม ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อขนาดและคุณภาพของกำลังแรงงานในอนาคต ศักยภาพในการสร้างนวัตกรรม และความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก

  4. บทบาทของภาครัฐและนโยบายเชิงป้องกัน: กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นของมาตรการช่วยเหลือเฉพาะหน้าจากภาครัฐ เช่น การให้ที่พักพิงชั่วคราว การจัดหางาน และการให้เงินสงเคราะห์ อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว รัฐบาลจำเป็นต้องมีนโยบายเชิงป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อลดความเปราะบางของครัวเรือน เช่น

    • การสร้างตาข่ายความปลอดภัยทางสังคม (Social Safety Net): ระบบประกันการว่างงานที่มีประสิทธิภาพ, โครงการฝึกอบรมทักษะและจัดหางาน, การเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ
    • นโยบายที่อยู่อาศัย: การสนับสนุนโครงการบ้านเช่าราคาถูก หรือบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย
    • การส่งเสริมการวางแผนครอบครัวและการเลี้ยงดูบุตรเชิงคุณภาพ: ให้ความรู้และบริการด้านการวางแผนครอบครัวอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งสนับสนุนโครงการพ่อแม่มือใหม่ การให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงดูบุตร และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้
    • การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน: พม. ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้โดยลำพัง จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวอย่างยั่งยืน

สรุปและทิศทางในอนาคต:

เหตุการณ์เด็ก 4 ขวบ กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ที่ปรากฏ เป็นเพียงปลายเหตุของปัญหาที่ซับซ้อนและเกี่ยวพันกันหลายมิติ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ความมั่นคงในชีวิตของครอบครัว ไปจนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างด้านประชากรและทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวเป็นสิ่งที่ถูกต้องและจำเป็น แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการมองให้ทะลุปัญหาและวางรากฐานการแก้ไขในระยะยาว

คำกล่าวของนายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ว่า “ความสนุกเพียงชั่วคราว กำลังหมายถึงชีวิตของเด็กคนหนึ่ง ที่จะต้องเกิดขึ้นมา และกลายมาเป็นภาระให้กับอีกหลาย ๆ หน่วยงาน” เป็นการส่งสัญญาณเตือนให้สังคมไทยตระหนักถึงความรับผิดชอบในการสร้างครอบครัวที่มีคุณภาพ การ “ท้องเมื่อพร้อม” ไม่ได้หมายถึงเพียงความพร้อมทางด้านร่างกายของพ่อแม่ แต่ยังรวมถึงความพร้อมทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวุฒิภาวะในการเลี้ยงดูบุตรให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ อันจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางความท้าทายของโลกยุคปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่ประเทศไทยต้องการ “ทุนมนุษย์” ที่มีคุณภาพสูงเพื่อฝ่าวิกฤตประชากรและสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว.

#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5×5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #เด็ก #เด็กสูบบุหรี่ #สะพานพระราม8 #ปัญหาครอบครัว #เศรษฐกิจครัวเรือน #วิกฤตประชากร #ทุนมนุษย์ #การพัฒนาสังคม #ความรับผิดชอบต่อสังคม #ท้องเมื่อพร้อม

Related Posts