เรียลมี (realme) สร้างปรากฏการณ์สะเทือนวงการเทคโนโลยีอีกครั้งด้วยการเปิดตัว “realme GT 7 Series” อย่างยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตอกย้ำความเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก พร้อมกันนี้ยังได้เผยโฉม realme GT 7 Dream Edition รุ่นพิเศษที่เกิดจากความร่วมมือสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับทีมแข่งรถสูตรหนึ่งระดับตำนาน Aston Martin Formula One™ Team
การเปิดตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังเป็นการประกาศทิศทางของ realme ที่มุ่งมั่นปฏิวัติประสบการณ์สมาร์ตโฟนด้วยนวัตกรรม ดีไซน์ และพลังการประมวลผลที่เหนือกว่า เตรียมก้าวข้ามทุกขีดจำกัดและกำหนดนิยามใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมมือถือ
realme GT 7: นิยามใหม่ของ “นักฆ่าเรือธง” ปี 2025 กับขุมพลังที่เหนือกว่า
realme GT 7 ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Flagship Killer แห่งปี 2025” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงคำกล่าวอ้าง แต่มาพร้อมกับการอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและสเปกที่พร้อมท้าชนทุกคู่แข่งในตลาด เริ่มต้นจากหัวใจสำคัญด้านพลังงาน ด้วย Titan Battery ความจุสูงถึง 7000mAh ซึ่งถือเป็นขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่เป็นพิเศษสำหรับสมาร์ตโฟนระดับเรือธง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างวัน เสริมทัพด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็วขั้นเทพ 120W Ultra Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 50% ได้ในเวลาเพียง 14 นาที และชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น นับเป็นความเร็วที่น่าประทับใจและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมี เทคโนโลยี Smart Bypass ที่ช่วยลดความร้อนขณะชาร์จและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ไปพร้อมกัน โซลูชันด้านพลังงานที่ครบวงจรและเปี่ยมประสิทธิภาพนี้ ทำให้ realme GT 7 กลายเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน TÜV Rheinland ด้านระบบพลังงานระดับ 5 ดาว สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
ในด้านประสิทธิภาพการประมวลผล realme GT 7 สร้างความฮือฮาด้วยการเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในประเทศไทยที่เลือกใช้ชิปเซ็ตเรือธงรุ่นล่าสุด MediaTek Dimensity 9400e ซึ่งผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 4 นาโนเมตรอันล้ำสมัยของ TSMC ชิปเซ็ตนี้ไม่เพียงแต่ให้ความเร็วแรงในการประมวลผล แต่ยังโดดเด่นด้านการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ realme GT 7 มีคะแนนประสิทธิภาพติดท็อป 3 ของสมาร์ตโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย พร้อมตอบสนองทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมกราฟิกสูง การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หรือการประมวลผล AI ที่ซับซ้อน
สำหรับงานออกแบบ realme GT 7 มาพร้อมกับนวัตกรรมฝาหลังแบบ IceSense Graphene เป็นรุ่นแรกของโลก ซึ่งไม่เพียงแต่มอบรูปลักษณ์ที่สวยงามทันสมัย แต่ยังให้สัมผัสที่เย็นสบายมือทุกครั้งที่ใช้งานจริง ทั้งยังมีคุณสมบัติในการช่วยระบายความร้อนระดับโปร ทำให้เครื่องยังคงประสิทธิภาพสูงสุดแม้ใช้งานอย่างหนักหน่วงต่อเนื่องเป็นเวลานาน
จุดเด่นที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือเทคโนโลยีผู้ช่วยอัจฉริยะ AI Planner รุ่นแรกของโลก ที่ realme พัฒนาขึ้นเพื่อเปลี่ยนสมาร์ตโฟนให้กลายเป็นเลขาส่วนตัวอัตโนมัติอย่างแท้จริง เพียงแค่ “ดับเบิลคลิก” ผู้ใช้งานก็สามารถสร้างตารางนัดหมาย จัดการงานประจำวัน และรับการแจ้งเตือนต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเวลาและภารกิจต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายและง่ายดายขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ด้านการถ่ายภาพ realme GT 7 จัดเต็มด้วยระบบกล้อง AI Travel Snap ที่ใช้เซนเซอร์คุณภาพสูงอย่าง Sony IMX906 ช่วยให้การเก็บภาพทุกช็อตมีความสวยงาม คมชัด และน่าประทับใจยิ่งขึ้น เสริมด้วยฟีเจอร์ล้ำสมัยมากมาย เช่น การถ่ายวิดีโอ 4K ใต้น้ำ (4K Underwater Mode), การลบแสงสะท้อนด้วย AI และความสามารถในการสแนปภาพที่ไม่พลาดแม้ในสภาวะแสงน้อย ทำให้ทุกความทรงจำถูกบันทึกไว้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ จอแสดงผลยังเป็นแบบ AMOLED Pro-Esports Display ขนาด 6.78 นิ้ว ที่ให้สีสันสดใส คมชัด พร้อมความสว่างสูงสุดถึง 6000nits มองเห็นชัดเจนแม้ในที่แสงจ้า และยังทนทานด้วยมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP69 ทำให้พร้อมลุยไปกับผู้ใช้งานในทุกสถานการณ์
realme GT 7 Dream Edition: การผนึกกำลังของตำนาน สู่สมาร์ตโฟนดีไซน์สปอร์ตสุดหรู
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานคือการเปิดตัว realme GT 7 Dream Edition ซึ่งถือเป็นตำนานบทใหม่แห่งวงการสมาร์ตโฟน เกิดจากการพัฒนาร่วมกันเป็นครั้งแรกของโลกระหว่าง realme และทีมรถแข่ง F1™ ชื่อดังอย่าง Aston Martin Formula One™ Team สมาร์ตโฟนรุ่นพิเศษนี้มาในโทนสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ Aston Martin Racing Green ที่สะท้อนความเร็วและความโฉบเฉี่ยว
ประทับด้วยสัญลักษณ์ปีกคู่ (Twin-wing) สุดล้ำ และโลโก้แกะสลัก Silver Wings ที่เติมเต็มจิตวิญญาณแห่งความเลิศหรูและความสปอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เพียงเท่านั้น realme GT 7 Dream Edition ยังมาในกล่องดีไซน์สุดพิเศษ พร้อมด้วยเคส Silver Wing และเข็มจิ้มซิมที่ออกแบบเป็นรูปทรงรถแข่ง F1 มอบประสบการณ์สุดประทับใจและควรค่าแก่การสะสมสำหรับแฟนๆ และผู้ที่ชื่นชอบดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์
realme GT 7 T: พลังเรือธงตัวจริง ยืนหนึ่งในเซกเมนต์ด้วยความคุ้มค่า
สำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่าในระดับเรือธง realme ได้นำเสนอ realme GT 7 T ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Dimensity 8400-MAX ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังและประหยัดพลังงานมากที่สุดในเซกเมนต์เดียวกัน แม้จะเป็นรุ่นรองลงมา แต่ realme GT 7 T ยังคงอัดแน่นด้วยสเปกสำคัญแบบเดียวกับรุ่นพี่ GT 7 ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh พร้อมระบบชาร์จไว 120W, ดีไซน์ฝาหลังแบบ IceSense Graphene ที่ช่วยระบายความร้อน และผู้ช่วยอัจฉริยะ AI Planner ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความทนทานของแบตเตอรี่ ความลื่นไหลในการใช้งาน และระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม เพื่อมอบประสบการณ์สมาร์ตโฟนที่เป็น “ยืนหนึ่งตัวจริง” ในเซกเมนต์นี้
realme x Google Gemini: อัจฉริยภาพ AI ผสานพลังฮาร์ดแวร์แห่งอนาคต
realme ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม AI ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับ Google Gemini AI ซึ่งเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์แบบมัลติโหมด (Multimodal) ที่มีความสามารถขั้นสูงในการเข้าใจและเชื่อมโยงข้อมูลหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ, รหัส, เสียง, ภาพ และวิดีโอ ได้อย่างราบรื่นและไร้รอยต่อ Gemini AI จะถูกติดตั้งมาพร้อมใช้งานใน realme GT 7 Series ทุกรุ่น เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ชาญฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย
อาทิ AI Translator ที่ช่วยทลายกำแพงภาษาในการสื่อสารแบบเรียลไทม์, AI Eraser 2.0 สำหรับการแก้ไขภาพถ่ายขั้นสูง ลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้อย่างแนบเนียน และ AI Tools 2.0 ชุดเครื่องมือ AI ที่ช่วยในการสร้างสรรค์คอนเทนต์อัตโนมัติได้อย่างมืออาชีพ การผสานพลังระหว่าง AI ชั้นนำของ Google และฮาร์ดแวร์อันทรงพลังของ realme GT 7 Series จึงเป็นการยกระดับประสบการณ์สมาร์ตโฟนไปอีกขั้น สร้างความสะดวกสบายและชาญฉลาดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ราคาและการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
ภายในงานเปิดตัว ณ กรุงปารีส realme ได้ประกาศราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ realme GT 7 Series ในประเทศไทย ดังนี้:
- realme GT 7 T (12GB RAM / 256GB ROM): ราคา 17,999 บาท
- realme GT 7 (12GB RAM / 512GB ROM): ราคา 22,999 บาท
- realme GT 7 Dream Edition (16GB RAM / 512GB ROM): ราคา 24,999 บาท
ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้า (พรีออเดอร์) ได้ตั้งแต่วันที่ 27-30 พฤษภาคม และจะเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 31 พฤษภาคม ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้:
- ช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ อาทิ Banana, BKK, Cyberkong, Kingkong Phone, IT City, TG, Jaymart, Stamp, Advice และ Singer
- ช่องทางเครือข่ายผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์): True, Dtac และ AIS
- ช่องทางอีคอมเมิร์ซ: Shopee, Lazada และ Tiktok Shop (สำหรับช่องทางอีคอมเมิร์ซ จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมเป็นต้นไป)
พิเศษสุด! สำหรับรุ่น realme GT 7 Dream Edition จะวางจำหน่ายเฉพาะช่องทาง Shopee และ realme Brand Shop ในสาขาที่กำหนดเท่านั้น
การเปิดตัว realme GT 7 Series ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ realme ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมสเปกระดับเรือธงในราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ พร้อมที่จะสร้างความยิ่งใหญ่และขับเคลื่อนกระแส AI ให้กระหึ่มในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนปี 2025 อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ realme ในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานยุคใหม่ ภายใต้สโลแกน “Make it real” ที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่จับต้องได้และเป็นประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารล่าสุด กิจกรรม และโปรโมชั่นต่างๆ ของ realme เพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ realme Thailand ทุกช่องทาง
#realmeGT7Series #realme #นักฆ่าเรือธง #สมาร์ตโฟนAI #เปิดตัวมือถือ #AstonMartin #GoogleGemini #เทคโนโลยี #ข่าวเศรษฐกิจ #realmeTH #Dimensity9400e #IceSenseGraphene #AIPlanner
