ในสมรภูมิการแข่งขันระดมทุนที่เข้มข้น สตาร์ทอัพ แบบใดที่จะสามารถดึงดูดสายตาและความเชื่อมั่นจากนักลงทุน Venture Capital ระดับโลก? Raisewell Ventures ผ่านมุมมองและประสบการณ์ของผู้ก่อตั้ง คุณจิ๊ป ไคลน์ เผยให้เห็นคุณลักษณะสำคัญที่นักลงทุนมองหา ตั้งแต่ DNA ของผู้ประกอบการ ศักยภาพของตลาด เทคโนโลยี ไปจนถึงผลกระทบที่สร้างสรรค์
การเดินทางของ สตาร์ทอัพ สู่ความสำเร็จนั้นจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายประการ และหนึ่งในนั้นคือการได้รับการสนับสนุนทางการเงินและเชิงกลยุทธ์จากนักลงทุน Venture Capital (VC) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง VC ระดับโลกที่มีเครือข่ายและประสบการณ์กว้างขวาง คำถามสำคัญคือ สตาร์ทอัพแบบไหนที่จะสามารถ “ติดเรดาร์” และชนะใจนักลงทุนเหล่านี้ได้? คุณจิ๊ป ไคลน์ ผู้ก่อตั้ง Raisewell Ventures กองทุน VC ที่มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) และการสร้างผลกระทบเชิงบวก (Impact-driven) ได้ให้ทรรศนะที่น่าสนใจยิ่งเกี่ยวกับคุณสมบัติที่นักลงทุนระดับสากลมองหา ซึ่งเป็นมากกว่าแค่ไอเดียธุรกิจที่บรรเจิด
1. DNA ของผู้ประกอบการ: หัวใจสำคัญที่นักลงทุนให้ราคาสูงสุด
คุณจิ๊ป ไคลน์ เน้นย้ำเสมอว่า “สิ่งสำคัญที่สุดเวลาที่เราลงทุน คือเพราะ entrepreneurs เพราะผู้ประกอบการค่ะ” นักลงทุน VC ระดับโลกให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับตัวผู้ประกอบการและทีมงาน โดยมองหาคุณสมบัติเฉพาะตัวที่บ่งชี้ถึงศักยภาพในการนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ
- วิสัยทัศน์ระดับโลก (Global/Regional Vision): นักลงทุนมองหาผู้ประกอบการที่ไม่จำกัดกรอบความคิดอยู่แค่ตลาดในประเทศ แต่มีแผนทะเยอทะยานที่จะขยายธุรกิจไปสู่ระดับภูมิภาคหรือระดับโลก คุณจิ๊ปยกตัวอย่างสตาร์ทอัพบางราย ของไทยที่กำลังพิจารณาลงทุนว่า “บริษัทนี้จิ๊ปชอบตรงที่ว่า ผู้ประกอบการเนี่ย เขาคิดว่าเขาเป็น global company since day one เขาเห็นเลยว่าเขาสามารถ serve ทั้ง Southeast Asia region ได้” การมองเห็นตลาดที่ใหญ่กว่า เช่น ตลาดอาเซียนที่มีประชากรกว่า 700 ล้านคน คือสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจ เพราะ “อัพไซส์เราไม่ควรจะลิมิตแค่ 70 ล้านคน”
- ความเป็นนักสู้และปรับตัวได้ (Resilience & Adaptability – “Hustler” DNA): เส้นทางสตาร์ทอัพเต็มไปด้วยอุปสรรคและความไม่แน่นอน ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จต้องมีความทรหดอดทน สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และไม่ย่อท้อต่อปัญหา คุณจิ๊ปเรียกผู้ประกอบการประเภทนี้ว่ามี “DNA ของความเป็นนักสู้” หรือ “Hustler” ที่สามารถ “แข็งแกร่งตลอดเวลา” และ “รู้จักประยุกต์” กลยุทธ์ได้ตามสถานการณ์ ดังที่เธอกล่าวว่า “”สัญชาตญาณผู้ประกอบการ” คนที่เป็นผู้ประกอบการหรือว่าเป็น founder เนี่ย เขาจะต้องมี DNA อยู่ในตัวของเขาเอง”
- ความสามารถในการดำเนินงานที่เป็นเลิศ (Execution Excellence): ไอเดียที่ดีเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ความสามารถในการนำไอเดียนั้นไปปฏิบัติให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมคือสิ่งที่สำคัญกว่า คุณจิ๊ปชื่นชมสตาร์ทอัพที่ “เน้น execution เน้นการประกอบการ อือ ไม่เน้น marketing”
- ความสามัคคีและความแข็งแกร่งของทีม (Team Synergy): ความสัมพันธ์ที่ดีและความสามารถในการทำงานร่วมกันของทีมผู้ก่อตั้งเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่ง “ผู้ก่อตั้งบริษัททั้ง 2 ท่าน ทั้ง CEO กับ COO ก็ต้องบอกว่า มีทำงานด้วยกันมาตั้งแต่ต้น สร้างบริษัทด้วยกันตั้งแต่ต้น เราก็เห็นว่ามี synergy ที่ดีต่อกัน”
- ความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง (Deep Market Understanding): การรู้จักกลุ่มเป้าหมายและบริบทของตลาดที่เข้าไปแข่งขันเป็นอย่างดีมีความสำคัญ ดังเช่น “Grab เข้า ใจ consumer ทาง แถบ South East Asia”
- ความเปิดกว้างและต้องการคุณค่าที่มากกว่าเงินทุน (Coachability & Seeking Value-Add): ผู้ประกอบการที่นักลงทุนชื่นชอบคือผู้ที่เปิดรับคำแนะนำ และมองหาคุณค่าจาก VC ที่มากกว่าแค่เม็ดเงิน เช่น องค์ความรู้ ( Knowledge) ทักษะ (Skills) และเครือข่าย (Network) ดังที่สตาร์ทอัพรายดังกล่าวบอกกับคุณจิ๊ปว่า “อยากได้ความรู้ skills knowledge แล้วก็ network ที่เป็น global ซึ่งเค้าก็บอกว่าหาไม่ได้ง่ายในประเทศไทย”
2. ศักยภาพของตลาด: โอกาสในการเติบโตและขยายขนาด
นักลงทุน VC ระดับโลกมองหาโอกาสในการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งมักจะอยู่ในตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพในการเติบโตสูง
- ตลาดขนาดใหญ่ที่สามารถขยายตัวได้ (Large Addressable & Scalable Market): สตาร์ทอัพต้องแสดงให้เห็นว่าตลาดที่ตนเองเข้าไปแข่งขันนั้นมีขนาดใหญ่เพียงพอ และธุรกิจสามารถขยายตัว (Scale) เพื่อเข้าถึงส่วนแบ่งตลาดที่สำคัญได้ การตั้งเป้าไปที่ตลาดระดับภูมิภาคอย่างอาเซียนจึงเป็นที่น่าสนใจ
- การแก้ไขปัญหาที่แท้จริงและมีนัยสำคัญ (Solving Real Pain Points): สตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จมักจะนำเสนอทางออกให้กับปัญหาที่มีอยู่จริงและมีความสำคัญต่อกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง คุณจิ๊ปกล่าวว่า “startup ก็ต้องมีการแก้ปัญหา คือเพนท์พอยต์ ที่เขาเลือกที่จะแจ้งเกิด”
- การอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง (High-Growth Industries): การลงทุนในอุตสาหกรรมที่เป็นเทรนด์และมีอนาคตสดใสตามธีมการลงทุนของ VC นั้น ๆ เช่น เทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) ตามแนวทางของ Raisewell Ventures ซึ่งรวมถึง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Transition), การเปลี่ยนแปลงการผลิต (Manufacturing Transition), และการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Wellbeing Transition) ถือเป็นที่น่าสนใจ
3. ความได้เปรียบทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ในยุคที่เทคโนโลยีขับเคลื่อนโลก สตาร์ทอัพที่มีความโดดเด่นทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมย่อมได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
- เทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech): นักลงทุนอย่าง Raisewell มุ่งเน้นการลงทุนใน Deep Tech ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สร้างความเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานและยากต่อการลอกเลียนแบบ มักเกิดจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมขั้นสูง
- การประยุกต์ใช้ AI อย่างชาญฉลาด: ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่สำคัญ คุณจิ๊ปเห็นว่า “ทุกบริษัทต้องมีเป็น platform fundamental ” สตาร์ทอัพที่สามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างนวัตกรรม หรือสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันจึงเป็นที่ต้องการ
- นวัตกรรมที่สร้างความแตกต่าง: ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ หรือการนำเทคโนโลยีที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้ในรูปแบบใหม่ที่สร้างสรรค์และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ดีกว่าเดิม
4. รูปแบบธุรกิจที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืน
นักลงทุนมองหาธุรกิจที่มีรูปแบบชัดเจนและมีโอกาสในการสร้างรายได้และผลกำไรในระยะยาว
- โมเดลธุรกิจที่ชัดเจนและมีศักยภาพ (Clear & Viable Business Model): สตาร์ทอัพต้องสามารถอธิบายได้ว่าธุรกิจของตนสร้างรายได้อย่างไร และโมเดลนั้นมีความยั่งยืนหรือไม่
- แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ (Traction): แม้จะเป็นสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้น (Raisewell ลงทุนตั้งแต่ Pre-seed) การแสดงให้เห็นถึงสัญญาณการตอบรับที่ดีจากตลาด หรือมีแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ
- เส้นทางสู่การทำกำไร (Path to Profitability): ถึงแม้สตาร์ทอัพในระยะแรกอาจเน้นการเติบโตมากกว่ากำไร แต่นักลงทุนก็ต้องการเห็นแผนงานที่ชัดเจนในการสร้างผลกำไรในอนาคต คุณจิ๊ปเล่าถึงสตาร์ทอัพรายเดิมว่า “ปีนีเขาอาจจะเน้นผลกำไรมากกว่ารายได้ พอเวลาที่เขาระดมทุนได้ปุ๊บ เขาจะเน้นกลับมาเน้นท็อปไลน์เพื่อที่จะขยายฐานลูกค้า”
5. การสร้างผลกระทบเชิงบวก (Impact-Driven Ventures)
แนวโน้มสำคัญที่กำลังมาแรงในวงการ VC คือการลงทุนที่ไม่ได้มุ่งหวังเพียงผลตอบแทนทางการเงิน แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ
- ศักยภาพในการสร้างผลกระทบที่วัดผลได้: กองทุนอย่าง Raisewell Ventures เป็น “Impact Venture Capital Fund” ที่มองหาการลงทุนที่ “นอกเหนือจากได้ผลตอบแทนทางการเงิน ก็จะได้ผลตอบแทนทางสังคม สิ่งแวดล้อม หรือทางเศรษฐกิจ ตามแต่ที่กองทุนตั้งจุดประสงค์นั้นขึ้นมา”
- การสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับโลก: เช่น การลงทุนใน Climate Tech ที่สอดรับกับเป้าหมาย Net-Zero หรือเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน
- มุมมองที่กว้างกว่า “ยูนิคอร์น”: คุณจิ๊ปชี้ว่า “ยูนิคอร์นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด การที่สตาร์ทอัพนั้น ๆ มีมูลค่าถึง 1 billion dollars ไม่ใช่เป็นตัววัดว่าบริษัทนี้ ประสบความสำเร็จ” แต่มองที่คุณค่าและผลกระทบที่แท้จริงที่ธุรกิจนั้นสร้างขึ้น
โดยสรุปแล้ว สตาร์ทอัพที่จะสามารถดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน VC ระดับโลกได้นั้น ต้องมีส่วนผสมที่ลงตัวของทีมผู้ก่อตั้งที่มีความสามารถและวิสัยทัศน์ ตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่โดดเด่น รูปแบบธุรกิจที่แข็งแกร่ง และในปัจจุบัน รวมถึงศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืน การเตรียมความพร้อมในทุกมิติเหล่านี้ คือกุญแจสำคัญที่จะเปิดประตูสู่โอกาสในการเติบโตและการสนับสนุนจากนักลงทุนระดับโลก.
#สตาร์ทอัพน่าลงทุน #นักลงทุนVC #คุณสมบัติสตาร์ทอัพ #GlobalVC #RaisewellVentures #DeepTech #AI #ImpactInvesting #ระดมทุนสตาร์ทอัพ #เคล็ดลับสตาร์ทอัพ