วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 สร้างความประทับใจให้นักลงทุน ด้วยกำไรสุทธิ 43 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยมีรายได้รวม 428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% YoY และมี EBITDA อยู่ที่ 151 ล้านบาท เติบโต 21% ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างโดดเด่นของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ที่มีรายได้ถึง 413 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% YoY ปัจจัยหลักมาจากอัตราการเข้าพักที่คึกคักของโรงแรมในเครือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลยุทธศาสตร์อย่างภูเก็ตและสมุย ส่งผลให้ค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) ปรับตัวสูงขึ้น 11% สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารจัดการและกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวคุณภาพได้อย่างตรงจุด
ท่ามกลางบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยที่ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง วีรันดา รีสอร์ท ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และการปรับตัวที่รวดเร็วต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ล่าสุด “วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น” (Veranda Resort Phuket, Autograph Collection) ซึ่งมีจำนวนห้องพักถึง 159 ห้อง ได้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนระดับลักซ์ชัวรี กระแสตอบรับที่ดีเกินคาดนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่อแบรนด์วีรันดาฯ และศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปียังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตได้อย่างน่าทึ่ง
ขณะเดียวกัน “วีรันดา คอลเลกชัน สมุย – ร็อคกี้ รีสอร์ท” (Veranda Collection Samui – Rocky’s Resort) ก็ไม่น้อยหน้า ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และยิ่งได้รับอานิสงส์จากกระแสซีรีส์ดังระดับโลกที่เลือกเกาะสมุยเป็นหนึ่งในฉากถ่ายทำ ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเกาะสมุยและรีสอร์ทในเครือวีรันดาฯ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาเยือน ส่งผลบวกโดยตรงต่ออัตราการเข้าพักและรายได้ของรีสอร์ท ความสำเร็จของทั้งสองแห่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ค่าเฉลี่ยห้องพัก (ADR) โดยรวมของเครือวีรันดาฯ เติบโตถึง 11% และหนุนให้รายได้จากกิจการโรงแรมรวมในไตรมาสนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำในธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ ได้เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานที่น่าพอใจนี้ว่า “ผลประกอบการในไตรมาส 1/2568 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาและยกระดับประสบการณ์การพักผ่อนให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง การเปิดตัว วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ซึ่งเป็นผลมาจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ ประกอบกับตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตที่ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่องทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ในขณะที่ วีรันดา คอลเลกชัน สมุย – ร็อคกี้ รีสอร์ท ก็ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม โดยได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสของซีรีส์ดัง ทำให้ทั้งสองแห่งนี้เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างแท้จริง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เราสามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 43 ล้านบาท เติบโต 18% และมี EBITDA อยู่ที่ 151 ล้านบาท เติบโต 21% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนของเราต่อไป”
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 แม้ภาพรวมตลาดท่องเที่ยวไทยอาจจะเผชิญกับความท้าทายจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อย แต่วีรันดาฯ ยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดภูเก็ตและสมุยซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพในการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โรงแรม “วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น” ยังคงสร้างปรากฏการณ์และได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการที่มีการแชร์ภาพถ่ายและวิดีโอบรรยากาศความสวยงามและความประทับใจในการเข้าพัก ณ โรงแรมแห่งนี้อย่างล้นหลามบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ก่อให้เกิดกระแสไวรัลและสร้างความสนใจในวงกว้างอย่างมาก
สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จในการออกแบบและการให้บริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ส่งผลให้ผลประกอบการของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทในไตรมาส 1/2568 ดีกว่าที่บริษัทได้คาดการณ์ไว้ โดยสามารถทำกำไรทางบัญชีได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกที่เริ่มเปิดให้บริการ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจอย่างยิ่ง และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ที่สำคัญคือ EBITDA margin หรืออัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ในส่วนของกิจการโรงแรมได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 35% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 38% ในไตรมาสนี้ แม้ว่าจะมีการเปิดโรงแรมใหม่ ซึ่งโดยปกติแล้วการเปิดโรงแรมใหม่มักจะส่งผลให้ EBITDA margin ลดลงในช่วงแรกเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น แต่สำหรับวีรันดาฯ กลับสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพจนทำให้ตัวเลขดังกล่าวเติบโตสวนทาง นับเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญและความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและสร้างผลกำไรของบริษัท
เพื่อเป็นการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว วีรันดาฯ ได้วางกลยุทธ์เชิงรุกในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง โดยมุ่งเน้นไปที่นักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรป เช่น อังกฤษ และเยอรมัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยมเดินทางมาพักผ่อนในประเทศไทยเป็นระยะเวลานาน (Long-stay) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวของทวีปยุโรป นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่มีกำลังซื้อสูงเท่านั้น แต่ยังชื่นชอบการท่องเที่ยวในรูปแบบหรูหรา (Luxury Travel) ซึ่งสอดคล้องกับ positioning ของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือวีรันดาฯ ที่เน้นการมอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับ
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับตลาดนักท่องเที่ยวชาวอเมริกา ที่มีแนวโน้มมองหาการพักผ่อนในระยะเวลาที่นานขึ้น (Extended Stay) เพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมและประสบการณ์ท้องถิ่นอย่างแท้จริง กลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าใหม่นี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่ง แต่ยังเป็นการตอบสนองและสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่มีเป้าหมายในการผลักดันให้นักท่องเที่ยวระยะไกลที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูงเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมายรายได้รวมภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปีนี้ที่ตั้งไว้สูงถึง 2.23 ล้านล้านบาท การปรับกลยุทธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารวีรันดาฯ ที่ไม่หยุดนิ่งในการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ และพร้อมปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกสภาวการณ์
นอกเหนือจากธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่เติบโตอย่างโดดเด่นแล้ว ในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ วีรันดาฯ ก็มีข่าวดีให้ผู้ถือหุ้นได้ชื่นใจเช่นกัน โดยบริษัทจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต ภายในปี 2568 นี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า สะท้อนจากยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในปัจจุบันที่มีมูลค่าสูงถึง 756 ล้านบาท การรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นี้จะเข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอรายได้ของบริษัทให้มีความหลากหลายและมั่นคงยิ่งขึ้น ตอกย้ำสถานะของ VRANDA ในฐานะผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย ที่ไม่หยุดนิ่งในการสร้างสรรค์โครงการคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม
ความสำเร็จของวีรันดา รีสอร์ท ในไตรมาสแรกของปี 2568 นี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขผลประกอบการที่สวยหรูเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัว การวางกลยุทธ์ที่เฉียบคม และความมุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำพาให้ VRANDA ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต การให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูงจากตลาดยุโรปและอเมริกา ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการโรงแรมและรีสอร์ทที่มีอยู่ให้คงไว้ซึ่งมาตรฐานความเป็นเลิศ และการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้วีรันดา รีสอร์ท สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล.
#VRANDA #วีรันดารีสอร์ท #ผลประกอบการ #ไตรมาส1ปี2568 #กำไรพุ่ง #ท่องเที่ยวภูเก็ต #ท่องเที่ยวสมุย #โรงแรมหรู #AutographCollection #RockysResort #อสังหาริมทรัพย์ #ข่าวเศรษฐกิจ #การลงทุน