AIS ผนึกรัฐ-ภาคี ดัน “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” สกัดภัยออนไลน์

AIS ผนึกรัฐ-ภาคี ดัน “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” สกัดภัยออนไลน์

เอไอเอส ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์กับกระทรวงดิจิทัลฯ, สกมช., และตำรวจไซเบอร์ เดินหน้าภารกิจ “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” จัดเสวนา “Zero Scam Thailand” ระดมสมองทุกภาคส่วนวางรากฐานระบบนิเวศดิจิทัลที่แข็งแกร่ง หวังตัดวงจรอาชญากรรมออนไลน์ตั้งแต่ต้นตอ สร้างความเชื่อมั่นและปกป้องประชาชนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ท่ามกลางความท้าทายของภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงและสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยเป็นวงกว้าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลชั้นนำของประเทศ ได้ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรง ประกาศเดินหน้าภารกิจสำคัญในการยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศอย่างเต็มรูปแบบภายใต้แนวคิด “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์”

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ นำโดย เอไอเอส, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES), สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.), และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งให้กับประชาชนและระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของมิจฉาชีพและอาชญากรไซเบอร์

เพื่อเป็นการเริ่มต้นภารกิจดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ได้มีการจัดงานเสวนาในหัวข้อ “Zero Scam Thailand: รวมพลังหยุดภัยไซเบอร์ สู่สังคมปลอดภัย” ซึ่งทำหน้าที่เป็นเวทีกลางในการระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และแสวงหาแนวทางความร่วมมือเชิงรุกระหว่างหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรในระบบนิเวศดิจิทัล เพื่อวางแนวทางในการสกัดกั้นและตัดวงจรภัยคุกคามทางไซเบอร์ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ตอกย้ำเจตนารมณ์ในการสร้างเครือข่ายดิจิทัลที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับคนไทยทุกคน

ภาครัฐชูเป็นวาระแห่งชาติ ย้ำความร่วมมือคือหัวใจสำคัญ

ภายในงานเสวนา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของนโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับประเทศว่า “รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ให้ความสำคัญกับการยกระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ที่กระทบประชาชนโดยตรง

นายประเสริฐ ได้ฉายภาพการดำเนินงานที่ผ่านมาของกระทรวงดิจิทัลฯ ว่าได้มีการขับเคลื่อนในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการวางกลไกการทำงานในระดับชาติผ่าน สกมช., การเสริมศักยภาพของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) 1441, การพัฒนามาตรฐานและบุคลากรดิจิทัลร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้และภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

AIS

“อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงไซเบอร์ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งด้านนโยบาย การบังคับใช้กฎหมาย และการสร้างโครงข่ายดิจิทัลที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบต่อสังคม” นายประเสริฐกล่าว พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณไปยัง AIS “ขอขอบคุณเอไอเอสที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง ความร่วมมือในวันนี้คือก้าวสำคัญในการวางรากฐานระบบนิเวศไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง แม้ภัยไซเบอร์จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ผลกระทบนั้นชัดเจน เราจึงต้องร่วมกันสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักรู้ในทุกระดับของสังคม

AIS ขานรับนโยบาย พร้อมเป็นแกนหลักภาคเอกชน

ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายที่มีลูกค้าในมือกว่า 50.8 ล้านราย (ข้อมูล ณ มีนาคม 2568) ซึ่งครอบคลุมทั้งบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 45.7 ล้านเลขหมาย และอินเทอร์เน็ตบ้าน AIS 3BB FIBRE3 อีก 5.1 ล้านราย AIS ตระหนักดีถึงบทบาทและความรับผิดชอบในการเป็นปราการด่านแรกที่ต้องปกป้องผู้ใช้บริการ

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวถึงความมุ่งมั่นขององค์กรว่า “เอไอเอส มุ่งมั่นในการร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ ‘ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์’ อย่างเป็นรูปธรรม โดยการรวมพลังทุกภาคส่วนสร้างเครือข่ายที่ปลอดภัย เพื่อปกป้องประชาชนจากภัยไซเบอร์ วันนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการสานต่อภารกิจดังกล่าว ซึ่งเอไอเอสได้ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลฯ, สกมช. และ สอท. จัดเสวนา ‘Zero Scam Thailand’ เพื่อเปิดเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ให้แก่หน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรในระบบนิเวศดิจิทัล เพื่อตอกย้ำว่าทุกคนล้วนเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับการป้องกันภัยไซเบอร์ของประเทศ

นางสายชลย้ำว่า ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ของ เอไอเอส ในการก้าวสู่การเป็นองค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการพัฒนาเทคโนโลยีและบริการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดกับการสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างแท้จริง

ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม: เดิมพันที่มองข้ามไม่ได้

ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ไม่ใช่เป็นเพียงปัญหาส่วนบุคคล แต่ยังส่งผลกระทบในระดับมหภาคต่อเศรษฐกิจของประเทศ ความเสียหายทางการเงินจากการหลอกลวงออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการโจรกรรมข้อมูล คิดเป็นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี นอกจากนี้ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนและภาคธุรกิจต่อการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลที่รัฐบาลกำลังผลักดัน

การประกาศ “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” จึงเปรียบเสมือนการลงทุนครั้งสำคัญเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจในระยะยาว เมื่อประชาชนและภาคธุรกิจมีความมั่นใจในความปลอดภัย ย่อมส่งผลให้เกิดการใช้งานบริการดิจิทัลในทุกมิติมากขึ้น ทั้ง E-commerce, Digital Banking, และบริการออนไลน์ต่างๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ

ก้าวต่อไป: สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน

ความร่วมมือระหว่าง เอไอเอส และภาคีเครือข่ายในครั้งนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การจัดเสวนา แต่เป็นการวางรากฐานสำหรับความร่วมมือในระยะยาว โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศไซเบอร์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน (Sustainable Cyber Ecosystem) ที่ทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ตั้งแต่การกำหนดนโยบายที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของภัยคุกคาม การบังคับใช้กฎหมายที่เฉียบขาด การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการป้องกันและตรวจจับที่มีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการสร้างความตระหนักรู้ในระดับประชาชนให้กลายเป็น “พลเมืองดิจิทัลที่รู้เท่าทัน”

“จากความร่วมมือและความมุ่งมั่นจากทุกภาคส่วน เอไอเอส เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถสร้างระบบนิเวศไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง ปลอดภัย และยั่งยืน พร้อมส่งมอบอนาคตดิจิทัลที่เชื่อถือได้ให้กับประชาชนทุกคน เพื่อก้าวสู่สังคมไทยที่ปลอดภัยและพร้อมรับมือทุกความท้าทายในยุคดิจิทัลนี้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางสายชล กล่าวสรุป

การผนึกกำลังครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของการต่อสู้กับภัยไซเบอร์ ที่ไม่ใช่การทำงานแบบแยกส่วนอีกต่อไป แต่เป็นการรวมพลังของทุกองคาพยพในสังคมเพื่อเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการสร้างพื้นที่ดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับคนไทยทุกคน

#AIS #ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ #กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม #ตำรวจไซเบอร์ #สกมช #ZeroScamThailand #หยุดภัยไซเบอร์ #เศรษฐกิจดิจิทัล #ข่าวเศรษฐกิจ

Related Posts