AIS ย้ำบัลลังก์เจ้าแห่งโครงข่าย ทุ่มงบ 14,850 ล้านบาท คว้าชัยการประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz จำนวน 3 ชุด รวม 30 MHz จาก กสทช. เสริมทัพคลื่นในมือรวมมากที่สุดในอุตสาหกรรม เดินหน้ายกระดับประสบการณ์เครือข่ายอัจฉริยะ 5G/4G ให้คนไทยทั่วประเทศ พร้อมขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในการชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดย เอไอเอส เป็นผู้ชนะการประมูลในชุดคลื่นความถี่จำนวน 3 ชุด ซึ่งมีขนาดคลื่นความถี่รวม 30 MHz (15 MHz x 2) ด้วยราคาประมูลรวมทั้งสิ้น 14,850 ล้านบาท
การเข้าถือครองคลื่นความถี่ 2100 MHz ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอคลื่นความถี่ของ เอไอเอส ที่มีอยู่เดิม แต่ยังเป็นการตอกย้ำสถานะความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ในฐานะผู้ให้บริการที่มีคลื่นความถี่ในมือมากที่สุด ครอบคลุมทุกย่านความถี่ ทั้งย่านความถี่ต่ำ (Low-Band), ย่านความถี่กลาง (Mid-Band) และย่านความถี่สูง (High-Band) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ซีอีโอ AIS ชี้ “การลงทุนที่คุ้มค่าเพื่ออนาคต”
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ชนะการประมูลในครั้งนี้ ซึ่งทำให้เราได้คลื่นความถี่ที่ต้องการและสามารถนำมาใช้งานได้ทันทีในปัจจุบัน ในราคาที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในระยะยาว การได้รับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2100 MHz จะทำให้ เอไอเอส สามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เครือข่าย 5G ของ เอไอเอส นอกจากมีความครอบคลุมที่ดีแล้ว ยังเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าของเรา ทั้งในด้านคุณภาพ ความเร็ว และสามารถรองรับเทคโนโลยีต่างๆ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี”
“ความสำเร็จนี้ยังตอกย้ำถึงพันธกิจของเรา ในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและยั่งยืน” นายสมชัยกล่าวเสริม
คำกล่าวของซีอีโอ เอไอเอส สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มองการลงทุนครั้งนี้ว่าเป็นการวางรากฐานเพื่ออนาคต ไม่ใช่เพียงแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการเตรียมความพร้อมของโครงข่ายเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เช่น Internet of Things (IoT), ปัญญาประดิษฐ์ (AI), และบริการดิจิทัลรูปแบบต่างๆ ที่ต้องการความเร็วและความเสถียรของเครือข่ายในระดับสูง
คลื่น 2100 MHz “ขุมกำลังหลัก” ของเครือข่าย 4G/5G
คลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz ถูกจัดอยู่ในกลุ่มคลื่นความถี่ย่านกลาง (Mid-Band) ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็น “คลื่นขุมกำลังหลัก” (Capacity Band) สำหรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเทคโนโลยี 4G และ 5G
คุณสมบัติเด่นของคลื่นย่านกลางคือความสมดุลที่ลงตัวระหว่าง “ความครอบคลุมของสัญญาณ (Coverage)” และ “ความสามารถในการรองรับปริมาณการใช้งาน (Capacity)” ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการให้บริการในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของประชากรสูง เช่น ในเขตเมืองใหญ่ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า หรือพื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานดาต้าจำนวนมหาศาล
การได้มาซึ่งคลื่น 2100 MHz เพิ่มเติมอีก 30 MHz จะช่วยให้ เอไอเอส สามารถขยายขีดความสามารถของเครือข่ายได้อย่างมหาศาล เปรียบเสมือนการขยายช่องจราจรบนถนนดิจิทัลให้กว้างขึ้น ส่งผลให้ลูกค้า เอไอเอส จะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดหรืออัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่, การสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูง, การเล่นเกมออนไลน์, หรือการใช้งานวิดีโอคอลล์ที่จะมีความคมชัดและลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาการเชื่อมต่อที่หน่วงหรือหลุดในชั่วโมงเร่งด่วน
เสริมแกร่งเครือข่าย 5G อัจฉริยะ ตอกย้ำความเป็นผู้นำ
ปัจจุบัน AIS เป็นผู้นำด้านบริการ 5G ที่ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย การผนึกกำลังของคลื่น 2100 MHz ที่ได้มาใหม่เข้ากับคลื่นความถี่เดิมที่ AIS มีอยู่ จะเป็นการสร้างโครงข่าย 5G ที่สมบูรณ์แบบและทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- คลื่นย่านความถี่ต่ำ (Low-Band: 700 MHz, 900 MHz): ทำหน้าที่สร้างความครอบคลุมในพื้นที่กว้างไกลทั่วประเทศ ทะลุทะลวงเข้าสู่ภายในอาคารได้ดี
- คลื่นย่านความถี่กลาง (Mid-Band: 1800 MHz, 2100 MHz, 2600 MHz): เป็นหัวใจหลักในการให้บริการ 5G ที่มีความเร็วสูงและรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากในเวลาเดียวกัน การได้คลื่น 2100 MHz เพิ่มเติม จะช่วยเสริมชั้นความจุ (Capacity Layer) ให้หนาแน่นและแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- คลื่นย่านความถี่สูง (High-Band: 26 GHz): ใช้สำหรับพื้นที่ที่ต้องการความเร็วสูงสุดและความหน่วงต่ำเป็นพิเศษ (Ultra-low latency) เช่น ในโรงงานอัจฉริยะ หรือพื้นที่เฉพาะทาง
การมีคลื่นครบทุกย่านความถี่ทำให้ เอไอเอส สามารถบริหารจัดการโครงข่ายได้อย่างยืดหยุ่นและชาญฉลาด (Network Slicing) เพื่อจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมกับแต่ละประเภทการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด
เดินหน้าลงทุน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
การลงทุนมูลค่าเกือบ 1.5 หมื่นล้านบาทในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ เอไอเอส ในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะนำคลื่นความถี่ที่ได้รับมาไปพัฒนาและใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ในทันที
เอไอเอส ตั้งเป้าที่จะใช้คลื่นความถี่ใหม่นี้เพื่อยกระดับคุณภาพบริการที่มีอยู่, ขยายความครอบคลุมของเครือข่าย 5G ให้ลึกและหนาแน่นยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือการต่อยอดนวัตกรรมบริการดิจิทัลใหม่ๆ เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างทัดเทียม ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคทั่วไปเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก
โครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่แข็งแกร่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจยุคใหม่ การลงทุนของ AIS ในครั้งนี้จึงมีนัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Transformation) ของประเทศให้เติบโตไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ หลังจากนี้จะเป็นกระบวนการของ กสทช. ที่จะมีการประชุมเพื่อมีมติรับรองผลการประมูลอย่างเป็นทางการต่อไป ก่อนที่ AIS จะได้รับใบอนุญาตและสามารถนำคลื่นความถี่ไปใช้งานได้ตามแผนที่วางไว้
#AIS #AWN #ประมูลคลื่น #คลื่น2100MHz #AIS5G #เครือข่ายอัจฉริยะ #กสทช #เศรษฐกิจดิจิทัล #โทรคมนาคม #การลงทุน #สมชัยเลิศสุทธิวงค์