Amadeus ฉายภาพท่องเที่ยวไทย-กรุงเทพฯ โอกาสและความท้าทาย

Amadeus ฉายภาพท่องเที่ยวไทย-กรุงเทพฯ โอกาสและความท้าทาย

ท่ามกลางภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำและทันท่วงทีได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในการตัดสินใจและวางกลยุทธ์ Amadeus ผู้นำด้านเทคโนโลยีสำหรับการเดินทางระดับโลก ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกชุดสำคัญผ่านหน่วยงาน “Travel Intelligence” โดย คุณเคธี่ มอร์โรว์ รองประธานฝ่ายพันธมิตรด้านข้อมูล ซึ่งฉายภาพแนวโน้มปัจจุบัน โอกาส และความท้าทายของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตลาดกรุงเทพมหานครและประเทศไทยโดยรวม ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองหลังการฟื้นตัวของภาคการเดินทางระหว่างประเทศ

คุณเคธี่ มอร์โรว์ ได้ให้ทัศนะไว้อย่างน่าสนใจถึงการปรับเปลี่ยนบทบาทและชื่อของหน่วยงานจากเดิม “Business Intelligence” มาเป็น “Travel Intelligence” เพื่อสะท้อนความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างแท้จริง “เราทำงานในส่วนของ Travel Intelligence มาเป็นระยะเวลากว่า 17 ปีครึ่ง โดยมุ่งเน้นที่การสร้างความร่วมมือและขยายฐานข้อมูลของเราให้ครอบคลุมทั่วทั้งกระดาน เดิมทีเราเน้นข้อมูลโรงแรมเป็นหลัก แต่เมื่อปีที่แล้ว Amadeus ตัดสินใจให้หน่วยงานของเราดูแลการสร้างรายได้จากข้อมูลทั้งหมดในกลุ่ม Amadeus IT ซึ่งหมายความว่าปัจจุบันเราแบ่งปันข้อมูลไม่ระบุตัวตนของสายการบิน ให้กับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งสนามบิน แหล่งท่องเที่ยว สายการบิน และแน่นอน ทุกภาคส่วนในธุรกิจโรงแรม” คุณเคธี่กล่าว

เป้าหมายหลักของ Travel Intelligence คือการสนับสนุนพันธมิตรให้เข้าใจ “เส้นทางของนักเดินทาง” (Traveler Journey) ตั้งแต่การสร้างแรงบันดาลใจ การตัดสินใจซื้อ ระหว่างการเดินทาง จนถึงประสบการณ์ ณ ที่พัก เพื่อช่วยยกระดับประสบการณ์ของแขกให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับภาพรวมการเดินทางทางอากาศสู่กรุงเทพมหานคร ข้อมูลจาก Amadeus ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างน่าประทับใจถึง 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (Year-on-Year) ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา แม้จะมีการคาดการณ์ถึงการชะลอตัวเล็กน้อยในเดือนมิถุนายน แต่แนวโน้มโดยรวมสำหรับช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมยังคงดูสดใส สอดคล้องกับข้อมูลการจองล่วงหน้าที่แข็งแกร่ง ขณะที่เดือนกันยายนอาจเป็นไปตามฤดูกาลท่องเที่ยวปกติของไทย คุณเคธี่ให้ข้อสังเกตว่า “ปริมาณการเดินทางที่คาดการณ์สำหรับปี 2025 นั้นสูงกว่าปี 2024 และ 2023 อย่างต่อเนื่องเกือบทุกเดือน ซึ่งเป็นสัญญาณบวกอย่างยิ่ง”

ความท้าทายของตลาดนักท่องเที่ยวจีน

ประเด็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งคือการผงาดขึ้นของตลาดนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งข้อมูลระบุว่า “จีนขยับจากอันดับที่ 10 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 5 ในฐานะประเทศต้นทางของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ จริง โดยมีการเติบโตสูงถึง 97% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และปัจจุบันจีนเป็นตลาดอันดับ 1 ที่มีการค้นหาเที่ยวบินมากรุงเทพฯ” การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวและกำลังซื้อที่สำคัญจากตลาดจีน นอกจากนี้ ตลาดระยะไกล (Long-Haul Markets) เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ก็แสดงความสนใจเดินทางมายังกรุงเทพฯ เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนจากการไต่อันดับขึ้นในการค้นหาเที่ยวบิน ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดเหล่านี้

พฤติกรรมการจองของนักท่องเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญ โดยพบว่า “มากกว่า 50% ของผู้โดยสารจองการเดินทางมากรุงเทพฯ ล่วงหน้า 61 วันขึ้นไป” ซึ่งคุณเคธี่มองว่าเป็นโอกาสสำหรับโรงแรมในการบริหารจัดการราคาและโปรโมชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารและการขายเพิ่ม (Upselling) ก่อนการเข้าพักของแขก “ระยะเวลาการจองล่วงหน้าที่นานพอ ทำให้โรงแรมมีโอกาสในการเสนอขายบริการเพิ่มเติม และสื่อสารโดยตรงกับแขกเพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล” คุณเคธี่เสริม

ในด้านข้อมูลประชากรศาสตร์ของนักท่องเที่ยว พบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มพักผ่อน (Leisure Travelers) ยังคงครองตลาดในทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 36-45 ปี และ 46-65 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มหลักในการเดินทางเข้าประเทศ บ่งชี้ถึงโปรไฟล์นักท่องเที่ยวที่ค่อนข้างมีวุฒิภาวะและมีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้ ข้อมูลเฉพาะเจาะจงอย่างสัดส่วนเพศของนักท่องเที่ยวจากอินเดีย หรือพฤติกรรมการเลือกชั้นโดยสาร ก็เป็นประโยชน์ในการวางกลยุทธ์การตลาดที่ตรงจุด “ตัวอย่างเช่น หากเราพบว่านักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้มีการเติบโตของการจองชั้นธุรกิจสูง โรงแรมหรูก็สามารถใช้ข้อมูลนี้เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวที่ยินดีจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินแพงขึ้น และมีแนวโน้มจะเลือกพักโรงแรมราคาสูงเช่นกัน” คุณเคธี่อธิบายถึงการนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้

Amadeus

ตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ

เมื่อเจาะลึกไปยังตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ Amadeus ซึ่งมีข้อมูลจากเครือโรงแรมใหญ่ครบถ้วน รวมถึงโรงแรมท้องถิ่น ทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มได้อย่างแม่นยำ ข้อมูล “อัตราการเข้าพักโรงแรมในกรุงเทพฯ” (Hotel Occupancy) ที่เป็นข้อมูลการจองที่มีอยู่จริง (On-the-books) แสดงให้เห็นว่าช่วงต้นปีปัจจุบันอัตราการเข้าพักสูงกว่าปีก่อน แต่เริ่มลดลงต่ำกว่าปีก่อนตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม/เมษายนเป็นต้นมา และเมื่อมองไปข้างหน้า (Forward Looking) อัตราการจองล่วงหน้ายังคงต่ำกว่า ซึ่งเป็นธรรมชาติของข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคือ “แม้ปริมาณการเดินทางทางอากาศมายังกรุงเทพฯ จะเพิ่มขึ้น 13% แต่อัตราการเข้าพักโรงแรมกลับลดลงต่ำกว่าระดับของปีก่อนหน้าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป” คุณเคธี่ตั้งข้อสังเกตว่า “สถานการณ์นี้อาจชี้ให้เห็นว่าอุปทานห้องพักอาจจะมากกว่าอุปสงค์ หรือนักท่องเที่ยวอาจเลือกพักที่อื่น เช่น ที่พักระยะสั้น” ซึ่งเป็นโจทย์ที่ผู้ประกอบการโรงแรมต้องพิจารณาอย่างใกล้ชิด

ในทางตรงกันข้าม “ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวัน (ADR) ในกรุงเทพฯ” กลับแสดงสัญญาณที่แข็งแกร่ง โดยทั่วไป ADR ของปีปัจจุบันยังคงสูงกว่าปีก่อนหน้าในเกือบทุกเดือน “ADR ยังคงสูงกว่าปีที่แล้วอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราการเข้าพักจะลดลงก็ตาม สิ่งนี้บ่งชี้ถึงความสามารถในการรักษาระดับราคา (Rate Resilience) ที่อาจเป็นไปได้ แต่ก็อาจอธิบายได้ว่าอุปสงค์ที่ลดลงส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ลูกค้ารู้สึกว่าราคาไม่แข่งขัน” คุณเคธี่วิเคราะห์ นี่คือสมดุลที่โรงแรมต่าง ๆ ต้องพยายามทำความเข้าใจและบริหารจัดการให้เหมาะสมกับเป้าหมายของตนเอง

สำหรับ “สัดส่วนช่องทางการจองโรงแรมในกรุงเทพฯ” (Hotel Channel Mix) พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ โดย “สัดส่วนของการจองโดยตรง (Direct Bookings) ลดลงจาก 43% ในปี 2024 เป็น 41% ในปี 2025 ในขณะที่สัดส่วนของ OTA (Online Travel Agency) ยังคงที่” คุณเคธี่ชี้ว่า “Brand.com หรือเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรง เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นเรื่องดีต่อการสร้างความภักดีของลูกค้าและลดต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ ขณะที่ OTA ยังคงสำคัญในการหาลูกค้าใหม่ๆ โรงแรมจึงควรมีกลยุทธ์ที่สมดุลทั้งสองช่องทาง และการลดลงของการจองโดยตรงส่งสัญญาณถึงโอกาสที่โรงแรมควรกลับมาลงทุนในโปรแกรมลูกค้าสัมพันธ์ (Loyalty Programs), การทำ SEO (Search Engine Optimization), และการตลาดแบบ Retargeting เพื่อดึงดูดส่วนแบ่งการจองโดยตรงกลับคืนมา”

นอกจากนี้ “สัดส่วนประเภทลูกค้าของโรงแรมในกรุงเทพฯ” (Hotel Segmentation) ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าราคาพิเศษ, กลุ่มทัวร์, กลุ่มลูกค้าองค์กร, กลุ่มลูกเรือสายการบิน, กลุ่มสมาชิก, กลุ่มลูกค้าราคาเต็ม และกลุ่มค้าส่ง ก็เป็นข้อมูลที่ช่วยให้โรงแรมเข้าใจส่วนผสมของลูกค้าที่เข้าพัก และสามารถวางแผนกลยุทธ์เพื่อดึงดูดลูกค้าในแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ข้อมูล” โอกาสของการแข่งขันที่แข็งแกร่ง

คุณเคธี่ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของชุดข้อมูลที่ Amadeus นำเสนอ ซึ่งรวมถึงข้อมูลการค้นหาตั๋วเครื่องบินและที่พัก (Search Information) จาก GDS และ OTA ทั่วโลกกว่า 200 ล้านการค้นหาต่อวัน, ข้อมูลตารางบินและความจุ (Capacity/Schedule Information), ข้อมูลการจอง (Bookings) ที่ครอบคลุม 100% ของ GDS และข้อมูลตรงจากสายการบิน, และข้อมูลพยากรณ์ (Traffic/Forecast) ซึ่งล่าสุดได้เสริมทัพด้วยเทคโนโลยีจาก Forward Keys ในส่วนของโรงแรมก็มีข้อมูลเปรียบเทียบราคาห้องพัก (Rate Shopping) กว่า 2.5 พันล้านราคาต่อวัน, ข้อมูลจากเอเจนซี่ (Agency Data) ผ่าน GDS และข้อมูล Demand360 ที่ได้โดยตรงจากโรงแรมกว่า 45,000 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเครือใหญ่ในกรุงเทพฯ ทำให้สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพเทียบกับคู่แข่งในทุกช่องทาง และยังร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อข้อมูลที่ขาดหายไป เช่น ข้อมูลอีเวนต์ หรือข้อมูลที่พักระยะสั้น เพื่อให้ได้ภาพรวมความต้องการของตลาดที่สมบูรณ์ที่สุด

การนำเสนอข้อมูลของ Amadeus ยังได้ปูทางไปสู่ภาพรวมที่กว้างขึ้นสำหรับประเทศไทย โดยระบุถึง “ห้าข้อค้นพบที่สำคัญสำหรับประเทศไทย” ซึ่งเป็นผลจากการวิจัยนักท่องเที่ยวร่วมกันระหว่าง Amadeus และ UNWTO (องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ) ซึ่งจะเน้นข้อมูลเชิงลึกด้านการท่องเที่ยวปี 2025 สำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการให้ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งระดับเมืองและระดับประเทศ

โดยสรุป ข้อมูลเชิงลึกจาก Amadeus Travel Intelligence ได้มอบเครื่องมืออันทรงพลังให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยและกรุงเทพฯ สามารถทำความเข้าใจแนวโน้มตลาดที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจโดยมีข้อมูลสนับสนุน (Data-driven Decision) และปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับทั้งโอกาสที่เปิดกว้างและความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

#Amadeus #TravelIntelligence #ท่องเที่ยวไทย #เศรษฐกิจท่องเที่ยว #ข้อมูลโรงแรม #ข้อมูลสายการบิน #กรุงเทพ #ThailandTourism #DigitalTourism #DataInsights #UNWTO #การท่องเที่ยว2568

Related Posts