มูลนิธิซีพี – ซีพีเอฟ ปันไข่ให้น้อง ยกระดับโภชนาการ สู่คลังอาหารยั่งยืน

มูลนิธิซีพี – ซีพีเอฟ ปันไข่ให้น้อง ยกระดับโภชนาการ สู่คลังอาหารยั่งยืน

มูลนิธิซีพี ร่วมกับ ซีพีเอฟ สานต่อ “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” อย่างแข็งแกร่ง ล่าสุดจัดกิจกรรม “คลีนเล้าด้วยใจ ปันไข่ให้น้อง” ตอกย้ำความมุ่งมั่นสร้างแหล่งโปรตีนคุณภาพให้นักเรียน พร้อมพัฒนาสู่คลังอาหารยั่งยืนในโรงเรียนและชุมชนทั่วประเทศ เผยเดินหน้าแล้วกว่า 988 โรงเรียน สร้างประโยชน์แก่เด็กและบุคลากรกว่า 239,500 คน ตั้งเป้าขยายครบ 1,008 โรงเรียนภายในปี 2568

มูลนิธิซีพี และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจสำคัญในการส่งเสริมโภชนาการที่ดีให้แก่เยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่าน “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” โครงการที่ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 นับเป็นเวลากว่าสามทศวรรษที่โครงการนี้ได้สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวง ไม่เพียงแต่การมอบไข่ไก่สดใหม่ให้แก่นักเรียนเพื่อประกอบเป็นอาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน แต่ยังเป็นการบ่มเพาะความรู้ ทักษะชีวิต และส่งเสริมการเติบโตที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจให้แก่เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารทั่วประเทศ

ล่าสุด สะท้อนความมุ่งมั่นดังกล่าวผ่านกิจกรรม “คลีนเล้าด้วยใจ ปันไข่ให้น้อง” โดยพลังของพี่ๆ กลุ่มซีพีอาสา จากโรงเพาะฟักลูกกุ้งของซีพีเอฟ จังหวัดตราด ได้ร่วมแรงร่วมใจกันเดินทางไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสิงค์โปร์แอร์ไลน์ จังหวัดจันทบุรี เพื่อดำเนินการทำความสะอาดครั้งใหญ่และปรับปรุงโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ของโรงเรียน กิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อให้มั่นใจว่าไข่ไก่ทุกฟองที่เด็กนักเรียนจะได้รับบริโภคนั้น มาจากแหล่งผลิตที่สะอาด ถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และคงไว้ซึ่งคุณภาพสูงสุดตามมาตรฐาน อันเป็นการตอกย้ำถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของโครงการฯ

มูลนิธิซีพี

สร้างคลังอาหารยั่งยืน พร้อมทักษะชีวิตติดตัว

“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ไม่ได้จำกัดคุณค่าอยู่เพียงการแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็กวัยเรียนเท่านั้น แต่ยังมุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาวด้วยการสร้าง “คลังอาหารยั่งยืน” ให้เกิดขึ้นจริงภายในโรงเรียนและสามารถขยายผลไปสู่ชุมชนโดยรอบได้ หัวใจสำคัญของแนวคิดนี้คือการทำให้โรงเรียนมีแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง (ไข่ไก่) เป็นของตนเอง สามารถเข้าถึงได้ง่าย และมีความต่อเนื่อง

ยิ่งไปกว่านั้น โครงการฯ ยังได้ออกแบบหลักสูตรการเลี้ยงไก่ไข่อย่างครบวงจร เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้จริงและลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นเลี้ยงไก่ การดูแลเอาใจใส่ การจัดการฟาร์มอย่างถูกหลักวิชาการ สุขอนามัยของโรงเรือนและสัตว์ ไปจนถึงการเก็บผลผลิต การคัดแยกคุณภาพ และการนำไข่ไก่ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ กระบวนการเรียนรู้นี้ไม่เพียงแต่เสริมสร้างความรู้ด้านการเกษตร แต่ยังปลูกฝังความรับผิดชอบ วินัยการทำงาน การทำงานเป็นทีม และที่สำคัญคือสร้างโอกาสในการต่อยอดเป็นอาชีพหรือสร้างรายได้เสริมให้แก่โรงเรียนในอนาคต จากการจำหน่ายผลผลิตไข่ไก่ส่วนเกิน ซึ่งถือเป็นการบูรณาการการเรียนรู้เข้ากับการพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพได้อย่างลงตัว

การที่โรงเรียนสามารถสร้างรายได้เสริมจากการจำหน่ายผลผลิตไข่ไก่ส่วนเกิน ถือเป็นอีกหนึ่งมิติที่น่าสนใจของโครงการฯ เพราะไม่เพียงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของโรงเรียน แต่ยังเป็นการปลูกฝังแนวคิดผู้ประกอบการเบื้องต้นให้กับนักเรียน สร้างความเข้าใจในกลไกตลาด และความสำคัญของการจัดการทางการเงิน ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในโลกเศรษฐกิจปัจจุบัน นอกจากนี้ รายได้ดังกล่าวยังสามารถนำกลับมาพัฒนาโครงการหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนและโรงเรียนได้อีกด้วย สร้างวงจรแห่งความยั่งยืนในระดับจุลภาค

ขยายผลทั่วไทย สู่เป้าหมาย 1,008 โรงเรียน

ความสำเร็จของ “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ได้รับการยอมรับและขยายผลไปในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุดระบุว่าโครงการฯ ได้ดำเนินการไปแล้วในโรงเรียนทั่วประเทศจำนวนมากถึง 988 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 75 จังหวัด สร้างประโยชน์โดยตรงให้แก่นักเรียนจำนวนกว่า 223,000 คน และยังรวมถึงครูและบุคลากรทางการศึกษาอีกกว่า 16,500 คน ที่ได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้ ตัวเลขดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันถึงขนาดของผลกระทบเชิงบวกที่โครงการฯ ได้สร้างขึ้น ทั้งในมิติของการพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชน การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่า และการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันการศึกษาในระดับท้องถิ่น

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น มูลนิธิซีพี และ ซีพีเอฟ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายการดำเนินงานของ “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ให้ครอบคลุมโรงเรียนจำนวน 1,008 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี พ.ศ. 2568 การขยายเป้าหมายนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของโครงการฯ ที่จะสามารถสร้างคุณูปการให้แก่สังคมไทยได้มากยิ่งขึ้น และเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความรับผิดชอบต่อสังคมเชิงรุก (Proactive CSR) ขององค์กร ที่ไม่ได้มองเพียงผลลัพธ์ทางธุรกิจ แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างองค์กร ชุมชน และสังคมโดยรวม

มูลนิธิซีพี

ไข่ไก่: พลังแห่งอนาคตของเยาวชน

แม้ไข่ไก่อาจดูเป็นอาหารพื้นฐานที่หาได้ทั่วไป แต่สำหรับน้องๆ นักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือในโรงเรียนที่ขาดแคลนงบประมาณด้านอาหารกลางวัน ไข่ไก่จากโครงการฯ เปรียบเสมือน “พลังแห่งอนาคต” ไข่ไก่แต่ละฟองไม่เพียงแต่เติมเต็มท้องให้อิ่ม แต่ยังเป็นแหล่งสารอาหารสำคัญ อาทิ โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตทางร่างกายและพัฒนาการทางสมองของเด็กวัยเรียน การได้รับโภชนาการที่ดีอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้นักเรียนมีสุขภาพแข็งแรง มีสมาธิในการเรียนรู้ และมีพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการสร้างอนาคตที่สดใสของพวกเขา

รอยยิ้มของเด็กๆ ที่ได้รับประทานไข่ไก่สดใหม่ทุกวัน และความกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมดูแลโครงการเลี้ยงไก่ไข่ในโรงเรียนของตนเอง คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุดถึงคุณค่าและความสำเร็จของโครงการนี้ มันคือการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญที่สุดของประเทศ ซึ่งก็คือเยาวชน อันจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของชาติอย่างยั่งยืนในระยะยาว

โดยสรุป “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” โดยมูลนิธิซีพีและซีพีเอฟ ไม่ได้เป็นเพียงโครงการมอบอาหาร แต่เป็นโครงการพัฒนาชีวิตแบบองค์รวม ที่ผสานทั้งเรื่องปากท้อง สุขภาพ การศึกษา ทักษะอาชีพ และการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ผ่านไข่ไก่ธรรมดาๆ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งโอกาสและพลังขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดีกว่าของเด็กไทยจำนวนมาก

#คลีนเล้าด้วยใจปันไข่ให้น้อง #โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน #มูลนิธิซีพี #CPF #ซีพีเอฟ #CSR #ความยั่งยืน #โภชนาการเด็ก #พัฒนาชุมชน #คลังอาหารโรงเรียน

Related Posts