ดีอี-สดช.-NT ผนึกพลัง เปิดตัว GDCC Open Data สู่รัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ

ดีอี-สดช.-NT ผนึกพลัง เปิดตัว GDCC Open Data สู่รัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ผนึกกำลัง สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้วงการเทคโนโลยีดิจิทัลภาครัฐ ด้วยการจัดงานสัมมนา “GOV CLOUD 2025” พร้อมเปิดตัว “GDCC Open Data” อย่างเป็นทางการ นับเป็นก้าวสู่มิติใหม่ของระบบคลาวด์กลางภาครัฐที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นการวางรากฐานเชิงยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven Government) อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการประชาชน และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลกอย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – งานสัมมนา GOV Cloud 2025 : Empowering Thailand Government with GDCC Open Data ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการปฏิรูปการทำงานภาครัฐให้ก้าวทันโลกยุคดิจิทัล บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคักจากการรวมตัวของผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำระดับโลก สะท้อนถึงความร่วมมืออันแข็งแกร่งในการผลักดันวาระแห่งชาตินี้ให้เกิดขึ้นจริง การเปิดตัว “GDCC Open Data” ในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการประกาศเปิดตัวบริการใหม่ แต่เป็นการประกาศทิศทางและอนาคตของรัฐบาลดิจิทัลไทย ที่จะใช้ข้อมูลเป็นหัวใจในการพัฒนาประเทศในทุกมิติ

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานในพิธี ได้ฉายภาพวิสัยทัศน์ไว้อย่างชัดเจนว่า ระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (Government Data Center and Cloud Services หรือGDCC) ถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่งยวดในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของประเทศ ที่ผ่านมา กระทรวงดีอีได้มุ่งผลักดันการพัฒนาโครงสร้างคลาวด์กลางภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง และการเปิดตัวระบบคลาวด์GDCC Open Data ล่าสุดนี้ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งประวัติศาสตร์ในการวางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของคลาวด์ภาครัฐให้สอดคล้องตามแนวนโยบาย “Go Cloud First” ของรัฐบาล

“GDCC Open Data จะเป็นกลไกหลักที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เปลี่ยนผ่านสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบได้อย่างแท้จริง ซึ่งตอบสนองโดยตรงต่อยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ” ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์กล่าว “เป้าหมายของเราคือการยกระดับประเทศไทยให้เป็นสังคมดิจิทัลที่มีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก และโครงสร้างพื้นฐานนี้คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราไปถึงจุดนั้นได้”

GDCC Open Data

ความพิเศษของGDCC Open Data คือการเป็นคลาวด์กลางรูปแบบใหม่ที่เกิดจากการบูรณาการความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างภาครัฐและผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT), Alibaba, AWS, CloudHM, Huawei, INET, NIPA, Microsoft และ Oracle การผนึกกำลังครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การใช้ทรัพยากรไอทีร่วมกัน แต่เป็นการยกระดับการทำงานของคลาวด์ภาครัฐในทุกมิติ ตั้งแต่เทคโนโลยีคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทันสมัย ไปจนถึงการวางมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เป็นสากล ทั้งหมดนี้เพื่อเตรียมความพร้อมให้ภาครัฐสามารถเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven) ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงให้การเชื่อมโยงข้อมูลและบริการสาธารณะต่างๆ ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย ทำให้ประชาชนได้รับการบริการจากรัฐที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น ปลัดกระทรวงดีอียังได้เน้นย้ำถึงนโยบายด้านข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Data) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่กระทรวงดีอีผลักดันอย่างต่อเนื่อง “โครงสร้างพื้นฐานGDCC Open Data จะรองรับการขับเคลื่อนนโยบาย Open Data ได้อย่างเต็มศักยภาพ ข้อมูลเปิดภาครัฐจะไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน สถาบันการศึกษา หรือภาคประชาสังคม สามารถเข้าถึงและนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ไปต่อยอดเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของสังคมได้อย่างแท้จริง สิ่งนี้คือรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจฐานข้อมูล ที่จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด”

GDCC Open Data

ทางด้านนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ดำเนินโครงการระบบคลาวด์กลางภาครัฐGDCC โดยตรง ได้กล่าวเสริมว่า การเปิดตัวGDCC Open Data ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการพัฒนาคลาวด์กลางภาครัฐเพื่อยกระดับบริการภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยความสำเร็จนี้เกิดจากความร่วมมืออันดีเยี่ยมกับผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำและพันธมิตรด้านเทคโนโลยีความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่ร่วมกันสนับสนุนทั้งองค์ความรู้และเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเป้าหมายในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่มั่นคงและแข็งแกร่งให้กับรัฐบาลไทย

“วิสัยทัศน์ของเราสอดคล้องกับแผนแม่บท ‘Digital Thailand 2025’ ระยะที่ 3 หรือ Digital Thailand II (พ.ศ. 2566 – 2570) ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างรัฐบาลดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อมุ่งสู่การให้บริการภาครัฐที่ ‘เชื่อมโยง – โปร่งใส – ตรวจสอบได้ – และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง’ อย่างแท้จริง” นายเวทางค์กล่าว

ปัจจุบัน ระบบคลาวด์GDCC ได้กลายเป็นศูนย์รวมข้อมูลภาครัฐที่ปลอดภัยด้วยมาตรฐานสากล และได้ให้บริการแก่หน่วยงานภาครัฐไปแล้วเป็นจำนวนมากถึง 204 กรม 1,182 หน่วยงาน ครอบคลุมกว่า 3,753 ระบบงาน ที่ผ่านมาGDCC ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล รวมถึงขยายบริการแพลตฟอร์มกลางต่างๆ เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลดิจิทัล เช่น ระบบพอร์ทัลกลางสำหรับประชาชน (Citizen Portal), ศูนย์กลางบริการภาครัฐเพื่อภาคธุรกิจ (Biz Portal), ระบบแลกเปลี่ยนประวัติการรักษาผู้ป่วยข้ามโรงพยาบาล (Health Link), ระบบกลางด้านกฎหมาย (Law Portal), ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ (GD Catalog) และการพัฒนาระบบยืนยันตัวตนกลาง (Digital ID) เป็นต้น

ในขณะที่ พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ได้กล่าวในฐานะพันธมิตรหลักฝ่ายผู้ให้บริการว่า NT มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการพับลิกคลาวด์ระดับโลก เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบGDCC Open Data ให้ประสบความสำเร็จ NT มองว่าการบูรณาการข้อมูลภาครัฐให้เป็น Open Data จะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่นำไปสู่การเทรน AI ของภาครัฐด้วยข้อมูลของประเทศไทยเอง ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ให้กับประเทศในระยะยาว

“เพื่อรองรับการทำงานที่ซับซ้อนนี้ NT ได้พัฒนา Cloud Management Platform (CMP) ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางในการบริหารจัดการและเชื่อมโยงการทำงานระหว่างระบบคลาวด์GDCC เดิม และระบบคลาวด์GDCC Open Data ใหม่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไร้รอยต่อ” พันเอก สรรพชัยย์กล่าว “แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเลือกใช้บริการคลาวด์ได้ตามความเหมาะสมของภารกิจแต่ละงาน รวมถึงสามารถบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดผ่านแพลตฟอร์มกลางของเรา”

การเปิดตัวGDCC Open Data ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าประเทศไทยกำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลังสู่ยุคใหม่ของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล โดยมีเป้าหมายที่ไกลกว่าแค่การปรับปรุงระบบราชการ แต่คือการวางโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคตที่จะปลดล็อกศักยภาพของข้อมูลมหาศาลในภาครัฐ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ควบคู่ไปกับการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจเชิงนโยบายที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างสรรค์บริการสาธารณะที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง พร้อมทั้งส่งเสริมความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการดำเนินงานของภาครัฐให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ

#GovCloud2025 #GDCCOpenData #รัฐบาลดิจิทัล #กระทรวงดีอี #สดช #NT #OpenData #เศรษฐกิจดิจิทัล #AIภาครัฐ #DigitalThailand

Related Posts