ดีอี ลุยพิษณุโลก ปั้น 3 วัย สร้างเกราะดิจิทัลสู้ภัยข่าวปลอม

ดีอี ลุยพิษณุโลก ปั้น 3 วัย สร้างเกราะดิจิทัลสู้ภัยข่าวปลอม

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เดินหน้าจัดกิจกรรมใหญ่ที่พิษณุโลก ดึง “ผู้นำชุมชน-ผู้สูงวัย-เยาวชน” เสริมทักษะดิจิทัลเต็มสูบ สร้างภูมิคุ้มกันรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ระบาดหนักในยุค AI ปลัดดีอีชี้เป็นภารกิจเร่งด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้เทคโนโลยี และลดผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง พร้อมเปิดสถิติคนไทยใช้สมาร์ทโฟนกว่า 96% เป็นปัจจัยเร่งการกระจายข่าวลวง

พิษณุโลก, ประเทศไทย – กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้เปิดฉาก “กิจกรรมสร้างการรับรู้ เพื่อรู้เท่าทันและรับมือกับข่าวปลอม ครั้งที่ 2” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 13-14 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ และคณะผู้บริหาร กิจกรรมครั้งนี้มุ่งเน้นการสร้าง “วัคซีนดิจิทัล” ให้กับกลุ่มเป้าหมายหลัก 3 กลุ่มของภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ ผู้นำชุมชน, กลุ่มผู้สูงอายุ และเยาวชนจากโรงเรียนวังทองพิทยาคม เพื่อสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังและรับมือกับปัญหาข่าวปลอมที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตอกย้ำภารกิจเร่งด่วนในยุค AI ครองเมือง

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ได้กล่าวถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของกระทรวงดีอีที่ต้องเร่งดำเนินการ “การสร้างความตระหนักรู้ เสริมสร้างทักษะการใช้งานเทคโนโลยี สร้างภูมิคุ้มกัน และแนวทางป้องกันภัยทางออนไลน์ ถือเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงดีอี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานดิจิทัล และรู้เท่าทันสื่อสังคมออนไลน์” ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์กล่าว

ท่านปลัดกระทรวงดีอีได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการเข้ามาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งมีบทบาทอย่างยิ่งในการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาข่าวสารบนโลกอินเทอร์เน็ต ทำให้การสร้างความเข้าใจในการวิเคราะห์, การแยกแยะระหว่างข่าวจริง, ข่าวปลอม (Fake News) และข่าวบิดเบือน (Disinformation) กลายเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับพลเมืองในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่อยู่ติดตัวแทบทุกคน

สถิติชี้ชัด! สมาร์ทโฟนคือพาหะชั้นดีของข่าวปลอม

สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งน่ากังวลมากขึ้นเมื่อพิจารณาจากข้อมูลเชิงสถิติจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งได้ทำการสำรวจการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน ประจำไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ. 2567 ผลสำรวจพบว่า ประชาชนไทยทั่วประเทศมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนสูงถึงร้อยละ 96.3 ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นภาพชัดเจนว่า ข้อมูลข่าวสารในปัจจุบันสามารถแพร่กระจายไปในวงกว้างด้วยความเร็วสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ปรากฏการณ์นี้เองที่กลายเป็นดาบสองคม เพราะข่าวสารที่ถูกบิดเบือนจากข้อเท็จจริงสามารถสร้างความเข้าใจผิดและส่งผลกระทบเชิงลบต่อประชาชน สังคม และเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับประเด็นอ่อนไหว เช่น ภัยพิบัติ, สภาวะเศรษฐกิจ, ปัญหาสุขภาพอนามัย, นโยบายของภาครัฐ และข่าวสารที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติโดยตรง

กลยุทธ์เจาะลึก 3 กลุ่มเป้าหมาย สร้างภูมิคุ้มกันจากฐานราก

เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว กระทรวงดีอีจึงได้ออกแบบกิจกรรมนิทรรศการและเวิร์กช็อปเสริมทักษะที่จังหวัดพิษณุโลก โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ส่วนหลัก เพื่อให้เนื้อหาและการนำเสนอเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน

  1. กลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา: เน้นการสร้างความเข้าใจพื้นฐานเรื่องสื่อดิจิทัล การรู้เท่าทันกลลวงออนไลน์ และปลูกฝังให้เป็น “พลังสำคัญ” ในการพัฒนาประเทศ เยาวชนกลุ่มนี้ถูกวางบทบาทให้เป็น “สื่อสัมพันธ์” ที่ดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ, โรงเรียน และสถาบันครอบครัว สามารถนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดให้กับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. กลุ่มผู้นำชุมชนและผู้สูงอายุ: ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับและเป็นศูนย์กลางของชุมชน การเสริมสร้างทักษะให้กลุ่มนี้ เปรียบเสมือนการสร้าง “ผู้เผยแพร่และส่งต่อ” ความรู้และภูมิคุ้มกันด้านอาชญากรรมออนไลน์ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างกว้างขวางและน่าเชื่อถือ

ดีอี

ชู AI เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ สู้ภัยไซเบอร์

นอกจากการสร้างความตระหนักรู้ในฝั่งผู้รับสารแล้ว กระทรวงดีอียังมุ่งเน้นการส่งเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ในเชิงรุก โดยสนับสนุนให้ประชาชนเรียนรู้การใช้ AI เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งจะช่วยให้สามารถแยกแยะและตรวจสอบข้อมูลข่าวสารว่าเป็นข่าวจริง ข่าวปลอม หรือข่าวบิดเบือนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เป้าหมายสำคัญคือการสร้างภูมิคุ้มกันในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และเป็นการปิดกั้นช่องทางการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพที่มักใช้ข่าวปลอมเป็นเครื่องมือในการหลอกลวง

เปิดทุกช่องทางให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ

กระทรวงดีอีได้เน้นย้ำถึงการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยเปิดช่องทางของ “ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย” (Anti-Fake News Center Thailand) ให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแส, สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือตรวจสอบรายละเอียดของข่าวที่น่าสงสัยได้ตลอดเวลา ผ่านช่องทางที่หลากหลายและเข้าถึงง่าย ดังนี้:

  • เว็บไซต์: www.antifakenewscenter.com
  • Line Official Account: @antifakenewscenter
  • Facebook Fanpage: Anti Fake News Center Thailand
  • X (Twitter): @AFNCThailand
  • TikTok: @antifakenewscenter
  • Instagram: afnc_thailand

โดยสรุป การจัดกิจกรรมที่จังหวัดพิษณุโลกครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงการจัดอีเวนต์ แต่คือการวางรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและเข้มแข็ง ผ่านการติดอาวุธทางปัญญาให้กับประชาชนทุกช่วงวัย เพื่อให้สามารถท่องโลกออนไลน์ได้อย่างรู้เท่าทัน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหยุดยั้งวงจรของข่าวปลอมที่บ่อนทำลายทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศชาติต่อไป

#ดีอี #กระทรวงดิจิทัล #ข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNC #พิษณุโลก #ทักษะดิจิทัล #ผู้สูงอายุ #เยาวชน #ภัยออนไลน์ #AI #เศรษฐกิจดิจิทัล #รู้เท่าทันสื่อ

Related Posts