Dyson ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมียมในไทย เปิดตัวอีเวนต์ใหญ่ “Dyson Wet Range with Sky Wongravee” ดึงนักแสดงหนุ่มชื่อดัง “สกาย วงศ์รวี นทีธร” เป็นพรีเซนเตอร์ ชูกลยุทธ์ Presenter Marketing เจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและความสะอาดอย่างล้ำลึก สะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว พร้อมเปิดตัวเทคโนโลยีทำความสะอาดล่าสุดที่ตอบโจทย์ทั้งการดูดฝุ่นและถูพื้นในเครื่องเดียว ตอกย้ำการลงทุนมหาศาลด้านการวิจัยและพัฒนาที่ทำให้ Dyson เป็นมากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่คือ “นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า”
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – Dyson ประเทศไทย ได้จัดงาน “Dyson Wet Range with Sky Wongravee” ซึ่งนับเป็นการปรากฏตัวต่อหน้าแฟนคลับและสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ สกาย วงศ์รวี ในฐานะพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ หลังจากประกาศความร่วมมือไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ Dyson ในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในตลาดประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงและผู้บริโภคมีกำลังซื้อในกลุ่มสินค้าพรีเมียมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การเลือก “สกาย วงศ์รวี” ไม่ใช่เพียงการเลือกนักแสดงที่มีชื่อเสียง แต่เป็นการเลือกบุคคลที่สามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน สกายเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ มีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ใส่ใจในรายละเอียด และให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายหลักของ Dyson ที่เป็นผู้บริโภคที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่มีดีไซน์สวยงาม แต่ต้องเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและนวัตกรรมที่แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้จริง
ภายในงาน สกาย วงศ์รวี ได้สวมบทบาท “พ่อบ้านยุคใหม่” สาธิตประสิทธิภาพของเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12s Detect Slim Submarine™ Complete ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานอย่างมืออาชีพ เขาได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันหลากหลายของเครื่อง ตั้งแต่การดูดฝุ่นบนพื้นแข็งไปจนถึงชั้นวางของและโซฟา ก่อนจะปิดท้ายด้วยการสาธิตฟังก์ชันถูพื้น ที่สามารถจัดการคราบสกปรกและของเหลวได้อย่างง่ายดาย การสาธิตนี้ไม่เพียงแต่โชว์ฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์ แต่ยังเป็นการสร้างประสบการณ์ร่วมและทำให้ผู้บริโภคเห็นภาพการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้อย่างชัดเจน
เจาะลึกนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกตารางนิ้วของบ้าน
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Dyson แตกต่างและครองใจผู้บริโภคทั่วโลกคือ “เทคโนโลยี” ซึ่งในงานนี้ Dyson ได้ชูจุดเด่นของ Dyson V12s Detect Slim Submarine™ Complete ผ่านการสาธิตโดยสกาย วงศ์รวี ซึ่งมาพร้อมกับหัวทำความสะอาดถึง 3 รูปแบบที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน
-
หัวดูดทำความสะอาด Fluffy Optic™: เทคโนโลยีเลเซอร์สีเขียวที่ถูกออกแบบมาให้สามารถส่องสว่างและเผยให้เห็นฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ตาเปล่ามองไม่เห็นบนพื้นแข็ง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหา (Pain Point) ของคนที่ต้องการความสะอาดอย่างหมดจดในระดับไมครอน ทำให้การทำความสะอาดไม่ใช่แค่ “รู้สึกว่าสะอาด” แต่ “เห็นว่าสะอาด” จริงๆ
-
หัวดูดเก็บเส้นผม (Hair Screw Tool): ออกแบบมาสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหรือมีปัญหาเส้นผมร่วงหล่นบนโซฟาและที่นอน ด้วยเทคโนโลยีที่ป้องกันการพันกันของเส้นผม ทำให้การกำจัดขนสัตว์และเส้นผมเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเวลามาดึงเส้นผมออกจากหัวแปรงเหมือนเครื่องดูดฝุ่นทั่วไป
-
หัวดูดลูกกลิ้งเปียก Submarine™: นวัตกรรมล่าสุดที่เปลี่ยนเครื่องดูดฝุ่นให้กลายเป็นเครื่องถูพื้นได้ในทันที หัวแปรงนี้สามารถจ่ายน้ำสะอาดเพื่อขจัดคราบสกปรก คราบเหนียว และของเหลว พร้อมทั้งมีกลไกแยกน้ำสกปรกออกจากลูกกลิ้งทันที ทำให้ทุกการถูเป็นการใช้น้ำสะอาดเสมอ ซึ่งตอบโจทย์วัฒนธรรมของคนไทยและคนเอเชียที่นิยมเดินเท้าเปล่าในบ้าน และต้องการพื้นบ้านที่สะอาดหมดจดปราศจากความเหนียวเหนอะหนะ
นอกจากนี้ Dyson ยังได้นำเสนอ Dyson WashG1™ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเทคโนโลยีทำความสะอาดแบบเปียก (Wet Range) โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างที่สำคัญคือ Dyson V12s Detect Slim Submarine™ เป็นโซลูชันแบบครบวงจร (All-in-one) ที่สามารถทั้งดูดและถูได้ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับความสะดวกสบายและการทำความสะอาดที่ครอบคลุม ในขณะที่ Dyson WashG1™ เป็นเครื่องทำความสะอาดพื้นแข็งโดยเฉพาะ (Specialized) ที่ใช้เทคโนโลยีการดูดซับและคัดแยกสิ่งสกปรกขั้นสูงเพื่อจัดการกับคราบเปียกและแห้งโดยเฉพาะ ไม่ใช่การดูดฝุ่น กลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์สองรุ่นที่มีความสามารถใกล้เคียงกันแต่ตอบโจทย์ต่างกันเล็กน้อยนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในตลาดของ Dyson ที่ต้องการเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการหลากหลาย ทั้งกลุ่มที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด และกลุ่มที่ต้องการประสิทธิภาพการทำความสะอาดพื้นโดยเฉพาะ
เบื้องหลังความสำเร็จ: การลงทุนมหาศาลใน R&D คือ DNA ของแบรนด์
ความสำเร็จของ Dyson ในวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากโชคช่วย แต่มาจากวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่และการลงทุนอย่างต่อเนื่องมหาศาลในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของบริษัทมาตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2536 จากจุดเริ่มต้นในโรงรถที่ประเทศอังกฤษ Dyson ได้เติบโตจนกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ และมีศูนย์วิจัยและพัฒนาในหลายประเทศทั่วโลก
Dyson ยังคงสถานะเป็นบริษัทของครอบครัว มีพนักงานทั่วโลกกว่า 14,000 คน โดยเป็นวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์มากถึง 6,000 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงมากและสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมเป็นอันดับแรก
ตัวเลขการลงทุนที่น่าทึ่งคือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุด:
- ลงทุนกว่า 2.75 พันล้านปอนด์ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่จะมาปฏิวัติโลกในอนาคต โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแบตเตอรี่แบบโซลิดสเตท, ดิจิทัลมอเตอร์ความเร็วสูง, ระบบเซนเซอร์และวิชั่น, เทคโนโลยีหุ่นยนต์, Machine Learning และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
- ลงทุน 500 ล้านปอนด์ เพื่อขยายและเร่งการวิจัยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม โดยมีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ถึง 20 รายการในอีก 4 ปีข้างหน้า
- ลงทุนมากกว่า 1 พันล้านปอนด์ ในสำนักงานและห้องปฏิบัติการในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในระยะเริ่มต้น
การลงทุนเหล่านี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Dyson ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดูดฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ หรืออุปกรณ์ดูแลเส้นผม ไม่ใช่เป็นเพียงสินค้า แต่เป็นผลงานทางวิศวกรรมขั้นสูงที่ถูกคิดค้นและทดสอบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ผลิตรายอื่นมองข้าม สิ่งนี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขายอมจ่ายในราคาที่สูงกว่าเพื่อแลกกับคุณภาพ ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า
การจัดงาน “Dyson Wet Range with Sky Wongravee” ในประเทศไทย จึงเป็นมากกว่างานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการสื่อสารที่ทรงพลังว่า Dyson พร้อมแล้วที่จะรุกตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยกลยุทธ์ที่ผสมผสานระหว่างการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคผ่านพรีเซนเตอร์ที่มีอิทธิพล และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีซึ่งเกิดจากการลงทุนวิจัยและพัฒนานับแสนล้านบาท การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมียม แต่ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานการทำความสะอาดและคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภคชาวไทยในระยะยาว
#DysonTH #DysonHome #SkyWongravee #DysonV12sSubmarine #DysonWashG1 #ข่าวเศรษฐกิจ #การตลาด #เครื่องใช้ไฟฟ้า #นวัตกรรม #เทคโนโลยีทำความสะอาด #เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย #DysonWetCleaning #DysonSkyWongravee