คณะรัฐมนตรีมีมติไฟเขียวต่ออายุบัญชีสินค้าและบริการควบคุม 59 รายการ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำกับดูแลราคาสินค้า ป้องกันการค้ากำไรเกินควร และรักษาเสถียรภาพค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังคงมีความผันผวน โดยเป็นการขยายผลมาตรการเดิมที่จะสิ้นสุดลง เพื่อให้การทำงานของภาครัฐเป็นไปอย่างต่อเนื่องและไร้รอยต่อ
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า ที่ประชุมมีมติสำคัญในการอนุมัติการกำหนดรายการสินค้าและบริการควบคุม ประจำปี 2568 จำนวนทั้งสิ้น 59 รายการ ประกอบด้วยสินค้า 54 รายการ และบริการ 5 รายการ ตามการเสนอของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน
การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นมาตรการเชิงรุกที่สำคัญของภาครัฐในการดูแลเสถียรภาพราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและปัจจัยการผลิตที่จำเป็นต่อการครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ เนื่องจากประกาศ กกร. ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันกำลังจะสิ้นสุดผลบังคับใช้ในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 นี้ การอนุมัติดังกล่าวจึงเป็นการต่ออายุมาตรการให้มีผลบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ กกร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอำนาจตามกฎหมายในการกำกับดูแลสถานการณ์ราคาสินค้าได้อย่างทันท่วงที
เบื้องหลังมติ ครม. และความจำเป็นในการควบคุมต่อเนื่อง
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงเหตุผลและความจำเป็นเบื้องหลังการต่ออายุบัญชีสินค้าควบคุมในครั้งนี้ว่า เป็นการดำเนินการตามอำนาจในมาตรา 24 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งให้อำนาจ กกร. โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ในการประกาศกำหนดสินค้าหรือบริการใดๆ ให้เป็นสินค้าหรือบริการควบคุม เพื่อป้องกันการกำหนดราคาซื้อ-ขาย หรือเงื่อนไขทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม
ที่ผ่านมา กกร. ได้มีการทบทวนและปรับปรุงรายการสินค้าให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจอยู่เสมอ และในการประชุม กกร. ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้คงรายการสินค้าและบริการควบคุมทั้ง 59 รายการไว้ดังเดิม เพื่อสร้างความต่อเนื่องของมาตรการกำกับดูแล
นอกจากนี้ การดำเนินการดังกล่าวยังสอดรับกับมติ ครม. เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ได้มอบนโยบายให้ กกร. รวบรวมรายการสินค้าและบริการที่จำเป็นต้องควบคุมทั้งหมดให้ครบถ้วนในคราวเดียว เพื่อให้การพิจารณากำหนดระยะเวลาการควบคุมสิ้นสุดลงพร้อมกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและติดตามผลในภาพรวม
เจาะลึก 59 รายการสินค้าและบริการควบคุม: ครอบคลุมทุกมิติชีวิต
บัญชีสินค้าและบริการควบคุมทั้ง 59 รายการที่ได้รับการต่ออายุในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของภาครัฐในการดูแลครอบคลุมสินค้าที่จำเป็นในหลากหลายหมวดหมู่ ตั้งแต่สินค้าในชีวิตประจำวัน ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ไปจนถึงบริการที่สำคัญ โดยสามารถจำแนกออกเป็น 11 หมวดสินค้า และ 1 หมวดบริการ ดังนี้
หมวดสินค้า (54 รายการ):
- หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์: กระดาษทำลูกฟูก, กระดาษเหนียว, กระดาษพิมพ์และเขียน, เศษกระดาษและกระดาษรีไซเคิล ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของภาคการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องดูดฝุ่น สินค้าที่ทวีความสำคัญขึ้นจากปัญหามลภาวะและฝุ่น PM2.5
- หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง: ยางรถจักรยานยนต์, ยางรถยนต์, รถจักรยานยนต์ และรถยนต์บรรทุก ซึ่งเกี่ยวพันโดยตรงกับต้นทุนโลจิสติกส์และการเดินทาง
- หมวดปัจจัยทางการเกษตร: กากดีดีจีเอส, เครื่องสูบน้ำ, ปุ๋ย, ยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช, รถเกี่ยวข้าว, รถไถนา, หัวอาหารสัตว์และอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นหัวใจของต้นทุนการผลิตภาคเกษตรกรรม
- หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม: ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นต้นทุนพลังงานหลักของประเทศ
- หมวดยารักษาโรคและเวชภัณฑ์: ยารักษาโรค, เวชภัณฑ์เกี่ยวกับการรักษาโรค, หน้ากากอนามัย, และเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ สินค้าจำเป็นด้านสาธารณสุข
- หมวดวัสดุก่อสร้าง: ท่อพีวีซี, ปูนซีเมนต์, สายไฟฟ้า, เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ, เหล็กแผ่น, และเหล็กเส้น ซึ่งมีผลต่อต้นทุนภาคอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง
- หมวดสินค้าเกษตรที่สำคัญ: ข้าวเปลือก-ข้าวสาร, ข้าวสาลี-ข้าวบาร์เลย์, ข้าวโพด, มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์, ผลปาล์มน้ำมัน, มะพร้าวผลแก่และผลิตภัณฑ์, และยางพารา (ทุกรูปแบบ) ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของไทย
- หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค: กระดาษชำระ-กระดาษเช็ดหน้า, แชมพู, ผงซักฟอก-น้ำยาซักฟอก, ผลิตภัณฑ์ล้างจาน, ผ้าอนามัย, ผ้าอ้อมสำเร็จรูป (เด็กและผู้ใหญ่), และสบู่ก้อน-สบู่เหลว
- หมวดอาหาร: กระเทียม, ไข่ไก่, ทุเรียน, มังคุด, ลำไย, นมผงและนมพร้อมดื่ม, น้ำมันและไขมันจากพืช/สัตว์, แป้งสาลี, สุกร-เนื้อสุกร, ไก่-เนื้อไก่, หอมหัวใหญ่, น้ำตาลทราย, อาหารกึ่งสำเร็จรูป และอาหารในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
- หมวดอื่น ๆ: เครื่องแบบนักเรียน และใยสังเคราะห์ Polypropylene (Spunbond) สำหรับผลิตหน้ากากอนามัย
หมวดบริการ (5 รายการ):
- การให้สิทธิในการเผยแพร่งานลิขสิทธิ์เพลงเพื่อการค้า
- บริการซื้อขายและ/หรือบริการขนส่งสินค้าสำหรับธุรกิจออนไลน์ (Delivery)
- บริการทางการเกษตร (เช่น บริการรถไถ, รถเกี่ยว)
- บริการรักษาพยาบาล, บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล
- บริการรับชำระเงิน ณ จุดบริการ (Bill Payment)
ความสำคัญและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ
การคงรายการสินค้าและบริการควบคุมไว้ จะทำให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน สามารถใช้มาตรการทางกฎหมายในการกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การกำหนดราคาจำหน่ายสูงสุด, การให้ผู้ประกอบการแจ้งต้นทุน ราคาซื้อ-ขาย ปริมาณสต็อก, การควบคุมการส่งออกในบางช่วงเวลา หรือการกำหนดให้ต้องติดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน
มาตรการเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะมีการ “ตรึงราคา” สินค้าทุกรายการตลอดเวลา แต่เป็นเครื่องมือที่ภาครัฐสามารถหยิบยกมาใช้ได้ทันทีเมื่อตรวจพบสัญญาณการปรับขึ้นราคาอย่างไม่สมเหตุสมผล การกักตุนสินค้า หรือการค้ากำไรเกินควร ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน และช่วยรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในภาพรวมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันและกลุ่มสินค้าที่เป็นต้นน้ำของภาคการผลิตอื่นๆ
การต่ออายุบัญชีควบคุมในครั้งนี้ จึงนับเป็นสัญญาณที่ชัดเจนจากภาครัฐว่ายังคงให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลปากท้องของประชาชน และพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงตลาดเมื่อจำเป็น เพื่อสร้างความเป็นธรรมและป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบในภาวะที่เศรษฐกิจยังคงต้องการปัจจัยสนับสนุนให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืนต่อไป
#สินค้าควบคุม #ราคาสินค้า #ค่าครองชีพ #เศรษฐกิจ #ครม #กระทรวงพาณิชย์ #รัฐบาล #ข่าวเศรษฐกิจ #ตรึงราคา #กรมการค้าภายใน
