หัวเว่ย จับมือพันธมิตรระดับโลก WAA เปิดตัวสมุดปกขาว “Smart Campus Wi-Fi CSI Sensing” ปฏิวัติเครือข่ายไร้สายจากการเชื่อมต่อสู่การรับรู้สภาพแวดล้อม ชูแนวคิด “Wi-Fi + X” และโซลูชัน “Xinghe Intelligent Campus” ปูทางสู่การสร้างพื้นที่อัจฉริยะเต็มรูปแบบ ตั้งเป้าเจาะตลาดการศึกษา, สาธารณสุข, และอุตสาหกรรม สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากโครงสร้างพื้นฐานเดิม
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – วงการเทคโนโลยีและเครือข่ายกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ที่น่าจับตามอง เมื่อการเชื่อมต่อไร้สายไม่ได้จำกัดอยู่แค่การรับ-ส่งข้อมูลอีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็น “ประสาทสัมผัส” ที่รับรู้ทุกความเคลื่อนไหวรอบตัวเราได้อย่างชาญฉลาด ล่าสุด ภายในงานประชุมสุดยอด Huawei Network Summit 2025 (Asia Pacific) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา หัวเว่ย (Huawei) ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งสำคัญด้วยการจับมือกับ World WLAN Application Alliance (WAA) และผู้นำในอุตสาหกรรมอีกหลายราย เปิดตัวสมุดปกขาว (White Paper) ว่าด้วยเรื่อง “การพัฒนาและกรณีศึกษาเทคโนโลยีการตรวจจับด้วยข้อมูลสถานะช่องสัญญาณของ Wi-Fi ในแคมปัสอัจฉริยะ (Smart Campus Wi-Fi CSI Sensing Development and Use Cases)” อย่างเป็นทางการ
การเปิดตัวครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการประกาศความสำเร็จทางเทคโนโลยี แต่คือการวางหมุดหมายสำคัญที่ชี้ให้เห็นทิศทางอนาคตของอุตสาหกรรมเครือข่าย ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของ “พื้นที่อัจฉริยะ” (Intelligent Spaces) ไปอย่างสิ้นเชิง โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Wi-Fi CSI Sensing ในเชิงพาณิชย์ให้เกิดขึ้นจริงในวงกว้าง
กำเนิด “Wi-Fi + X” เปลี่ยนเครือข่ายให้มี “สัมผัส”
หัวใจสำคัญของสมุดปกขาวฉบับนี้ คือการนำเสนอแนวคิด “Wi-Fi + X” ซึ่งเป็นการผสานศักยภาพดั้งเดิมของ Wi-Fi ในการเชื่อมต่อ (Connectivity) เข้ากับความสามารถใหม่ในการรับรู้และตรวจจับ (Sensing) โดยใช้เทคโนโลยี Wi-Fi Channel State Information (CSI) หรือการวิเคราะห์ข้อมูลสถานะของช่องสัญญาณ Wi-Fi ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีวัตถุหรือบุคคลเคลื่อนไหวในบริเวณนั้น
พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ เทคโนโลยีนี้สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์กระจายสัญญาณ Wi-Fi (Access Point: AP) ที่มีอยู่แล้วในทุกอาคาร ให้กลายเป็นเซ็นเซอร์อัจฉริยะที่สามารถ “มองเห็น” การเคลื่อนไหว การมีอยู่ หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมบางอย่างของมนุษย์ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่การใช้งานรูปแบบใหม่ๆ (Use Cases) ที่หลากหลายและสร้างมูลค่าเพิ่มมหาศาล
นายฌอน เจ้า ประธานกลุ่มธุรกิจเครือข่ายสำหรับแคมปัสของหัวเว่ย กล่าวถึงวิสัยทัศน์นี้ไว้อย่างชัดเจนว่า:
“โซลูชัน Xinghe Intelligent Campus ของหัวเว่ย ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเชื่อมต่อ แต่ยังขยายขอบเขตไปสู่การรับรู้ทุกสิ่งรอบตัว ผ่านแนวคิด Wi-Fi + X ที่ผสานเทคโนโลยีทั่วไป (General-Purpose Technologies: GPTs) เช่น IoT, ระบบเซ็นเซอร์ และการระบุตำแหน่ง (LBS) เข้ากับเครือข่าย Wi-Fi ที่มีอยู่ทั่วไป เรามั่นใจว่า ‘Wi-Fi + X’ จะช่วยผลักดันการสร้างแฝดดิจิทัลของแคมปัส (Campus Digital Twins) พื้นที่อัจฉริยะ และการเชื่อมโยงกับระบบบริหารจัดการแคมปัสอย่างไร้รอยต่อ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว การประหยัดพลังงาน การบริหารทรัพย์สิน และการดูแลสุขภาพแบบไร้สัมผัสอย่างมีประสิทธิภาพ”
คำกล่าวของนายฌอน สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ของหัวเว่ยที่ต้องการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายให้เป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับนวัตกรรมบริการต่างๆ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงานให้กับองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม
เจาะลึกกรณีศึกษา: จากแคมปัสสู่โอกาสทางธุรกิจมหาศาล
สมุดปกขาวได้ยกตัวอย่างการประยุกต์ใช้ที่จับต้องได้ภายใต้แนวคิด “Wi-Fi + X” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิต
-
Wi-Fi + CSI: การตรวจจับการมีอยู่และตำแหน่ง
- การบริการ (Hospitality): ลองนึกภาพแขกที่เดินเข้าสู่ล็อบบี้โรงแรมและระบบสามารถเช็คอินให้โดยอัตโนมัติเมื่อตรวจจับการมีอยู่ของบุคคลในพื้นที่ที่กำหนด สร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อและลดภาระงานของพนักงาน
- การประหยัดพลังงาน (Energy Saving): ในอาคารสำนักงานหรือหอพักนักศึกษา ระบบไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศจะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจไม่พบการเคลื่อนไหวของมนุษย์ในห้องเป็นเวลานาน ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ
- ความปลอดภัย (Security): สามารถใช้ตรวจจับการบุกรุกในพื้นที่หวงห้ามในช่วงเวลากลางคืน โดยไม่ต้องพึ่งพากล้องที่อาจมีประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัว เพิ่มระดับความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่สำคัญ
-
Wi-Fi + คลื่นมิลลิเมตร (Millimeter Wave): การตรวจจับพฤติกรรมและสัญญาณชีพ
- การดูแลสุขภาพ (Healthcare): นี่คือหนึ่งในมิติที่น่าตื่นเต้นที่สุด โดยเทคโนโลยีนี้สามารถตรวจจับการล้มของผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที และส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ดูแลได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถติดตามสัญญาณชีพที่สำคัญ เช่น อัตราการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจ ได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องมีการสัมผัสตัวผู้ป่วย ซึ่งช่วยลดความอึดอัดและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ป่วยในโรงพยาบาลหรือสถานดูแลผู้สูงอายุ
“Xinghe Intelligent Campus” โซลูชันเรือธงจากหัวเว่ย
เพื่อทำให้วิสัยทัศน์นี้เป็นจริง หัวเว่ยได้นำเสนอโซลูชัน “Xinghe Intelligent Campus” ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Wi-Fi 7 Advanced ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานทั้งหมด อุปกรณ์ AP ของหัวเว่ยที่ติดตั้งเทคโนโลยีนี้ จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนระบบโซนาร์ที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของคลื่นวิทยุที่เกิดจากการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในระดับเซนติเมตรได้
ด้วยการทำงานร่วมกับอัลกอริทึมที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะและระบบประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้ระบบมีความแม่นยำสูง หนึ่งในฟีเจอร์เด่นที่ถูกกล่าวถึงคือ ความสามารถในการตรวจจับกล้องแอบถ่ายที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีเรดาร์คลื่นมิลลิเมตรยังช่วยยกระดับการดูแลในแคมปัส ทั้งในหอพักและสถานพยาบาล ให้มีความปลอดภัยและตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น
ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและอนาคตของอุตสาหกรรม
การเปิดตัวสมุดปกขาวและเทคโนโลยี Wi-Fi CSI Sensing ในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของนวัตกรรมทางเทคนิค แต่ยังส่งผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจและรูปแบบการทำธุรกิจในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
- การสร้างมูลค่าเพิ่มจากโครงสร้างพื้นฐานเดิม (Value Creation on Existing Infrastructure): องค์กรที่ลงทุนติดตั้งเครือข่าย Wi-Fi ไปแล้ว สามารถอัปเกรดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ “ตรวจจับ” ได้โดยไม่ต้องลงทุนเดินสายหรือติดตั้งเซ็นเซอร์ประเภทอื่นเพิ่มเติมจำนวนมาก เป็นการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์เดิมให้คุ้มค่าสูงสุด
- การเกิดตลาดและบริการใหม่ (New Market & Service Emergence): นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันและบริการใหม่ๆ บนแพลตฟอร์ม “Wi-Fi + X” ได้อย่างไม่รู้จบ ตั้งแต่บริการดูแลผู้สูงอายุอัจฉริยะ, ระบบบริหารจัดการอาคารอัตโนมัติ ไปจนถึงการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในร้านค้าปลีก
- การเปลี่ยนแปลงของตลาดเซ็นเซอร์ (Disruption in Sensor Market): เทคโนโลยีนี้อาจเข้ามาท้าทายตลาดเซ็นเซอร์แบบดั้งเดิม เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (PIR) หรือเซ็นเซอร์อินฟราเรด เนื่องจาก Wi-Fi มีพื้นที่ครอบคลุมที่กว้างกว่าและสามารถให้ข้อมูลที่ละเอียดกว่า
- การขับเคลื่อนสู่ Digital Twins: ข้อมูลที่ได้จาก Wi-Fi CSI Sensing จะเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้าง “แฝดดิจิทัล” (Digital Twins) ของพื้นที่ทางกายภาพ ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถบริหารจัดการและจำลองสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
การเดินทางของ Wi-Fi จากเทคโนโลยีเพื่อ “การเชื่อมต่อ” สู่แพลตฟอร์มเพื่อ “การรับรู้” ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว การผนึกกำลังของหัวเว่ย, WAA, และผู้นำในอุตสาหกรรมครั้งนี้ ถือเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคตของพื้นที่อัจฉริยะ และเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า คลื่น Wi-Fi ที่มองไม่เห็นรอบตัวเรา กำลังจะกลายเป็นทรัพยากรที่มีค่ามหาศาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลยุคต่อไป
#หัวเว่ย #Huawei #WiFi7 #CSISensing #แคมปัสอัจฉริยะ #SmartCampus #เทคโนโลยี #นวัตกรรม #เศรษฐกิจดิจิทัล #WAA #พื้นที่อัจฉริยะ #DigitalTransformation #Wi-Fi+X