สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย เดินหน้าผลักดัน “อาหารอิตาเลียน” สู่การขึ้นทะเบียนมรดกโลกที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ชูประเด็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ความหลากหลายทางชีวภาพ การผลิตแบบยั่งยืน และอัตลักษณ์ที่หยั่งรากลึก ผ่านกิจกรรมเสวนาพิเศษในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 พร้อมทัพผู้ประกอบการกว่า 38 บริษัทร่วมจัดแสดงศักยภาพ หวังกระตุ้นการรับรู้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจอาหารอิตาลีในระดับสากล
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – วงการอาหารโลกกำลังจับตามองความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ เมื่อ “อาหารอิตาเลียน” ซึ่งเป็นที่รู้จักและชื่นชอบทั่วโลก กำลังอยู่บนเส้นทางสู่การได้รับการยอมรับในระดับสูงสุดในฐานะ “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโก” (UNESCO Intangible Cultural Heritage) ความพยายามในการผลักดันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเชิดชูคุณค่าทางวัฒนธรรมอันยาวนาน แต่ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับอุตสาหกรรมอาหารของอิตาลีอย่างมีนัยสำคัญ
ล่าสุด สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย (Italian Trade Agency – ITA) ได้จัดกิจกรรมเสวนาสุดพิเศษในหัวข้อ “อาหารอิตาเลียน: มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ที่ขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก” เมื่อวันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2568 ณ เวที Future Food Experience+ ฮอลล์ 5 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับนานาชาติ THAIFEX – Anuga Asia 2025
กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมคุณค่าและเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารอิตาเลียนให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนการขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโก โดยเชื่อมโยงความพิเศษของอาหารอิตาเลียนเข้ากับแนวโน้มและความนิยมด้านอาหารของโลกในอนาคต ซึ่งให้ความสำคัญกับอาหารแบบต้นตำรับ วิธีการผลิตที่ยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการทำอาหารที่มีเรื่องราวสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ภายในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 ครั้งนี้ ยังมีบริษัทอาหารและเครื่องดื่มจากประเทศอิตาลีจำนวนถึง 38 บริษัท มาร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม และวัตถุดิบระดับพรีเมียม สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอิตาลีในการนำเสนอความเป็นเลิศของสินค้า “Made in Italy” สู่ตลาดโลก
ฯพณฯ เอกอัครราชทูตอิตาลีชี้อาหารคือรากฐานวัฒนธรรม
พิธีเปิดการเสวนาได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย เป็นผู้กล่าวเปิดงาน โดยท่านทูตได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของอาหารในฐานะที่เป็นมากกว่าเพียงปัจจัยสี่ แต่เป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรม ประเพณี และอัตลักษณ์ของชาติ การผลักดันให้อาหารอิตาเลียนได้รับการยอมรับจากยูเนสโกจึงไม่ใช่เพียงความภาคภูมิใจของชาวอิตาลี แต่ยังเป็นการแบ่งปันมรดกอันล้ำค่านี้ให้กับมวลมนุษยชาติ
เจาะลึกคุณค่าอาหารอิตาเลียนผ่านมุมมองผู้เชี่ยวชาญ
เวทีเสวนาประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ 4 ท่าน ที่มานำเสนอแง่มุมอันหลากหลายเกี่ยวกับอาหารอิตาเลียน ตั้งแต่ศิลปะการปรุงอาหาร คุณค่าทางโภชนาการ มรดกทางวัฒนธรรม การเผยแพร่ผ่านสื่อ ตลอดจนบทบาทและความรับผิดชอบต่อวงการอาหารโลกในปัจจุบัน
ดร. เอลิสซาเบตตา แบร์นาร์ดิ (Elisabetta Bernardi) นักโภชนาการ นักชีววิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์อาหารจากอิตาลี ได้ให้ทัศนะอันลึกซึ้งว่า “อาหารอิตาเลียนไม่ได้เป็นแค่อาหารแต่เป็นมรดกที่มีชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่หลอมรวมเอาธรรมชาติ สุขภาพ ขนบธรรมเนียม และอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนเอาไว้ในจานเดียว” เธอยังได้ชี้ให้เห็นถึง “หัวใจ 3 ประการของอาหารอิตาเลียนที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้อาหารอิตาเลียนเป็นที่นิยมและเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงคุณค่า ได้แก่ มีความหลากหลายทางชีวภาพ การผลิตแบบหัตถกรรม และเป็นวิถีการกินแบบเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งส่งเสริมให้มีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาว” คุณสมบัติเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างเสน่ห์ให้กับอาหารอิตาเลียน แต่ยังสอดคล้องกับแนวทางการบริโภคที่ยั่งยืนและใส่ใจสุขภาพ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลก
เชฟ เดเนียล สเปรินดิโอ (Chef Daniele Sperindio) เชฟระดับดาวมิชลินและนักธุรกิจผู้ก่อตั้งร้านอาหาร Art di Daniele Sperindio ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของวัตถุดิบที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากอิตาลีว่า “ผลิตภัณฑ์อาหารจากประเทศอิตาลีที่ได้รับการรับรอง เช่น พาร์มิญาโน เรจจาโน DOP มะเขือเทศซานมาร์ซาโน DOP หรือบัลซามิกโมเดนา IGP เป็นมากกว่าวัตถุดิบประกอบอาหาร แต่เป็นองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า”
เชฟเดเนียลอธิบายเพิ่มเติมว่า “ทุกผลิตภัณฑ์มีความผูกพันกับพื้นที่ผลิตเฉพาะถิ่น มีวิธีการผลิตเฉพาะทาง และมีประวัติศาสตร์ที่สืบทอดมายาวนาน วัตถุดิบเหล่านี้สมควรได้รับการยอมรับในระดับโลกในฐานะตัวแทนของมรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพ งานฝีมือ และวิถีชีวิตแบบอิตาเลียน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ เราไม่ได้สูญเสียแค่รสชาติ แต่ยังสูญเสียความทรงจำ อัตลักษณ์ และความเป็นตัวตนของเรา นี่คือคำตอบว่าทำไมสิ่งเหล่านี้จึงสมควรได้รับการยอมรับจากยูเนสโก” การให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาและกระบวนการผลิตที่เข้มงวดนี้เอง ที่ช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ในคุณภาพและความเป็นของแท้ของผลิตภัณฑ์
ม.ล. ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ (หมึกแดง) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและนักชิมชื่อดังของเมืองไทย ได้กล่าวถึงเสน่ห์ของอาหารอิตาเลียนในมุมมองของคนไทยว่า “อาหารอิตาเลียนเป็นหนึ่งในอาหารที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมโรมันโบราณ และยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อศาสตร์การปรุงอาหารของยุโรป” คุณหมึกแดงยังเสริมอีกว่า “อาหารอิตาเลียนขึ้นชื่อในเรื่องความเรียบง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลกอย่างไม่เสื่อมคลาย” ความเรียบง่ายที่แฝงไปด้วยความพิถีพิถันนี้เอง ที่ทำให้อาหารอิตาเลียนสามารถครองใจนักชิมทั่วโลกมาได้อย่างยาวนาน
คุณบุช เลอชาญ คอนเทนต์ครีเอเตอร์สายอาหารชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับการสื่อสารคุณค่าของอาหารอิตาเลียนไปยังคนรุ่นใหม่ว่า “เมื่อชาวต่างชาติมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับที่มา ประเพณี และคุณค่าที่อยู่เบื้องหลังอาหารอิตาเลียนต้นตำหรับแท้ๆ จริงผ่านสื่อต่างๆ ผู้คนเหล่านั้นจะเข้าใจว่าอาหารอิตาเลียนไม่ใช่แค่อาหารที่มีความอร่อยเท่านั้น แต่เป็นการแสดงออกถึงมรดกทางวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และงานฝีมืออันประณีตอีกด้วย” การสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเข้าใจและความผูกพันกับอาหารอิตาเลียนในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ความหมายที่ลึกซึ้งและเหตุผลสู่การเป็นมรดกโลก
การเสวนายังได้เน้นย้ำถึงเหตุผลที่อาหารอิตาเลียนมีความสำคัญเกินกว่าความเป็นเพียงอาหาร มันคือมรดกทางวัฒนธรรมที่มีชีวิต ซึ่งหลอมรวมธรรมชาติ ความเป็นอยู่ที่ดี ประเพณี และอารมณ์ความรู้สึก ร้อยเรียงอยู่ในทุกจานอาหาร ด้วยรากฐานจากวัฒนธรรมอันยาวนานหลายศตวรรษ อาหารอิตาเลียนจึงเป็นศาสตร์การปรุงอาหารที่สะท้อนถิ่นกำเนิด พัฒนาอย่างพิถีพิถันตามกาลเวลา และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ไม่เพียงบำรุงสุขภาพร่างกาย แต่ยังหล่อเลี้ยงความทรงจำ เอกลักษณ์ และจิตวิญญาณทางวัฒนธรรม
ผลิตภัณฑ์อาหารอิตาเลียนจำนวนมากยังคงยึดมั่นในกรรมวิธีแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นงานฝีมือที่สั่งสมมานาน และยากที่จะลอกเลียนแบบด้วยกระบวนการผลิตเชิงอุตสาหกรรม วัตถุดิบที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองแหล่งกำเนิด (เช่น DOP – Denominazione di Origine Protetta หรือ IGP – Indicazione Geografica Protetta) มีมาตรฐานการระบุแหล่งที่มาและกระบวนการผลิตที่เข้มงวด สิ่งนี้ช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับถิ่นกำเนิดและมีคุณภาพสูงอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เกษตรกรรมแบบดั้งเดิมของอิตาลียังให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางชีวภาพ กรรมวิธีการผลิตที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดปริมาณขยะอาหาร ซึ่งล้วนเป็นหลักการสำคัญที่จะขับเคลื่อนอนาคตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของโลก
การปกป้องและส่งเสริมผ่านการรับรองจากยูเนสโก
อาหารอิตาเลียนคือความภาคภูมิใจของประเทศอิตาลี ที่เดินทางผ่านกาลเวลาจากอดีตสู่ปัจจุบัน โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง การเสนอชื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก มีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมมรดกทางอาหารอันล้ำค่านี้ให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป การได้รับการรับรองนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการปกป้องมรดกด้านอาหารของอิตาลีจากการถูกดัดแปลง เลียนแบบ และเป็นเครื่องมือสำคัญในการอนุรักษ์อาหารอิตาลีต้นตำรับแท้ๆ ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมให้คงอยู่ ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์และการลอกเลียนแบบที่เพิ่มมากขึ้น
บทบาทของสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน (ITA)
สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน (Italian Trade Agency – ITA) เป็นหน่วยงานของรัฐบาลอิตาลีที่มีภารกิจหลักในการสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจจากประเทศอิตาลีในต่างประเทศ และส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศสู่ประเทศอิตาลี ด้วยเครือข่ายสำนักงานที่ครอบคลุมทั่วโลก ITA พร้อมให้บริการข้อมูล คำปรึกษา ส่งเสริมการตลาด และการฝึกอบรมแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของอิตาลี เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศของสินค้า “Made in Italy” ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล การจัดกิจกรรมครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์อิตาลีในตลาดโลก
การผลักดันให้อาหารอิตาเลียนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของเกียรติยศ แต่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของอิตาลีในระยะยาว เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่าคุณค่าของอาหารอิตาเลียนนั้นหยั่งรากลึกอยู่ในประวัติศาสตร์ นวัตกรรม ความยั่งยืน และจิตวิญญาณของผู้คน ซึ่งเป็นสินทรัพย์อันประเมินค่ามิได้ของประเทศอิตาลีและของโลก
ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลด E-Catalog ของผู้ประกอบการอิตาลีที่เข้าร่วมงานได้ที่ https://bit.ly/3SMYRMU และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: aforall หรือ Email: [email protected]
#อาหารอิตาเลียน #มรดกโลกยูเนสโก #THAIFEXAnugaAsia2025 #วัฒนธรรมอาหารอิตาลี #MadeInItaly #เศรษฐกิจอิตาลี #สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน #ItalianCuisine #UNESCO #SustainableFood #อาหารและเครื่องดื่ม #อิตาลี