เข็มเหล็ก ผนึก วิศวะจุฬาฯ พัฒนาฐานราก ปฏิวัติวงการก่อสร้างไทย

เข็มเหล็ก ผนึก วิศวะจุฬาฯ พัฒนาฐานราก ปฏิวัติวงการก่อสร้างไทย

“เข็มเหล็ก” ยักษ์ใหญ่ด้านนวัตกรรมฐานราก จับมือคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนาม MOU ครั้งประวัติศาสตร์ มุ่งวิจัยและพัฒนา “เทคโนโลยีเสาเข็มเหล็ก” อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งเป้ายกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยสู่สากล ชูประเด็นแก้ปัญหาแรงสั่นสะเทือนและนวัตกรรมติดตั้งในที่แคบ พร้อมเสริมแกร่งด้านความยั่งยืน สร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้เศรษฐกิจภาคการก่อสร้าง

เจาะลึกความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์: KEMREX และ จุฬาฯ พลิกโฉมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย

เข็มเหล็ก จำกัด (KEMREX) ผู้นำด้านนวัตกรรมฐานรากเสาเข็มเหล็กของไทย และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) อย่างเป็นทางการ โดยมี คุณประเสริฐ ธรรมมนุญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เข็มเหล็ก จำกัด และ รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ลงนาม ท่ามกลางคณะผู้บริหารจากทั้งสององค์กรที่ร่วมเป็นสักขีพยาน

ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการจับมือกันระหว่างภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา แต่คือการวางรากฐานสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเสาเข็มเหล็กอย่างจริงจัง พร้อมส่งเสริมนวัตกรรมฐานรากให้เป็นที่ยอมรับและใช้งานอย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยอย่างเป็นระบบ เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างความยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับมาตรฐานทางวิศวกรรมของประเทศให้ทัดเทียมนานาชาติในระยะยาว

ทำไมต้อง “เสาเข็มเหล็ก” ? นวัตกรรมที่ตอบโจทย์โลกก่อสร้างยุคใหม่

ในอดีต อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยคุ้นเคยกับการใช้เสาเข็มคอนกรีตเป็นหลัก ซึ่งแม้จะมีความแข็งแรง แต่ก็มาพร้อมกับข้อจำกัดหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการติดตั้งที่ยุ่งยากซับซ้อน ก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียงและแรงสั่นสะเทือนสูง สร้างผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ รวมถึงการเกิดฝุ่นละอองและเศษวัสดุหน้างานจำนวนมาก นอกจากนี้ การขนส่งและตอกเสาเข็มคอนกรีตยังต้องการพื้นที่กว้าง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับโครงการในเขตเมืองที่มีพื้นที่จำกัด

เทคโนโลยี “เสาเข็มเหล็ก” จาก KEMREX เข้ามาเพื่อทลายข้อจำกัดเหล่านี้อย่างสิ้นเชิง ด้วยคุณสมบัติเด่นหลายประการที่ตอบโจทย์การก่อสร้างยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว ประสิทธิภาพ และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  • ความรวดเร็วในการติดตั้ง: สามารถติดตั้งได้เร็วกว่าเสาเข็มคอนกรีตหลายเท่าตัว ช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้างโดยรวมของโครงการได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหมายถึงการประหยัดต้นทุนและโอกาสในการรับรู้รายได้ที่รวดเร็วยิ่งขึ้นสำหรับผู้ประกอบการ
  • ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: กระบวนการติดตั้งด้วยการหมุนเกลียวเสาเข็มลงไปในดิน ไม่มีการตอกกระแทก ทำให้เกิดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก หมดปัญหาเรื่องฝุ่นและเศษปูนหน้างาน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโครงการที่ตั้งอยู่ในชุมชนหนาแน่นหรือใกล้กับอาคารที่ต้องการความระมัดระวังเป็นพิเศษ
  • ความยืดหยุ่นและความหลากหลาย: สามารถออกแบบและใช้งานได้กับสภาพดินที่หลากหลาย และมีความยืดหยุ่นสูงสำหรับงานต่อเติมหรือโครงการที่ต้องการความแม่นยำเป็นพิเศษ
  • ความยั่งยืน (Sustainability): เสาเข็มเหล็กสามารถถอนเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reuse) และวัสดุเหล็กยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และมาตรฐานอาคารสีเขียว (Green Building) ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ

วิสัยทัศน์จากสถาบันการศึกษา: เชื่อมองค์ความรู้สู่การปฏิบัติจริง

การผนึกกำลังกับ KEMREX ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากคณาจารย์และผู้บริหารของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งมองเห็นศักยภาพมหาศาลในการสร้างประโยชน์ต่อทั้งวงการวิชาการและอุตสาหกรรม

รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือนี้ว่า “นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้นิสิตและนักวิจัยของจุฬาฯ ได้เข้าถึงเทคโนโลยีฐานรากสมัยใหม่แล้ว ยังเป็นการเชื่อมโยงองค์ความรู้ทางวิชาการเข้ากับการใช้งานจริงในภาคสนาม สร้างโอกาสใหม่ให้วงการก่อสร้างไทยก้าวสู่ยุคของความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม”

คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์สองด้านที่ชัดเจน หนึ่งคือนิสิตและบุคลากรทางการศึกษาจะได้รับประสบการณ์ตรงจากการทำงานร่วมกับภาคเอกชนชั้นนำ ได้สัมผัสเทคโนโลยีจริงและโจทย์ปัญหาจริง ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนและการวิจัยให้ทันต่อความต้องการของตลาดแรงงาน สองคือภาคอุตสาหกรรมจะได้รับประโยชน์จากองค์ความรู้เชิงลึกและการทดสอบที่เป็นมาตรฐานทางวิชาการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.เกษม ชูจารุกุล หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโยธา จุฬาฯ ได้กล่าวเสริมถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ว่า “เทคโนโลยีเสาเข็มเหล็กมีศักยภาพในการลดระยะเวลาก่อสร้าง เพิ่มความยืดหยุ่น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การจับมือกับ เข็มเหล็ก ครั้งนี้จะเปิดประตูสู่งานวิจัยและนวัตกรรมที่รองรับความเปลี่ยนแปลงของเมืองยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” มุมมองของ ศ.ดร.เกษม ชี้ให้เห็นว่าความร่วมมือนี้ไม่ใช่แค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของเมือง ที่ต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน

KEMREX ตอกย้ำความเป็นผู้นำ: จากแนวคิดสู่นวัตกรรมที่จับต้องได้

ในฐานะผู้ขับเคลื่อนหลักจากภาคเอกชน KEMREX แสดงความมุ่งมั่นที่จะผลักดันเทคโนโลยีเสาเข็มเหล็กให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม

คุณประเสริฐ ธรรมมนุญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เข็มเหล็ก จำกัด เปิดเผยด้วยความภาคภูมิใจว่า “บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเสาเข็มเหล็กจากแนวคิดสู่การใช้งานจริงในระดับประเทศ”

คุณประเสริฐได้ฉายภาพโครงการที่จะเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือนี้ไว้อย่างน่าสนใจ โดยชี้ว่า “จุดเริ่มต้นของความร่วมมือจะอยู่ที่โครงการวิจัยแรงสั่นสะเทือนจากการติดตั้งฐานราก ซึ่งเป็นประเด็นตามประกาศของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่ยังไม่มีข้อมูลเชิงลึกในภาคสนาม” ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในในเชิงธุรกิจและกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบัน ข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมมีความเข้มงวดมากขึ้น การมีข้อมูลวิจัยที่ชัดเจนและได้รับการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถืออย่างจุฬาฯ จะช่วยยืนยันคุณสมบัติด้านการลดแรงสั่นสะเทือนของเสาเข็มเหล็กได้อย่างเป็นรูปธรรม สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้พัฒนาโครงการและหน่วยงานภาครัฐ และอาจปลดล็อกให้สามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมสูงได้

นอกจากนี้ KEMREX ยังมองไกลไปถึงการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยคุณประเสริฐกล่าวเสริมว่า มีการวางแผนต่อยอดความร่วมมือสู่โครงการวิจัยเสาเข็มเหล็กแบบพิเศษ “KEMREX Angle Installation” (KAI) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์งานฐานรากในพื้นที่จำกัด และได้รับความสนใจจากสถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจอย่างกว้างขวาง นวัตกรรม KAI หรือการติดตั้งเสาเข็มในแนวเฉียงนี้ อาจเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับงานก่อสร้างและต่อเติมในพื้นที่ที่ท้าทายอย่างยิ่ง เช่น การเสริมความแข็งแรงของอาคารเก่าที่ติดกับอาคารอื่น การก่อสร้างในซอยแคบ หรือการทำงานใกล้แนวสาธารณูปโภคใต้ดินที่ละเอียดอ่อน

“นี่คือจุดเริ่มต้นของการบูรณาการองค์ความรู้ระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ที่จะนำไปสู่การยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย และสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้กับวงการก่อสร้างไทยในอนาคต” คุณประเสริฐกล่าวทิ้งท้าย

กรอบความร่วมมือที่ยั่งยืน: สู่การพัฒนาที่ตอบโจทย์สังคม

ภายใต้บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น การวิจัยร่วมกัน การพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรม การจัดกิจกรรมทางวิชาการ และการถ่ายทอดองค์ความรู้ สิ่งเหล่านี้จะสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของนวัตกรรมฐานรากในประเทศไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งภาคธุรกิจและสังคมโดยรวมอย่างยั่งยืน การสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ชัดเจนจะทำให้ผู้ใช้งานเกิดความมั่นใจ ในขณะที่การจัดกิจกรรมและการถ่ายทอดความรู้จะช่วยเผยแพร่เทคโนโลยีนี้ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ตั้งแต่ระดับนักศึกษา วิศวกร ไปจนถึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์

ความร่วมมือระหว่าง KEMREX และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครั้งนี้ จึงเป็นมากกว่าแค่ข่าวธุรกิจ แต่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ที่กำลังก้าวสู่ยุคแห่งนวัตกรรม ประสิทธิภาพ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มตัว ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไปในอนาคต

#เข็มเหล็ก #KEMREX #วิศวะจุฬา #นวัตกรรมก่อสร้าง #ฐานรากเสาเข็มเหล็ก #อุตสาหกรรมก่อสร้าง #MOU #ความร่วมมือทางวิชาการ #วิศวกรรมโยธา #ก่อสร้างยั่งยืน #เทคโนโลยีฐานราก #เศรษฐกิจไทย

Related Posts