ท่ามกลางความผันผวนของฤดูกาลที่นับวันจะยิ่งคาดเดาได้ยากขึ้นจากภาวะโลกรวน ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่แปรปรวนอย่างภัยแล้งและน้ำท่วมที่รุนแรงขึ้น อุณหภูมิที่สูงขึ้น ประกอบกับความต้องการใช้น้ำในการดำรงชีวิตและใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นตามอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรโลก ซึ่งสวนทางกับแหล่งกักเก็บน้ำที่มีอย่างจำกัด ทำให้ทรัพยากร “น้ำ” กำลังกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อความมั่นคงในการดำรงชีวิตและเศรษฐกิจ จากสถานการณ์ดังกล่าว องค์การสหประชาชาติ (United Nations) จึงได้กำหนดให้วันที่ 17 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันต่อต้านปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งของโลก (World Day to Combat Desertification and Drought) เพื่อรณรงค์ให้ประชากรโลกตระหนักถึงภาวะวิกฤตที่กำลังเผชิญ และร่วมกันหันมาใส่ใจดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่คือภารกิจของทุกภาคส่วนที่ต้องร่วมมือกัน โดย “กลุ่มมิตรผล” ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านความยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร จัดอันดับโดย S&P Global และผู้นำในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาดูแลทรัพยากรน้ำในภาคเกษตรให้ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การพัฒนาระบบชลประทานเพื่อการเกษตร การถ่ายทอดเทคโนโลยีการใช้น้ำแก่เกษตรกร เพื่อเพิ่มผลผลิตและช่วยลดต้นทุน รวมถึงยกระดับประสิทธิภาพการใช้น้ำภายในกระบวนการผลิตของโรงงาน เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำอย่างยั่งยืน ผ่านแนวคิดบริหารจัดการน้ำแบบองค์รวม ด้วยโมเดล 4Rs: Resource, Reuse, Recycle และ Reduce
นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า “การบริหารจัดการน้ำด้วยโมเดล 4Rs เป็นแนวคิดที่ถูกออกแบบอย่างรอบด้านและใส่ใจในทุกมิติ เพื่อสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรน้ำในทุก ๆ กระบวนการของกลุ่มมิตรผลเราไม่ได้คิดแค่การใช้น้ำน้อยลงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีการวางแผนอย่างรอบคอบว่าทุกหยดของน้ำนั้นจะถูกใช้ให้เกิดคุณค่าสูงสุดและมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในระดับโรงงาน ชุมชน และไร่อ้อยได้อย่างไร ดังนั้นในฐานะองค์กรที่ช่วยขับเคลื่อนภาคเกษตรไทย เราไม่ได้มองบทบาทของตัวเองแค่การทำธุรกิจ แต่ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของประเทศที่เชื่อว่าน้ำคือรากฐานความมั่นคงของชีวิตผู้คน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม และนั่นคือเหตุผลที่เราต้องคิดและลงมือทำให้ครบทั้งกระบวนการ เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนและแบ่งปันประโยชน์นั้นไปสู่ชุมชน เกษตรกร และสังคมไทย”
การบริหารจัดการน้ำภายใต้โมเดล 4Rs ของกลุ่มมิตรผล ได้แก่
Resource การจัดหาแหล่งน้ำสำรอง ผ่านโครงการ “Mitr Phol Oasis” แหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่อการเกษตรที่กลุ่มมิตรผลได้พัฒนาและสร้างขึ้นในพื้นที่ลุ่มที่เกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง มีความจุกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับกักเก็บน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากไว้ใช้ในฤดูแล้ง พร้อมระบบกระจายน้ำไปยังไร่อ้อยของเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรได้มีน้ำใช้ในการทำการเกษตรและดำรงชีวิต ช่วยลดปัญหาภาวะภัยแล้งและบรรเทาอุทกภัยในยามที่ฝนชุก เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถกักเก็บน้ำได้ในปริมาณมากกว่าสระกักเก็บน้ำทั่วไป
นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของการทำเกษตรสมัยใหม่ และการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบตามแนวทาง “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” ตั้งแต่การใช้เทคโนโลยี (IoT) เพื่อควบคุมการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การควบคุมการให้น้ำอัตโนมัติด้วยระบบน้ำหยดร่วมกับการให้ปุ๋ยทางน้ำ ควบคู่กับการวัดความชื้นในดิน ทำให้ไม่เกิดการใช้น้ำมากเกินความจำเป็น การขุดสระพักน้ำ การรวมกลุ่มเกษตรกรภายในชุมชน เพื่อบริหารรอบเวรการใช้น้ำ และการใช้ปั๊มสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ในการส่งต่อน้ำจากแหล่งเก็บน้ำเข้าไปยังไร่อ้อย ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ปัจจุบันโครงการ “Mitr Phol Oasis” มีจำนวน 4 โครงการ ตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ สุพรรณบุรี และกาฬสินธุ์ รวมพื้นที่รับประโยชน์ครอบคลุมกว่า 22,000 ไร่ ช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่สามารถรับมือกับภาวะภัยแล้ง ทั้งยังสามารถเพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้แก่เกษตรกร 3,000 – 6,000 บาท ต่อไร่ สร้างความมั่นคงในอาชีพของเกษตรกร และสร้างรายได้หมุนเวียนจากการจ้างงานในชุมชน พร้อมลดปริมาณการใช้น้ำ 1,040 ลบ.ม. ต่อไร่ต่อปี ลดต้นทุนค่าน้ำได้มากถึง 3,500 บาท ต่อไร่ต่อปี
Reuse เป็นการใช้น้ำให้คุ้มค่าที่สุด โดยการหมุนเวียนน้ำจากอ้อยกลับมาใช้ในกระบวนการผลิต จากการพัฒนานวัตกรรมนำน้ำจากต้นอ้อย ซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักถึง 60% กลับมาใช้ใหม่ภายในโรงงาน โดยการควบแน่นน้ำจากอ้อยหลังผ่านกระบวนการผลิตน้ำตาลให้กลายเป็นน้ำร้อน และลดอุณหภูมิลงจนสามารถนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตและวนใช้ในกิจกรรมภายในโรงงาน
Recycle การบำบัดและนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ ด้วยระบบบำบัดน้ำที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้เฉลี่ยวันละ 3,000 ลูกบาศก์เมตร ลดปริมาณการใช้น้ำของโรงงานได้อีกทางหนึ่ง
Reduce การลดการใช้น้ำ โดยลดการใช้น้ำในไร่อ้อยด้วยระบบน้ำหยดแบบควบคุมอัตโนมัติร่วมกับการวัดความชื้นในดิน และกระบวนการผลิตในโรงงาน ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อยกระดับกระบวนการผลิต ทำให้สามารถลดการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความยั่งยืนของทรัพยากรน้ำต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่ต้อง “เห็นถึงคุณค่า” และ “ใช้อย่างรู้คิด” ในทุกหยด โมเดล 4Rs: Resource, Reuse, Recycle และ Reduce ของกลุ่มมิตรผล จึงสะท้อนถึงความตั้งใจในการดูแลทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาภาวะโลกร้อน สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ