มูจิ ประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกไทย สร้างประวัติศาสตร์คว้ารางวัลใหญ่ “Brand Store of The Year – Thailand” จากเวทีระดับนานาชาติ Retail Asia Awards 2025 สะท้อนศักยภาพการดำเนินงานที่โดดเด่นรอบด้าน ทั้งกลยุทธ์การขยายสาขาทั่วประเทศ การสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือกว่า การผนึกกำลังกับชุมชนท้องถิ่น และการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์คนไทยอย่างแท้จริง พร้อมประกาศเดินหน้ายกระดับธุรกิจค้าปลีกไทยสู่มิติใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MUJI ได้ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญบนเวทีระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยสามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติ “Brand Store of The Year – Thailand” จากงานประกาศรางวัล “Retail Asia Awards 2025” ซึ่งจัดขึ้นโดย Charlton Media Group ณ ประเทศสิงคโปร์ รางวัลนี้มอบให้กับแบรนด์ค้าปลีกที่มีความเป็นเลิศในด้านความสำเร็จและนวัตกรรมในอุตสาหกรรมค้าปลีกทั่วทั้งทวีปเอเชีย
การได้รับรางวัลในสาขานี้ถือเป็นการการันตีว่า มูจิ ประเทศไทย มีความโดดเด่นในการดำเนินงานของร้านค้าในรูปแบบ Physical Store ที่สามารถมอบประสบการณ์อันเหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วภูมิภาคได้พิจารณาจากปัจจัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้า ความสะดวกสบาย และการสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีเลิศ ซึ่งครอบคลุมทั้งความสวยงามของร้านค้า การจัดวางสินค้า มารยาทและการบริการของพนักงาน ไปจนถึงความพึงพอใจโดยรวมของลูกค้า
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า “ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มูจิ ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์สามัญประจำบ้านในใจคนไทย ซึ่งการได้รับรางวัล “Brand Store of The Year – Thailand” ในครั้งนี้ถือเป็นผลตอบแทนแห่งความสำเร็จของแบรนด์มูจิ และพนักงานของเราทุกคนที่มีส่วนร่วมกับรางวัลอันทรงเกียรติในวันนี้”
นายคาโมการิยังเน้นย้ำว่า มูจิ ประเทศไทยเป็นแบรนด์ร้านค้าปลีกจากประเทศไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ผ่านการประเมินจากคณะกรรมการฯ และได้รับรางวัลนี้ในปีนี้ ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากกลยุทธ์หลัก 3 ประการที่ผลักดันให้แบรนด์เติบโตอย่างก้าวกระโดดและแตกต่าง
1. กลยุทธ์ขยายสาขาทั่วประเทศและสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เหนือกว่า
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มูจิได้เดินหน้ากลยุทธ์ขยายสาขาอย่างรวดเร็วและครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยมีการเปิดสาขาใหม่รวมกว่า 10 แห่งในช่วงปี 2566-2567 ส่งผลให้ปัจจุบัน มูจิมีสาขารวมทั้งสิ้น 39 แห่งทั่วประเทศไทย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือความสำเร็จของสาขา “มูจิ วัน แบงค็อก” ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยสูงถึง 1,000 คนต่อวัน และสร้างยอดขายเติบโตกว่า 10% ภายในเวลาเพียง 1 เดือนหลังเปิดตัว
หัวใจสำคัญของความสำเร็จนี้คือการให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience)” อย่างลึกซึ้ง ซึ่งมูจิมองว่าไม่ได้จำกัดอยู่แค่ขั้นตอนการซื้อสินค้า แต่เป็นการออกแบบประสบการณ์ที่ตอบสนองทุกประสาทสัมผัส ตั้งแต่ก้าวแรกที่ลูกค้าเข้าร้าน
- In-Store Atmosphere: มูจิใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย ตั้งแต่การตกแต่งร้านด้วยวัสดุธรรมชาติ การจัดวางสินค้าที่เป็นระเบียบเรียบง่าย แสง สี เสียง และกลิ่นที่สร้างความสบายใจ
- คอนเซ็ปต์ “มูจิในชีวิตประจำวัน”: สาขาใหม่ๆ ถูกออกแบบมาพร้อมบริการเสริมที่ผสมผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่น มุมกาแฟ (MUJI Coffee Corner), บริการปักผ้าและสกรีนเสื้อเพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ Interior Advisor Consultation บริการให้คำปรึกษาด้านการออกแบบตกแต่งภายในโดยผู้เชี่ยวชาญ
- Product & Post-Purchase Experience: การจัดวางสินค้าถูกออกแบบให้เข้าใจง่าย มีตัวอย่างให้ทดลองใช้จริง พร้อมป้ายราคาและโปรโมชั่นที่ชัดเจน ขณะเดียวกัน ประสบการณ์หลังการขายก็ได้รับความสำคัญไม่แพ้กัน ทั้งการรับประกันสินค้าที่ไม่ยุ่งยาก และการใส่ใจในความพึงพอใจของลูกค้าหลังการใช้งาน
กลยุทธ์ที่เฉียบคมนี้ส่งผลให้มูจิ ประเทศไทย สามารถทุบสถิติ อัตราการเติบโตด้วยเลขสองหลัก (Double Digit) ในปี 2567 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ช่องทางการสื่อสารบนโซเชียลมีเดียยังมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในรอบ 3 ปี ผ่านการขยายไปยังแพลตฟอร์มใหม่อย่าง TikTok และ Line Official Account เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายยิ่งขึ้น
2. การผนึกกำลังกับชุมชนและสร้างผลกระทบเชิงบวกในท้องถิ่น
มูจิ ประเทศไทยไม่ได้มองว่าร้านค้าเป็นเพียงพื้นที่ขายของ แต่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ต้องเติบโตไปด้วยกัน จึงได้นำเสนอประสบการณ์ร้านค้าปลีกที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุตกแต่ง การคัดเลือกสินค้า และการจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่
- สาขาเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต: ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และช่างฝีมือท้องถิ่น จัดเวิร์กช็อปและเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นนำผลิตภัณฑ์มาวางจำหน่าย
- สาขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น, อุดรธานี, นครราชสีมา): มีการเปิดพื้นที่เพื่อแบ่งปันความรู้ด้านการตลาดและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อคนไทยและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือความมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์รสนิยมและความต้องการของคนไทยโดยเฉพาะ ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพจากแหล่งผลิตในประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค แต่ยังเป็นการสร้างรายได้และโอกาสให้กับเกษตรกรและผู้ผลิตไทย
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เด่น ได้แก่:
- ผลไม้อบเคลือบช็อกโกแลต: ใช้ผลไม้ไทยคุณภาพ เช่น มะม่วง ส้ม กล้วย และบลูเบอร์รี่
- น้ำแร่ธรรมชาติ: จากแหล่งน้ำแร่ในจังหวัดเพชรบูรณ์
- ขนมอบกรอบรสกุ้ง: รสชาติที่ถูกปากผู้บริโภคชาวไทย โดยเน้นการใช้วัตถุดิบที่ปลอดสารกันเสียและสารเคมี
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กล่าวเสริมว่า “การที่มูจิ ประเทศไทย ได้รับรางวัลในสาขา “Brand Store of The Year – Thailand” ในปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่า เราไม่ใช่แค่ผู้นำแบรนด์ร้านค้าปลีกในประเทศไทย แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่โดดเด่นและเปี่ยมด้วยศักยภาพที่สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ”
ก้าวต่อไป: ยกระดับประสบการณ์สู่มิติใหม่ ครึ่งหลังปี 2568
นางสาวอริญา พันธุมโกมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มูจิ รีเทล ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดเผยถึงทิศทางในอนาคตว่า “ความสำเร็จของมูจิในประเทศไทยไม่ได้มาจากแค่ยอดขายสินค้า แต่มาจากการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมในทุกมิติ”
สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2568 มูจิ ประเทศไทยเตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับวงการค้าปลีกไทย โดยมีแผนจะ เปิดตัวสาขารูปแบบใหม่ ที่จะเป็นมากกว่าร้านค้า แต่จะเป็น “จุดหมายปลายทางแห่งใหม่” ที่เชื่อมโยงผู้คน ชุมชน และวัฒนธรรมไทยในมุมมองร่วมสมัยเข้าไว้ด้วยกัน สาขาใหม่นี้จะเน้นการออกแบบพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ทรงพลัง มีพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อปฏิสัมพันธ์ และบริการที่สะท้อนความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน บริษัทจะยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ และสินค้ากลุ่มของใช้ในบ้านที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนไทยอย่างแท้จริง โดยยังคงยึดมั่นในปรัชญาความเรียบง่าย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริง
ทั้งนี้ MUJI ประเทศไทยเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 และได้ก่อตั้ง บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ในปี พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ปัจจุบัน มูจิ ประเทศไทยมีสาขาทั้งสิ้น 39 แห่ง และมีสินค้าจำหน่ายมากกว่า 5,000 รายการ
#MUJI #MUJIThailand #มูจิ #MUJIRetailAsiaAwards #ข่าวเศรษฐกิจ #ธุรกิจค้าปลีก #RetailAsiaAwards #BrandStoreOfTheYear #กลยุทธ์การตลาด #ความสำเร็จทางธุรกิจ #มูจิประเทศไทย