POCO เปิดเกมรุกตลาดสมาร์ทโฟนไทยอีกครั้ง ส่ง POCO F7 สมาร์ทโฟนฉายา “นักฆ่าเรือธง” ลงสนาม ชูจุดเด่นขุมพลังระดับท็อปด้วยชิปเซ็ตล่าสุด Snapdragon® 8s Gen 4 พร้อมระบบระบายความร้อนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แบตเตอรี่ขนาดมหึมา และดีไซน์โฉมใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเร็ว ประกาศราคาเริ่มต้นสุดเร้าใจที่ 13,499 บาท ในช่วงโปรโมชันพิเศษ หวังเจาะกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งเกมเมอร์และพาวเวอร์ยูสเซอร์ ตั้งเป้าสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดสมาร์ทโฟนช่วงกลางปี
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – POCO แบรนด์เทคโนโลยีที่เป็นที่ชื่นชอบของคนรุ่นใหม่ทั่วโลก ได้ประกาศเปิดตัวและวางจำหน่าย POCO F7 อย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันนี้ การมาถึงของ F7 ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนในตระกูล F Series ไปอีกขั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสมาร์ทโฟนระดับราคาหนึ่งหมื่นบาท ด้วยการอัดแน่นสเปคระดับเรือธงมาอย่างครบครัน แต่ยังคงไว้ซึ่งปรัชญาของแบรนด์ที่ว่า “เป็นทุกอย่างที่คุณต้องการ และไม่ใช่สิ่งที่คุณไม่ต้องการ”
ไฮไลท์สำคัญของการเปิดตัวครั้งนี้คือการเลือกใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon® 8s Gen 4 Mobile Platform ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพอันทรงพลังของตัวเครื่อง POCO ยังได้สร้างความพิเศษด้วยการเปิดตัว POCO F7 Cyber Silver Edition ที่มีการประทับโลโก้ Snapdragon® ไว้ที่ฝาหลังอย่างโดดเด่น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการผสานพลังและดีไซน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แห่งความเร็วและพลัง POCO ได้เปิดตัว Rydr อวตารเสมือนจริงตัวแรกของแบรนด์ ซึ่งจะเป็นตัวแทนสะท้อนถึงประสิทธิภาพที่ก้าวล้ำของ POCO F7
ในเชิงกลยุทธ์การตลาด POCO ประเทศไทยได้ประกาศราคาจำหน่ายที่น่าสนใจ พร้อมโปรโมชันสำหรับลูกค้าที่ซื้อในช่วงแรก (Early Bird) ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน ถึง 7 กรกฎาคม 2568 โดย รุ่นความจุ 12GB + 256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 13,499 บาท (จากราคาปกติ 13,999 บาท) และ รุ่นความจุ 12GB + 512GB ในราคาพิเศษ 14,499 บาท (จากราคาปกติ 14,999 บาท) พร้อมมอบความอุ่นใจด้วยการรับประกันตัวเครื่องนาน 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 1 ครั้งภายใน 6 เดือนแรก
เจาะลึกขุมพลังเรือธงและประสิทธิภาพเพื่อการเล่นเกม
หัวใจของ POCO F7 คือชิปเซ็ต Snapdragon® 8s Gen 4 Mobile Platform ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม CPU แบบ All-Big-Core ซึ่งหมายถึงการใช้แกนประมวลผลขนาดใหญ่ทั้งหมดเพื่อการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด สิ่งนี้ส่งผลให้ POCO F7 สามารถทำคะแนนทดสอบ AnTuTu benchmark ได้สูงถึง 2,084,535 คะแนน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้การใช้งานทั่วไป การเปิด-ปิดแอปพลิเคชัน หรือการทำงานที่ซับซ้อนเป็นไปอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด
สำหรับคอเกม POCO F7ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษด้วย WildBoost Optimization 4.0 บนระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาได้อย่างเต็มศักยภาพ รองรับการแสดงผลความละเอียดสูงระดับ 1.5K Super Resolution และสามารถดันอัตราเฟรมเรตได้สูงสุดถึง 120 FPS ในเกมยอดนิยมอย่าง Genshin Impact เพื่อให้ประสบการณ์การเล่นเกมสมบูรณ์แบบที่สุด POCO F7ยังมาพร้อม Surge T1s signal tuner ซึ่งเป็นชิปจูนเนอร์สัญญาณที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และเสริมความเสถียรของ Wi-Fi และ Bluetooth ให้การเชื่อมต่อออนไลน์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและไร้กังวล
สยบทุกความร้อนด้วยระบบระบายความร้อนขั้นสุด และแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุด
หนึ่งในความท้าทายของสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงคือการจัดการความร้อน POCO ได้แก้ปัญหานี้ด้วยการติดตั้งระบบระบายความร้อนที่ดีที่สุดของแบรนด์อย่าง 3D Dual-Channel IceLoop System ที่มีพื้นที่ระบายความร้อนขนาดมหึมาถึง 6,000 ตารางมิลลิเมตร พร้อมด้วยท่อระบายความร้อนแบบ Loop Heat Pipe ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในอุปกรณ์ของ POCO ระบบนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าตัวเครื่องจะยังคงรักษาประสิทธิภาพสูงสุดไว้ได้ แม้อยู่ภายใต้การใช้งานอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ในด้านพลังงาน POCO F7มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,500mAh ซึ่งเป็นความจุที่มากที่สุดในสมาร์ทโฟนตระกูล F Series รองรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดวันโดยไม่ต้องกังวล และเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็สามารถชาร์จกลับได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี 90W HyperCharge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น POCO F7ยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยฟีเจอร์การชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่น (Reverse Charging) ด้วยกำลังไฟ 22.5W ซึ่งสามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทั้งของเสียวหมี่เองและแบรนด์อื่นๆ
ดีไซน์โฉบเฉี่ยวที่มาพร้อมความทนทาน และจอแสดงผลระดับโปร
POCO F7ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก “ความเร็ว” สะท้อนผ่านเส้นสายและรูปลักษณ์ที่ดูปราดเปรียวแต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง ตัวเครื่องใช้เฟรมที่ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยผ่านกระบวนการ CNC-integrated และฝาหลังกระจกที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมและทันสมัย
ด้านหน้าโดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.83 นิ้ว ความละเอียด 1.5K ที่มีขอบจอบางเฉียบ ส่งผลให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 94.23% มอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มตาและสมจริง จอแสดงผลนี้ยังมีความสว่างสูงสุดถึง 3200 nits และรองรับ Sunlight Display 4.0 ที่ช่วยปรับคอนทราสต์แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจนแม้ในสภาวะแสงจ้า
POCO ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพดวงตาของผู้ใช้งาน โดยหน้าจอของ F7ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ถึง 3 มาตรฐาน ได้แก่ Low Blue Light (Hardware Solution), Flicker Free และ Circadian Friendly เสริมด้วยเทคโนโลยี 3840Hz PWM dimming เพื่อลดการกะพริบของหน้าจอ และ Wet Touch Display 2.0 ที่ช่วยให้สามารถควบคุมการสัมผัสได้อย่างแม่นยำแม้นิ้วมือจะเปียกน้ำ
ในด้านความทนทาน POCO F7มาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 และมีโครงสร้างที่เสริมความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ สามารถทนทานต่อการบิดงอได้ถึง 70 กิโลกรัม ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ในทุกสถานการณ์
ระบบกล้องที่พร้อมปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์
POCO F7ติดตั้งระบบกล้องที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพอย่างมืออาชีพ ด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล (OIS) ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัดและมีคุณภาพสูงในทุกสภาพแสง
ฟีเจอร์เด่นอย่าง UltraSnap ช่วยให้สามารถจับภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วได้อย่างเฉียบคม ในขณะที่ Live Photo ช่วยบันทึกเรื่องราวก่อนและหลังการกดชัตเตอร์ เพิ่มชีวิตชีวาให้กับภาพถ่าย สำหรับการถ่ายภาพบุคคล POCO F7มีระยะโฟกัสให้เลือกถึง 3 ระยะ (26 มม., 35 มม. และ 52 มม.) พร้อมฟีเจอร์ Real Light Spot ที่ช่วยสร้างเอฟเฟกต์โบเก้หรือพื้นหลังเบลอที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน AI Beautify ที่ช่วยปรับแต่งโทนสี ความคมชัด และคอนทราสต์ของภาพให้สวยงามอย่างชาญฉลาดโดยยังคงรายละเอียดที่เป็นธรรมชาติไว้ครบถ้วน
กลยุทธ์ราคาและการวางจำหน่าย
การวางจำหน่าย POCO F7จะเน้นผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ได้แก่ mi.com, Lazada, Shopee และ TikTok Shop ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และช่วยให้ POCO สามารถบริหารจัดการต้นทุนเพื่อนำเสนอราคาที่แข่งขันได้ในตลาด
การตั้งราคาในช่วงโปรโมชันที่เริ่มต้นเพียง 13,499 บาท ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าจับตา เพราะเป็นการนำเสนอสมาร์ทโฟนที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีระดับเรือธงในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้กับคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประกอบกับการรับประกันตัวเครื่อง 2 ปี และประกันจอแตก 1 ครั้งใน 6 เดือน ยิ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคมากขึ้น
โดยสรุป POCO F7คือการกลับมาทวงบัลลังก์ “นักฆ่าเรือธง” อย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยการมอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้นจากชิปเซ็ต Snapdragon® 8s Gen 4, การจัดการความร้อนและแบตเตอรี่ที่ตอบโจทย์การใช้งานหนัก, จอแสดงผลและดีไซน์ระดับพรีเมียม พร้อมด้วยระบบกล้องที่เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้ในแพ็คเกจราคาที่ยากจะหาใครเปรียบเทียบได้ ทำให้ POCO F7เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในงบประมาณที่ไม่บานปลาย
#POCOF7 #POCO #Snapdragon8sGen4 #สมาร์ทโฟนเรือธง #มือถือใหม่ #ข่าวเศรษฐกิจ #โปรโมชั่น #XiaomiHyperOS #นักฆ่าเรือธง #มือถือเล่นเกม
