“ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” จากบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป ได้รับเกียรติเป็นตัวแทนประเทศไทย เตรียมขึ้นเวทีเสวนาระดับโลก Summer Davos 2025 ณ เมืองเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ชูประเด็นสำคัญเร่งด่วนด้าน “ความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ SMEs ในอาเซียน” ตอกย้ำบทบาทผู้นำทางความคิดของไทยในเวทีเศรษฐกิจโลก และสะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแกร่งและยั่งยืนให้แก่ภูมิภาค
กรุงเทพฯ – ท่ามกลางภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เวทีการประชุมระดับผู้นำโลกอย่าง World Economic Forum จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดทิศทางและอนาคตของเศรษฐกิจโลก ล่าสุด นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ท๊อป จิรายุส” ได้เตรียมตัวเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปี Annual Meeting of the New Champions 2025 (AMNC 2025) หรือที่เรียกกันว่า “Summer Davos 2025” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2568 ณ เมืองเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน
การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปรากฏตัวของนักธุรกิจไทยในเวทีระดับโลก แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพและบทบาทที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทยในฐานะผู้เล่นคนสำคัญในเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ผู้ประกอบการในยุคใหม่” ธีมหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
การประชุม Summer Davos 2025 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลัก “Entrepreneurship for a New Era” หรือ “ผู้ประกอบการในยุคใหม่” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าเหล่าผู้ประกอบการและนวัตกรคือหัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเติบโตและสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่โลกในยุคต่อไป โดยเนื้อหาการประชุมจะครอบคลุม 5 ประเด็นสำคัญที่เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก ได้แก่:
- แนวโน้มทางเศรษฐกิจของจีน (Outlook on China): การวิเคราะห์ทิศทางเศรษฐกิจของมหาอำนาจอย่างจีน ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อซัพพลายเชนและการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก
- การลงทุนในมนุษย์และโลก (Investing in People and Planet): การเปลี่ยนผ่านสู่แนวคิดการทำธุรกิจที่ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Human Capital) และการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามหลักการ ESG (Environmental, Social, and Governance)
- พลังงานและทรัพยากรใหม่ (New Energy and Materials): การแสวงหาและพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาดและวัสดุศาสตร์ใหม่ๆ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างความมั่นคงทางพลังงาน
- การเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรม (Industries Disrupted): การวิเคราะห์ผลกระทบของเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Disruptive Technology) เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), บล็อกเชน (Blockchain) และเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech) ที่กำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม
- การถอดรหัสเศรษฐกิจโลก (Deciphering the World Economy): การทำความเข้าใจและหาแนวทางรับมือกับความซับซ้อนของเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน ทั้งในมิติของภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics), อัตราเงินเฟ้อ และความเปราะบางของระบบการเงิน
“ท๊อป จิรายุส” กับภารกิจชูประเด็นความปลอดภัยไซเบอร์ของ SMEs อาเซียน
ไฮไลท์สำคัญของการเข้าร่วมประชุมของนายจิรายุสในครั้งนี้ คือการได้รับเกียรติให้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “Safeguarding ASEAN’s SMEs” หรือ “การปกป้องคุ้มครองผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในอาเซียน” ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของทั้งภูมิภาค
เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ประกอบการ SMEs คือกระดูกสันหลังของระบบเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกลุ่มที่เปราะบางที่สุดต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ การเสวนาในครั้งนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา “ความเหลื่อมล้ำทางด้านความปลอดภัยไซเบอร์” (Cybersecurity Inequality) ที่กำลังเกิดขึ้น โดยบริษัทขนาดใหญ่มีทรัพยากรในการลงทุนด้านระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ SMEs ส่วนใหญ่ยังขาดทั้งงบประมาณ ความรู้ และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีได้ง่าย
นายจิรายุสจะร่วมเสวนากับ นาย Philip Reiner ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบันเพื่อความมั่นคงและเทคโนโลยี (Institute for Security and Technology) จากสหรัฐอเมริกา การจับคู่กันระหว่างผู้นำองค์กรด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยจากสหรัฐฯ และผู้ประกอบการที่สร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จจากภูมิภาคอาเซียน สะท้อนถึงความพยายามในการสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
แนวทางหลักที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาหารือ คือการผลักดันให้เกิดการพัฒนาเครื่องมือและบริการด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ SMEs สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีราคาที่สมเหตุสมผล รวมถึงการสร้างโมเดลความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public-Private Partnership) เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านไซเบอร์ให้ครอบคลุมธุรกิจทุกระดับชั้น ตั้งแต่รายย่อยไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่
ความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยและอาเซียน
การที่ผู้บริหารระดับสูงของไทยได้รับเชิญให้ไปแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อนี้บนเวทีโลก สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการร่วมกำหนดมาตรฐานและพัฒนาระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ยั่งยืน
การยกระดับความปลอดภัยให้แก่ SMEs ไม่ใช่เป็นเพียงการปกป้องธุรกิจรายย่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้าง “ภูมิคุ้มกัน” ให้กับระบบนิเวศทางเศรษฐกิจทั้งหมด เมื่อ SMEs ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชนของบริษัทขนาดใหญ่มีความปลอดภัย ก็จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับทั้งระบบได้ การสร้างความเชื่อมั่นในโลกดิจิทัลนี้ยังเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ และส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Transformation) ได้อย่างสมบูรณ์และมั่นคง
วิสัยทัศน์และข้อเสนอแนะที่จะเกิดขึ้นบนเวที Summer Davos 2025 ครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่การเสวนา แต่จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่อาจนำไปสู่การกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการ SMEs หลายล้านรายในอาเซียน และท้ายที่สุดจะนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับภูมิภาคต่อไปในอนาคต
#ท๊อปจิรายุส #Bitkub #SummerDavos #WEF #AMNC2025 #ความปลอดภัยไซเบอร์ #SMEs #เศรษฐกิจดิจิทัล #ASEAN #ผู้ประกอบการ #WorldEconomicForum #เศรษฐกิจโลก