กระทรวงดีอีเอส เผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจดิจิทัลไทยปี 2568 เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 6.2% คิดเป็นมูลค่า 4.69 ล้านล้านบาท สวนทาง GDP ประเทศที่คาดว่าจะโตเพียง 1.8% แม้เผชิญความท้าทายจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ชี้การส่งออกสินค้าดิจิทัลและนโยบายรัฐหนุนเป็นปัจจัยสำคัญ ด้าน “ประเสริฐ” ย้ำรัฐบาลมุ่งมั่นขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมดิจิทัลเต็มรูปแบบ
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เผชิญความผันผวนและแรงกดดันจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยกลับแสดงศักยภาพการเติบโตอย่างโดดเด่นและกลายเป็นความหวังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยล่าสุด นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจดิจิทัลปี 2568 ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (สดช.) หรือ BDE
จากการประเมิน ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2568 คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในสาขาดิจิทัล (Digital GDP) จะขยายตัวสูงถึงร้อยละ 6.2 ซึ่งนับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โดยรวมถึง 3.4 เท่า หลังจากที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ปรับลดประมาณการ GDP ของไทยในปี 2568 ลงเหลือเพียงร้อยละ 1.8
“รัฐบาล และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทำงานอย่างหนักในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวด้วยอุตสาหกรรมดิจิทัลในทุกรูปแบบ” นายประเสริฐกล่าว “ตัวเลขคาดการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลไม่เพียงแต่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ยังเป็นกลไกหลักที่ช่วยพยุงและผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้ในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว”
เศรษฐกิจดิจิทัลไทย: แสงสว่างท่ามกลางความท้าทาย
สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ต้องปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2568 ลง 0.5 จุด มาอยู่ที่ร้อยละ 2.8 ขณะที่ สศช. ของไทยก็ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ลงถึง 1.0 จุด จากร้อยละ 2.8 เหลือเพียงร้อยละ 1.8
อย่างไรก็ตาม ภาคเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยกลับแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและการเติบโตที่น่าประทับใจ โดยมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลในภาพกว้าง (Broad Digital GDP) ณ ราคาที่แท้จริง (CVM) ในปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 4.69 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.2 จากปี 2567
ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตดังกล่าวคือ ภาคการส่งออกสินค้าดิจิทัล ที่ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยข้อมูลในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 พบว่า การส่งออกสินค้าดิจิทัลมีมูลค่าประมาณ 8.6 แสนล้านบาท ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 35 ซึ่งสูงกว่าการส่งออกโดยรวมของประเทศที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 8.0 อย่างมีนัยสำคัญ
เจาะลึกปัจจัยหนุนและความเสี่ยง โดย สดช.
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมมติฐาน ปัจจัยสนับสนุน และความเสี่ยงที่ใช้ในการคาดการณ์ครั้งนี้ ดังนี้
ปัจจัยสนับสนุนหลัก:
- การส่งออกสินค้าดิจิทัลที่ขยายตัวสูง: เป็นผลจากการที่ผู้ประกอบการพยายามหาตลาดใหม่และหลีกเลี่ยงผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ
- นโยบายภาครัฐ: นโยบาย “Cloud First Policy” และการเร่งรัดสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ช่วยกระตุ้นการลงทุนและการใช้บริการดิจิทัลในประเทศ
- การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI): การไหลเข้าของการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น Data Center, ชิ้นส่วนแผงวงจรพิมพ์ (PCB) และเซมิคอนดักเตอร์
- พฤติกรรมผู้บริโภค: การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมไร้เงินสด ทั้งในกลุ่มคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่หันมาใช้จ่ายและซื้อบริการผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ข้อจำกัดและความเสี่ยง:
- ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ: ยังคงเป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อการค้าโลก
- ความผันผวนทางการเมืองและการค้าโลก: รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง
- การแข่งขันในภูมิภาค: การแข่งขันเพื่อดึงดูดการลงทุนด้านดิจิทัลจากต่างประเทศทวีความรุนแรงขึ้น
- การแข่งขันจากสินค้านำเข้า: สินค้าดิจิทัลจากต่างประเทศที่เข้ามาแข่งขันในตลาดไทย
ภาพรวมการเติบโตรายอุตสาหกรรม: “ดิจิทัลคอนเทนต์” โตแรงสุด
เมื่อพิจารณาในรายสาขาอุตสาหกรรมดิจิทัล พบว่าทุกหมวดมีการขยายตัวสูงกว่า GDP ของประเทศ แม้ว่าทุกสาขาจะได้รับการปรับลดประมาณการลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนเมื่อเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
- อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content): เติบโตสูงสุดที่ ร้อยละ 9.9 แม้จะปรับลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 12.7% อุตสาหกรรมนี้ครอบคลุมสื่อวิดีโอออนไลน์, แอนิเมชัน, เกม, สื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์, และ AR/VR ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- อุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunication): ขยายตัวแข็งแกร่งเป็นอันดับสองที่ ร้อยละ 8.1 (ปรับลดจาก 9.5%) จากความต้องการใช้บริการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้น
- อุตสาหกรรมดิจิทัลอื่น ๆ (Others): ซึ่งรวมถึงบริการที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว คาดว่าจะขยายตัว ร้อยละ 5.8 (ปรับลดจาก 6.7%)
- อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล (Digital Services): เติบโตที่ ร้อยละ 5.7 (ปรับลดจาก 6.7%) สะท้อนการใช้บริการออนไลน์ การให้คำปรึกษา และการออกแบบดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น
- อุตสาหกรรมอุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Devices): ขยายตัว ร้อยละ 5.6 (ปรับลดจาก 6.3%) ตามความต้องการอุปกรณ์ IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ
- อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ (Hardware): ขยายตัว ร้อยละ 5.5 (ปรับลดจาก 6.6%) ซึ่งเชื่อมโยงกับการผลิตและส่งออกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์
- อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software): มีอัตราการเติบโตต่ำที่สุดในกลุ่มที่ ร้อยละ 4.5 (ปรับลดจาก 5.2%) ซึ่งอาจสะท้อนการชะลอการลงทุนในโครงการซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ของภาคธุรกิจตามภาวะเศรษฐกิจ
โดยสรุป แม้เศรษฐกิจไทยโดยรวมจะต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอก แต่ภาคเศรษฐกิจดิจิทัลได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (Economic Growth Engine) ที่สำคัญอย่างยิ่ง ด้วยอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพสูง การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐและการปรับตัวของภาคเอกชน จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและเป็นกำลังหลักในการนำพาประเทศฝ่าฟันความท้าทายทางเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต
#เศรษฐกิจดิจิทัล #DigitalGDP #เศรษฐกิจไทย #กระทรวงดีอีเอส #ประเสริฐจันทรรวงทอง #BDE #สดช #เศรษฐกิจ2568 #ส่งออกดิจิทัล #ดิจิทัลคอนเทนต์ #CloudFirst