ฟอร์ด ฉลอง 29 ปี ทุ่มแคมเปญใหญ่-เปิดตัว Ford Rewards รุกครึ่งปีหลัง

ฟอร์ด ฉลอง 29 ปี ทุ่มแคมเปญใหญ่-เปิดตัว Ford Rewards รุกครึ่งปีหลัง

ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศศักดาในโอกาสครบรอบ 29 ปี เผชิญหน้าความท้าทายตลาดรถยนต์หดตัวหนัก โดยเฉพาะเซกเมนต์รถกระบะที่ทรุดกว่า 18% ส่งผู้บริหารแถลงทิศทางธุรกิจ ชูจุดแข็งด้านนวัตกรรมและการลงทุนกว่า 1.3 แสนล้านบาท พร้อมทุ่มแคมเปญการตลาดครั้งยิ่งใหญ่ “29 ปี ก้าวไปด้วยกัน” มัดใจลูกค้าเก่า-ใหม่ ควบคู่กับการเปิดตัว “Ford Rewards Club” โปรแกรมลอยัลตี้เต็มรูปแบบ ยกระดับบริการหลังการขาย ตอกย้ำความมุ่งมั่นสร้างความเชื่อมั่นและเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ท่ามกลางภาวะตลาดรถยนต์ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถกระบะซึ่งเป็นตลาดหลักของประเทศไทยที่หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ฟอร์ด ประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าวครั้งสำคัญเนื่องในวาระครบรอบ 29 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศ เพื่อตอกย้ำความสำเร็จที่ผ่านมาและประกาศวิสัยทัศน์เชิงรุกสำหรับอนาคต โดยมีผู้บริหารระดับสูงร่วมให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน สะท้อนภาพความมุ่งมั่นที่จะก้าวผ่านความท้าทายและเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง

คุณรัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย ได้ฉายภาพรวมการเดินทางตลอด 29 ปีที่ผ่านมาว่า ฟอร์ดได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 และได้ลงทุนในประเทศไปแล้วเป็นมูลค่ามหาศาลกว่า 134,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าวได้ก่อให้เกิดโรงงานผลิตรถยนต์มาตรฐานระดับโลกถึง 2 แห่ง คือโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หรือ AAT และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (FTM) ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกันสูงถึงประมาณ 260,000 คันต่อปี

“เราไม่ได้ผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศเท่านั้น แต่โรงงานทั้งสองแห่งของเรายังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญเพื่อการส่งออกไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพการผลิตของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ล่าสุดโรงงานของเรายังได้รับรางวัล Best Quality Awards จากฟอร์ด มอเตอร์ ทั่วโลก ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจและเป็นการยืนยันถึงศักยภาพของบุคลากรไทยที่มีกว่า 9,000 คนที่ร่วมกันขับเคลื่อนองค์กร” คุณรัฐการกล่าว

คุณรัฐการยังได้ย้อนรอยประวัติศาสตร์แห่งนวัตกรรมของฟอร์ดในตลาดรถกระบะไทย โดยชี้ว่าฟอร์ดเป็นผู้บุกเบิกและสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับวงการมาโดยตลอด “ถ้าทุกท่านจำได้ เราเป็นรายแรกที่นำเสนอ Open Cab หรือกระบะแค็บเปิดได้, เป็นรายแรกที่ติดตั้งระบบเบรก ABS และถุงลมนิรภัยคู่ในรถกระบะ เรายังเป็นผู้กล้าที่เปิดตัว Ford Ranger Wildtrak ในราคา 1 ล้านบาทเป็นคนแรกในปี 2011-2012 ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นการตัดสินใจที่ท้าทาย แต่ก็สร้างปรากฏการณ์จนมีลูกค้าต้องรอรถนานถึง 2 ปี นอกจากนี้ เรายังได้สร้างเซกเมนต์ใหม่ที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนด้วยการเปิดตัว Ford Ranger Raptor ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น King of Pickup”

เมื่อกล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบัน คุณรัฐการยอมรับว่าตลาดกำลังเผชิญกับความท้าทาย โดยภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ในช่วง 6 เดือนแรกลดลงประมาณ 1% แต่ที่น่ากังวลคือตลาดรถกระบะที่ฟอร์ดแข่งขันอยู่ทรุดตัวลงถึง 18% อย่างไรก็ตาม ฟอร์ดยังคงรักษาผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ โดยในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขายรวมประมาณ 9,000 คัน ส่งผลให้ Ford Ranger มีส่วนแบ่งตลาดที่ 7.7% และ Ford Everest มีส่วนแบ่งตลาดที่ 18% ทำให้ฟอร์ดครองตำแหน่งอันดับ 3 ในตลาดรถกระบะและรถยนต์อเนกประสงค์ประเภท PPV

“สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง เรายังไม่เห็นปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนนัก ปัญหาหนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ แต่เราคาดการณ์ว่ายอดขายรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งปีไม่น่าจะต่ำกว่า 570,000 คัน ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้ว สำหรับฟอร์ด เราจะยังคงรักษาความแข็งแกร่งของแบรนด์ และพยายามสร้างสีสันให้กับตลาดผ่าน Ranger และ Everest ต่อไปจนถึงสิ้นปี” คุณรัฐการกล่าวเสริม

กลยุทธ์ Collaboration Marketing: ผนึก ‘ซีพี ออลล์’ เจาะฐานลูกค้าทั่วประเทศ

ทางด้านกลยุทธ์การตลาดเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว คุณเมธัส ลิขิตสัจจากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย ได้ให้รายละเอียดว่า ฟอร์ดใช้แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Marketing) เป็นหัวใจสำคัญในการทำงาน “เราให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของผู้บริโภค ไม่ว่าจะผ่านงานวิจัย, การติดตามบนโซเชียลมีเดีย หรือฟีดแบ็กจากทางดีลเลอร์ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงแคมเปญที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง”

คุณเมธัสได้ยกตัวอย่างความสำเร็จที่ผ่านมา เช่น การออกแคมเปญสำหรับ Everest Trend ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นของรถยนต์อเนกประสงค์ หลังจากพบว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตสูง ผลลัพธ์คือยอดขายของรุ่นดังกล่าวเติบโตขึ้นถึง 5 เท่า หรือการเปิดตัว Ranger Sport 4×4 ที่เกิดจากการรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าในไลฟ์สดที่ต้องการรถขับเคลื่อนสี่ล้อในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น

และเพื่อเป็นการฉลองวาระครบรอบ 29 ปี ฟอร์ดได้เปิดตัวแคมเปญ “ฟอร์ด 29 ปี ก้าวไปด้วยกัน” ซึ่งถือเป็นแคมเปญใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ โดยมีไฮไลท์คือการจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่อย่าง CPALL เพื่อเข้าถึงลูกค้าผ่านเครือข่าย 7-Eleven ที่มีกว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศ

สำหรับลูกค้าปัจจุบัน ฟอร์ดมอบสิทธิพิเศษเพื่อเป็นการขอบคุณ อาทิ การรับกาแฟฟรีที่ All Café ผ่าน Ford Rewards Club บน LINE OA, ส่วนลดสูงสุด 9,929 บาทสำหรับอุปกรณ์ตกแต่งยอดนิยม และส่วนลด 2,290 บาทสำหรับแพ็กเกจขยายการรับประกัน Ford Care

ในส่วนของลูกค้าใหม่ที่จองและออกรถภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ จะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษ 3 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 ฟอร์ดช่วยผ่อนนาน 29 เดือน เดือนละ 2,000 บาท รวมมูลค่า 58,000 บาท, ต่อที่ 2 ฟรีอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 14,000 บาท และต่อที่ 3 รับสิทธิ์ลุ้นรับคะแนน All Member รวมกว่า 129 ล้านคะแนน โดยมีรางวัลใหญ่คือ 29 ล้านคะแนน “เราเชื่อมั่นว่ากิจกรรมและข้อเสนอพิเศษเหล่านี้ จะช่วยผลักดันยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง และสะท้อนความตั้งใจของฟอร์ดที่มุ่งมั่นจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าคนไทย” คุณเมธัสกล่าว

ความร่วมมือนี้ได้ถูกแปลงออกมาเป็นสิทธิประโยชน์ที่จับต้องได้สำหรับผู้บริโภค โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มหลักอย่างชัดเจน:

สำหรับลูกค้าปัจจุบัน:

  • สร้างความผูกพัน (Engagement): มอบเครื่องดื่มเย็น All Café ฟรี จำนวน 10,000 สิทธิ์ ผ่าน Ford Rewards Club บน LINE Official Account (@FordThailand) ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาในการมอบของขวัญและดึงให้ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์
  • ส่งเสริมการใช้จ่าย (Up-selling & Cross-selling): มอบส่วนลดพิเศษสำหรับอุปกรณ์ตกแต่งแท้ และส่วนลดสำหรับการซื้อโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ (Ford Care) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อเพิ่มเติม
  • รักษาฐานลูกค้า (Loyalty): มอบคะแนนสะสมพิเศษ 929 แต้ม บน Ford Rewards Club เมื่อนำรถเข้ามารับบริการที่ศูนย์ เป็นการจูงใจให้ลูกค้านำรถกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับลูกค้าใหม่:

  • กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ (Acquisition): โปรแกรมช่วยผ่อนค่างวด 29 งวด งวดละ 2,000 บาท รวมมูลค่า 58,000 บาท ซึ่งเป็นข้อเสนอทางการเงินที่ทรงพลังและช่วยลดภาระให้กับผู้ซื้อในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน
  • สร้างความคุ้มค่า (Value Proposition): มอบชุดแต่ง สแตนดาร์ดแพ็กเกจฟรี และส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม
  • สร้างความตื่นเต้นและดึงดูด (Excitement): แคมเปญลุ้นรับคะแนน ALL Member รวมกว่า 129 ล้านคะแนน และมอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 200,000 บาท สำหรับสมาชิก All Member โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการใช้ฐานข้อมูลสมาชิกขนาดใหญ่ของซีพี ออลล์ ให้เป็นประโยชน์สูงสุด

แคมเปญดังกล่าวจะมีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม 2568

เสริมทัพแม่ทัพใหม่: ‘อภิชาต ธุรวติกุล’ กับภารกิจขับเคลื่อนยอดขาย

อีกหนึ่งการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการเฉลิมฉลองคือ การแต่งตั้ง นายอภิชาต ธุรวติกุล ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ฟอร์ด ประเทศไทย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 การดึงผู้บริหารมากประสบการณ์ระดับโลกกลับมาคุมทัพในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นว่าฟอร์ดให้ความสำคัญกับตลาดนี้เป็นอย่างยิ่ง และพร้อมที่จะเดินเกมรุกอย่างเต็มกำลัง

นายอภิชาตไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นลูกหม้อของฟอร์ดที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างโชกโชนกว่า 20 ปี ในหลากหลายตำแหน่งสำคัญทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โปรไฟล์ของเขาโดดเด่นทั้งในด้านการขาย, การตลาด, กลยุทธ์ และการเงิน ผลงานชิ้นโบแดงล่าสุดคือการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายที่ฟอร์ด เวียดนาม ซึ่งเขาสามารถนำทีมสร้างยอดขายให้กับรถยนต์รุ่นหลักอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์, เอเวอเรสต์, เทอร์ริทอรี และทรานซิท ได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของฟอร์ดในเวียดนาม

นอกจากนี้ เขายังเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ของฟอร์ด ประเทศไทย และผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาดประจำฟอร์ด อาเซียน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลการเปิดตัวรถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ในปี 2565 ที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น

การกลับมาของคุณอภิชาตในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการได้แม่ทัพที่เข้าใจตลาดไทยอย่างลึกซึ้ง และมีมุมมองระดับสากลมาขับเคลื่อนกลยุทธ์การขาย, การกระจายสินค้า และการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดและสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งต่อไป

ตอกย้ำความแกร่งในตลาด ด้วยผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่เหนือกว่า

แม้สภาวะตลาดรถยนต์ในปี 2568 จะมีการแข่งขันที่รุนแรง แต่ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงรักษาตำแหน่งอันดับ 3 ในเซ็กเมนต์รถกระบะและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยยอดขายรวมในช่วง 6 เดือนแรกของปีที่ 9,401 คัน ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์และคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างไม่เสื่อมคลาย

กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ของฟอร์ดยังคงมุ่งเน้นการนำเสนอความหลากหลายเพื่อครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่สุดยอดรถกระบะสมรรถนะสูงอย่างฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์, รถกระบะรุ่นย่อยที่คุ้มค่าอย่าง เรนเจอร์ XLS ไปจนถึงรถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียมอย่าง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทินัม ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 อันทรงพลัง และรุ่นที่คุ้มค่า ฟังก์ชันครบครันอย่าง เอเวอเรสต์ เทรนด์

นอกจากการขาย ฟอร์ดยังให้ความสำคัญกับการสร้างความผูกพันกับลูกค้าผ่านกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์สุดพิเศษ เช่น Raptor Track Experience ที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสสมรรถนะของรถในสนามแข่งจริง ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจ แต่ยังเสริมสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของรถฟอร์ด และก่อให้เกิดชุมชนแฟนพันธุ์แท้ที่แข็งแกร่ง

ยกระดับบริการสู่ยุคดิจิทัลด้วย ‘Ford Rewards Club’

ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งเสาหลักที่ฟอร์ดให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดคือบริการหลังการขาย ซึ่ง คุณสุรวัฒน์ จึงสมประสงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า ฟอร์ด ประเทศไทย ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดูแลลูกค้าภายใต้กลยุทธ์ “สะดวก มั่นใจ ประทับใจ”

คุณสุรวัฒน์เปิดเผยว่า บริการที่เน้นความสะดวกสบายของลูกค้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริการนอกสถานที่อย่าง Mobile Service ที่มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 46% ในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป และเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ฟอร์ดมีแผนจะขยายศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังให้ครบ 59 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้

ในด้านการสร้างความมั่นใจ ฟอร์ดได้ลงทุนขยายคลังอะไหล่ครั้งใหญ่ โดยจะเพิ่มพื้นที่จัดเก็บเป็นเกือบ 60,000 ตารางเมตรภายในสิ้นปี เพื่อรองรับสต็อกอะไหล่กว่า 4.3 ล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1,700 ล้านบาท “ผมอยากให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจว่าฟอร์ดให้ความสำคัญสูงสุดกับการเตรียมความพร้อมเรื่องอะไหล่ เรามีพื้นที่และมีสินค้าเพียงพอที่จะให้บริการลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างแน่นอน”

ไฮไลท์สำคัญที่สุดของการยกระดับบริการคือการเปิดตัวโปรแกรมลอยัลตี้เต็มรูปแบบ “Ford Rewards Club” ผ่านทาง LINE Official Account ของฟอร์ด ประเทศไทย “เราฟังเสียงลูกค้าที่อยากให้การใช้จ่ายที่ศูนย์บริการมีความคุ้มค่ามากขึ้น จึงเกิดเป็นโปรแกรมนี้ขึ้นมา ทุกๆ การใช้จ่าย 100 บาท ลูกค้าจะได้รับ 10 คะแนน ซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่า 1 บาท สามารถนำไปแลกเป็นส่วนลดหรือของรางวัลจากพาร์ทเนอร์ของเราที่มีมากกว่า 60 รายการ” คุณสุรวัฒน์อธิบาย

“Ford Rewards Club เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า เราจะยังคงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อมั่นว่าการบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจและพร้อมที่จะเลือกใช้รถยนต์ฟอร์ดต่อไปในอนาคต เราพร้อมที่จะก้าวเดินไปพร้อมกับลูกค้าในทุกๆ ไมล์ของการเดินทาง” คุณสุรวัฒน์กล่าวปิดท้าย

การแถลงข่าวในวาระครบรอบ 29 ปีของฟอร์ด ประเทศไทยในครั้งนี้ จึงไม่ใช่เป็นเพียงการเฉลิมฉลองความสำเร็จในอดีต แต่คือการประกาศคำมั่นสัญญาที่ชัดเจนว่า ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือด ฟอร์ดยังคงยืนหยัดด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ผสานกับกลยุทธ์การตลาดที่เฉียบคม และการทุ่มเทเพื่อยกระดับบริการหลังการขายให้เป็นเลิศ เพื่อสร้างความมั่นใจและพิสูจน์ว่าฟอร์ดพร้อมที่จะ “ก้าวไปด้วยกัน” กับลูกค้าชาวไทยอย่างยั่งยืน

นายรัฐการ กล่าวสรุปว่า “ฟอร์ดพร้อมเดินหน้าสู่ทศวรรษที่ 3 อย่างมั่นคง ภายใต้แนวคิด ‘ฟอร์ด 29 ปี ก้าวไปด้วยกัน’ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเดินเคียงข้างลูกค้าและอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการส่งมอบรถยนต์คุณภาพและบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง”

การประกาศกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่าการฉลองครบรอบ 29 ปีของฟอร์ด ไม่ใช่แค่การมองย้อนไปในอดีต แต่คือการวางรากฐานที่มั่นคงและแข็งแกร่งเพื่อ “ก้าวต่อไป” สู่อนาคตอย่างมีทิศทางและพร้อมเผชิญทุกความท้าทายในทศวรรษที่ 3 ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย

#FordThailand #Ford29ปี #ก้าวไปด้วยกัน #FordRanger #FordEverest #โปรโมชั่นฟอร์ด #รถกระบะ #รถยนต์อเนกประสงค์ #CPALL #FordRewardsClub

Related Posts