Kaidee เล็งเปิดโซนอสังหาและเกษตรหลังมองโตได้อีกเยอะ

Kaidee เล็งเปิดโซนอสังหาและเกษตรหลังมองโตได้อีกเยอะ

Kaidee เผยปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่องและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในหมวดรถยนต์ พร้อมลงทุนในเรื่องของแมชชีนเลิร์นนิงในการจับพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น

ส่วนกลยุทธ์ในปีนี้จะพัฒนาหมวดอสังหาริมทรัพย์ เกษตร และชิ้นส่วนยานยนต์ ให้มีความเฉพาะตัวมากขึ้น รวมถึงการสร้างฟีเจอร์ฟังก์ชันเฉพาะให้กับหมวดที่มีการเติบโตให้สามารถใช้งานได้ดีขึ้น และคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

‘ขายดี’ เผยผลการดำเนินงานปี 2560 มีผู้ใช้งานมากกว่า 35 ล้านคน และมีการเข้าใช้งานกว่า 361 ล้านครั้ง เฉลี่ยเดือนละประมาณ 30 ล้านครั้ง มีรายการประกาศใหม่กว่า 12 ล้านรายการ และขายได้บน Kaidee กว่า 1.85 ล้านรายการ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท

โดยเฉลี่ยทุกวันมีของขายได้ที่ ‘ขายดี’ วันละ 5,065 รายการ โดยในปีนี้มีมีคนไทยดาวน์โหลดแอปฯ Kaidee เพิ่มขึ้นอีกกว่า 3.3 ล้านครั้ง มีการเติบโตจากการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน โดย 50% มีมูลค่าการซื้อ-ขายผ่านแพลตฟอร์มกว่า 1 แสนล้านบาท และ ‘ขายดี’ รายได้เติบโตกว่า 144%

นายทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/เฮดโค้ช Kaidee กล่าวว่า กลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้จะเน้นสร้าง “มาร์เก็ตเพลส” เพื่อให้คนไทยสามารถซื้อ-ขายได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นพื้นที่กลางสำหรับคนไทยทุกคนที่หากมีของไม่ได้ใช้ก็สามารถนำมาลงขายได้ หรือว่าหากจะอยากลองเปิดตลาดออนไลน์สำหรับผู้ค้ารายย่อยก็สามารถทำได้ไม่ยาก

เพราะ ‘ขายดี’ มีคนเดินตลาดมากกว่า 1 ล้านครั้งต่อวัน มีทีมงานที่คอยตรวจสอบดูแลให้มีคุณภาพ รวมไปถึงจะมีการลงทุนมากขึ้นเพื่อใช้เทคโนโลยี Machine Learning ในการบริการลูกค้าให้ได้เร็วขึ้น ดีขึ้น และมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก

ทั้งนี้สำหรับไฮไลต์สำคัญในปีนี้คือการเดินหน้าอย่างเต็มตัวใน 3 ตลาดที่สำคัญ คือ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นในทุกๆ ประเภทของอสังหาฯ FarmKaidee ตลาดซื้อ-ขายสำหรับภาคเกษตรกรรมออนไลน์ ที่จะถูกออกแบบให้ตอบโจทย์สำหรับเกษตรกรชาวไทยอย่างแท้จริง

เพราะตลาดนี้เป็นตลาดที่ใหญ่และสำคัญของคนไทยแต่ความต้องการของเกษตรกรยังไม่ได้ถูกตอบสนองเท่าที่ควร ซึ่ง FarmKaidee จะเป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศได้มีพื้นที่ซื้อ-ขายออนไลน์ภายในครึ่งปีแรกนี้

และตลาดสุดท้ายคือตลาดอะไหล่รถ ประดับยนต์ ด้วยการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นหมวดยอดนิยมอันดับ 5 ของแพลตฟอร์ม ประกอบกับการที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตอะไหล่รถที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน ทำให้ตลาดนี้กลายเป็นอีก 1 ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งในปีที่ผ่านมา RodKaidee ถือเป็นตลาดซื้อขายรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุด

ซึ่งในปีนี้จะมีการขยายตัวเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มผู้ซื้อ-ขายรถเพื่อการพาณิชย์ (Commercial vehicle) โดยการเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อผู้ใช้งานกลุ่มนี้โดยเฉพาะ

และในส่วนของ MocyKaidee นั้นก็จะเห็นฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาอย่างครบครัน ทั้งรุ่นต่างๆ และพิกัดซีซีของการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถหารถที่ต้องการได้ง่าย และผู้ขายสามารถขายรถได้เร็วมากยิ่งขึ้น

Kaidee

นายทิวากล่าวว่า สำหรับในปี 2560 ที่ผ่านมา คำค้นหายอดนิยมจากผู้ใช้งาน ‘ขายดี’ ใน 5 อันดับแรก ได้แก่ PCX, MSX, Coach, Adidas และ บ้านเช่า ตามลำดับ ส่วนหมวดยอดนิยมที่มีคนเข้ามาใช้งานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.RodKaidee 2.MocyKaidee 3.อสังหาริมทรัพย์ 4.มือถือและแทบเล็ต 5.อะไหล่รถ ประดับยนต์

โดยตลาด RodKaidee ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีที่ผ่านมานั้น มีผู้ใช้งานกว่า 60 ล้านครั้ง เฉลี่ย 5 ล้านครั้งต่อเดือน มีรถยนต์ลงขายกว่า 800,190 คัน และมีรถที่ขายได้ที่นี่กว่า 132,752 คัน (เฉลี่ยเดือนละ 11,000 คัน) รวมมูลค่ากว่า 38,500 ล้านบาท ส่วนแบรนด์รถยอดนิยม ได้แก่ โตโยต้า, ฮอนด้า, อีซูซุ, นิสสัน และมิตซูบิชิ ตามลำดับ

ในตลาด MocyKaidee ที่เปิดตัวไปช่วงปลายปี 2560 นั้นก็ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานไม่แพ้ตลาดรถยนต์ โดยในปีที่ผ่านมามีผู้ใช้งานกว่า 42 ล้านครั้ง เฉลี่ยเดือนละ 3.6 ล้านครั้ง มีรถมอเตอร์ไซค์ลงขายกว่า 394,659 คัน และมีรถมอเตอร์ไซค์ขายได้ผ่านตลาด MocyKaidee กว่า 102,170 คัน (เฉลี่ยเดือนละ 8,500 คัน) รวมมูลค่ากว่า 3,600 ล้านบาท แบรนด์ยอดนิยมก็ได้แก่ ฮอนด้า, คาวาซากิ, ยามาฮ่า, ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน และดูคาติ

เช่นเดียวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์บน ‘ขายดี’ นั้น ในแต่ละเดือนมีคนไทยเข้ามาใช้งานกว่า 2.5 ล้านครั้ง มีรายการประกาศใหม่ทั้งหมดในปี 2560 ถึง 766,377 ประกาศซึ่งขายได้บน Kaidee ทั้งหมด 23,538 รายการ รวมมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท หมวดนี้ยังเป็นหมวดที่มีผู้เข้ามาใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของแพลตฟอร์ม โดยล้วนแต่เป็นการเติบโตแบบออร์แกนิคนั่นคือผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานเองทั้งหมด

“รายได้ของ ‘ขายดี’ ในปี 2560 เพิ่มจาก 2559 กว่า 144% จาก 2 แหล่งรายได้ นั่นคือ 1.บริการพิเศษ ทั้งเลื่อนประกาศ บริการ Top Ad ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการนี้ได้ในทุกหมวดหมู่ และค่าลงประกาศ ในหมวดรถยนต์ และหมวดอสังหาริมทรัพย์ 2.โฆษณาดิสเพลย์ ที่แบรนด์และธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการหรือกำลังตัดสินใจซื้อ-ขายสินค้า/บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม”

Related Posts