การตามติดรถไฟฟ้าซึ่งจะเป็นยนตรกรรมแห่งอนาคตเป็นเรื่องที่เราเฝ้าติดตาม วันนี้ Thereporter.asia มีโอกาสได้ฟังแนคิด การออกแบบนิสสันลีฟ ที่แม้ว่าจะยังไม่เข้ามาสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อคนไทยทุกคนรู้จักและอยากเป็นเจ้าของกันแล้ว จาก ‘อัลฟอนโซ’ ผู้บริหารระดับสูงของส่วนงานออกแบบนิสสันทั่วโลก เรามองลองทำความเข้าใจกับแนวคิดและวิธีการควบรวมเทคโนโลยีให้สามารถเข้ากับวิถีชีวิตได้อย่างลงตัวกันนะครับ
นายอัลฟอนโซ อัลบายซ่า รองประธานอาวุโส ส่วนงานออกแบบทั่วโลก บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า การออกแบบเป็นส่วนสำคัญที่ต้องควบคู่กับงานทางด้านวิศวกรรมด้วย เราอยากให้เด็กรุ่นใหม่ได้มีโอกาสและเข้าใจในการออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการขับขี่อัตโนมัติที่จะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
การเข้ามารับตำแหน่งของผมเมื่อเมษายนที่ผ่านมา เพื่อเข้ามาสร้างแบรนด์นิสสันให้เกิดขึ้น ด้วยเป้าหมายที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นสำหรับการออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะเข้ามาแทนที่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ในปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในช่วงที่ผ่านมาได้มีโอกาสในการบอกเล่าน้องๆนิสิตภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล (หลักสูตรนานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้แบ่งปันการเริ่มต้นการออกแบบให้น้องๆได้รับทราบ ด้วยพื้นฐานของการออกแบบที่เริ่มมีตั้งแต่การออกแบบที่ดึงสรีระของไก่มาเปรียบเทียบ ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าการออกแบบไก่ต้องมาก่อนการออกแบบไข่แน่นอน ซึ่งโมเดลแบบนี้เป็นพื้นฐนของการออแบบภายใน เพื่อให้เกิดมุมมองสู่การออกแบบรถนั้นๆได้อย่างเหมาะสม
การออกแบบรถคันหนึ่งจำเป็นต้องผสานความร่วมมือกับหลายๆส่วน เพื่อสร้างให้เกิดรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่กล่าวกับน้องๆนักศึกษาเพื่อให้เกิดมุมมองพื้นฐานที่สำคัญในการต่อยอดไปสู่การศึกษาด้านการออกแบบ
ส่วนต่อมาที่สำคัญ คือการนำสรีระของไก่ มาออกแบบส่วนเชื่อมโยงส่วนต่างๆของรถ เพื่อให้สอดคล้องกับสรีระที่น่าสนใจอย่างส่วนเท้าของไก่ได้อย่างลงตัว
ขณะที่รถที่ไม่มีเครื่องยนต์ จะมีขนาดที่เล็กลง แต่ให้สมรรถนะที่สูงและกำลังขับที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ ช่วยให้มีอิสระในการออกแบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อนักออกแบบเริ่มต้นและเปลี่ยนมุมมองใหม่ จะสามารถช่วยให้เกิดการออกแบบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของการขับขี่ได้นั่นเอง
ในการออกแบบที่ดีนั้นจะมีการสอดแทรกเรื่องของรายละเอียดเพื่อตอบสนองการใช้งานได้อย่าวเหมาะสม แน่นอนว่าเมื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ต่อยอดไปสู่การไม่มีคนขับ ก็สามารถเพิ่มส่วนของการออกแบบห้องโดยสารได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญของการเกิด โรบอตแท็กซี่ เพื่อตอบสนองการขนส่งบุคคลได้อย่างปลอดภัย
โดยในอนาคตอาจจะต่อยอดไปสู่การแบ่งปันรถยนต์กันใช้ได้อย่างเป็นจริงมากขึ้น ขณะที่เอกลักษณ์ของการออกแบบรถยนต์ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ให้กับผู้ผลิตรถยนต์เอง ซึ่งนิสสันก็จะบอกเล่าเรื่องราวของโลโก้ สะท้อนไปสู่การออกแบบด้านข้างของตัวรถ เพื่อบ่งบอกความเป็นนิสสันนั่นเอง
นอกจากนี้การออกแบบภายใน ยังสะท้อนความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีพื้นรถแบบเรียบง่าย และมีวัสดุไม้เข้ามาช่วยในการออกแบบภายใน เพื่อบ่งบอกความหรูหราและน่านั่ง พร้อมทั้งคอนโซลส่วนหน้าที่มีพื้นที่มากขึ้น นอกจากนั้นยังมีหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อการสั่งงานที่ถนัดมากขึ้น
การออกแบบทั้งหมดจะต้องสอดคล้องกับการใช้งานจริงทั้งขนาดของเครื่องยนต์ การออกแบบภายใน ตลอดจนขนาดและดีไซน์ของตัวรถ เพื่อบ่งบอกตัวตนของแบรนด์นั้นๆ โดยในส่วนของการออกแบบนี้เป็นรถต้นแบบของนิสสัน ที่จัดแสดงอยู่ที่งานในดีทรอยด์ที่ผ่านมา
การออกแบบที่ผสานความเป็นมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยี โดยการออกแบบจะต้องเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้เกิดขึ้นกับรถยนต์ในแต่ละรุ่นให้ได้ ดังนั้นการออกแบบในหลายๆครั้งของนิสสัน จึงเป็นการสะท้อนตัวตนออกมา เพื่อยกระดับความมีคุณค่าของแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้น
กลับมาที่การออกแบบรถยนต์นิสสันลีฟ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10ปีที่ผ่านมา โดยในขณะนั้นยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้ามาก่อน แต่มีเพื่อร่วมงานของผมพูดถึงการทำงานของรถไฟฟ้าขึ้นมา ท่ามกลางทีมวิศวกรเป็นหมื่นคน และมีนักออกแบบหลายร้อยคน ที่กำลังให้ความสำคัญกับการออกแบบรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ปกติ
การออกแบบในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้โจทย์ที่จะต้องสามารถใช้งานได้สำหรับทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องยากในยุคที่จะสามารถทำรถเช่นนั้นได้ แต่เราจะต้องออกแบบให้เกิดความต้องการใช้ ในมุมของรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ ซึ่งนิสสันลีฟก็ประสบความสำเร็จมียอดขายกว่า 3แสนคัน และเริ่มเข้าสู่ยุคที่ 2 ซึ่งจะกลายเป็นหัวหอกในงานด้านออกแบบของนิสสันไปโดยปริยาย หลังจากที่มีทีมเริ่มต้นอยู่เพียง 5คนเท่านั้น
นิสสันลีฟ ยังมีความดุดันในส่วนของด้านหน้า ขณะที่ด้านข้างยังมีลายเส้นพริ้วตามแรงลม เพื่อรับสรีระของการขับขี่แบบตอบรับแรงลม การออกแบบภายในที่กว้าง และเส้นสายไฟภายนอกที่บ่งบอกความสนุกที่เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ในรุ่นต่อไป ยังสะท้อนอารมณ์การขับขี่ที่สนุก และยังบ่งบอกตัวตนของการออกแบบที่ขับขี่รวดเร็ว และมีขีวิตชีวาในรูปแบบนิสสันลีฟนั่นเอง
ซึ่งทั้งหมดยังรวมไปถึงการเชื่อมโยงมนุษย์ให้เข้ากับรถยนต์ การทำงานของระบบนิสสันอินเทลิเจนต์ การทำงานของระบบเชื่อมต่อ เพื่อตอบรับการใข้งานได้ครอบคลุมชีวิตมากยิ่งขึ้น
ซึ่งการออกแบบทั้งหมดของผม มีมาแล้วกว่า 26 โมเดล โดยมีกว่า 10 โมเดลที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งตัวผมเองก็ชื่นขอบการออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า ตามนิสัยที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ทำให้การออกแบบในหลายๆครั้งจึงสะท้อนมุมมองของความชื่นชอบส่วนตัวออกมา และท้ายที่สุดการออกแบบระบบขับขี่อัตโนมัติ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบแห่งอนาคต ที่นิสสันพยายามที่จะให้ทุกคนเข้าถึงได้นั่นเอง
