บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยเติบโตต่อแบบไม่รอแล้วนะด้วยยอดขายในปี 2561 โตขึ้น 20% สูงสุดในเครือข่ายบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลกเป็นปีที่สองติดต่อกัน พร้อมสร้างยอดขายต่อเนื่องด้วยการเผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู Z4 ใหม่ มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ รุ่นฉลองครบรอบ 60 ปี ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู C 400 GT แถมยังเดินหน้ายกระดับการผลิตด้วยนวัตกรรมล้ำยุคอย่าง Additive Manufacturing หรือการพิมพ์แบบสามมิติและเตรียมเปิดสายการประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงภายในปี 2562 เพื่อรองรับกับการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าและปลักอินไฮบริดหลากหลายรุ่นในปี 2563
ยอดขายแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิด้วยยอดส่งมอบรวม 13,087 คัน และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 2,154 คันในปี 2561 ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย สร้างสถิติยอดสัญญาเช่าซื้อรวมมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 4.64 หมื่นล้านบาท โดยประเทศไทยมียอดส่งมอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ในระดับหลักหมื่นติดต่อกันเป็นปีที่สอง
นายคริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่าการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีในแบรนด์ ดังนั้นในปีนี้บีเอ็มดับเบิลยูจะเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จในทุกด้าน เริ่มต้นจากการเปิดตัวรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ มากมาย
เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านการขับขี่ เริ่มด้วยบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู Z4 ใหม่ หรือมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู C 400 GT ใหม่ ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีล้ำยุคอย่าง 3D Printing
มาเพิ่มทางเลือกในการผลิต ปรับแต่งรถยนต์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น และการเริ่มดำเนินงานสายการประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง เพื่อสนับสนุนการผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดให้ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย
“อีกปัจจัยในความสำเร็จคือการการขยายช่องทางและรูปแบบการเข้ารับบริการจากเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการให้มีความหลากหลายและตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากขึ้น อาทิ การเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู สตูดิโอ ที่นำบริการระดับพรีเมียมเข้ามาใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้นในห้างสรรพสินค้า
หรือการเปิด เออร์เบิน สโตร์ แห่งใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์สไตล์โชว์รูมเต็มรูปแบบที่ผสมผสานด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค หรือ บีเอ็มดับเบิลยู เซอร์วิส เอาท์เล็ท เน้นขยายศักยภาพด้านบริการหลังการขายให้ครบเครื่องและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เช่น ลูกค้าสามารถใช้บริการ Online Booking เพื่อนัดหมายบริการล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ www.bmw.co.th ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว พร้อมความสะดวกสบายที่เหนือชั้นด้วยการบริการ Fastlane ที่ใช้เวลาในการตรวจซ่อมบำรุงรถยนต์จากช่างผู้ชำนาญการเพียงแค่ 90 นาที เป็นต้น”

นอกจากนี้บีเอ็มดับเบิลยูยังได้เตรียมการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างครบเครื่องของทั้งสามแบรนด์ ทั้งทาง Facebook Instagram และ YouTube โดยนอกจากการอัพเดทความเคลื่อนไหวล่าสุดในประเทศไทยของแต่ละแบรนด์ให้ลูกค้าและแฟนๆ ได้ติดตามกันแล้ว
เรายังมีแชนเนล BMW JOY TV ที่มอบคอนเทนต์แบบวาไรตี้ครบครันสำหรับคอบีเอ็มดับเบิลยูตัวจริง นับตั้งแต่ไฮไลท์กิจกรรมพิเศษล่าสุดจากโปรแกรม The Ultimate JOY Experience ไปจนถึงแนะนำการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในรถยนต์รุ่นต่างๆ
ขณะที่ทางฝั่งมินิ ก็ได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเปิดจองรถยนต์รุ่นพิเศษผ่านช่องทางดิจิทัลเท่านั้น เช่นในกรณีของมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ Ice Blue Edition เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสร้างกระแสตอบรับในกลุ่มแฟนมินิชาวไทยได้มาก
ทางด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ก็ได้ร่วมยกระดับบริการหลังการขายให้ลูกค้าในปีนี้ด้วยการเป็นผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์เจ้าแรกในประเทศไทยที่มอบโปรแกรมการรับประกัน BMW Motorrad Warranty เพิ่มเป็น 3 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
ให้กับมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดรุ่นใหม่ทุกรุ่นที่ส่งมอบตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562 โดยครอบคลุมถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความอุ่นใจในทุกเส้นทางการขับขี่อย่างเหนือระดับ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย