การแข่งขันธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบัน มีอัตราการเติบโตของจำนวนร้านใหม่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ขณะที่ยุคดิจิทัล มีแพลตฟอร์มการสนับสนุนให้ร้านอาหารสร้างรายได้อยู่หลากหลาย และหนึ่งในนั้นก็คือ Wongnai แอปพลิเคชั่นร้านอาหารที่ตั้งเป้าจะพัฒนาเป็น SuperApp ด้านอาหารต่อไปในอนาคต
ยอด ชินสุภัคกุล ซีอีโอ Wongnai เปิดเผยกับ Thereporter Asia ว่า วันนี้ร้านอาหารต้องปรับตัว เพื่อสอดรับกับทิศทางของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การเดินทางเข้าสู่ร้านค้าเป็นเพียงช่องทางหนึ่งของการเลือกซื้อสินค้าเท่านั้น
เมื่อมองอัตราการเติบโตของธุรกิจส่งอาหารพร้อมทาน (Delivery) ที่มีอัตราสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี เป็นสัญญาณว่า ผู้บริโภค เลือกความสะดวกของการสั่งอาหารขึ้นชื่อจากร้านดังไปทานในที่อยู่อาศัยมากขึ้น
แน่นอนว่า หากเราจะเดินทางไปทานที่ร้านดังหลายๆร้านในกรุงเทพ นอกจากจะต้องฝ่าการจราจรที่ติดขัดเพื่อไปให้ถึงร้านแล้ว การต้องรอคิวที่หน้าร้านเพื่อรอเข้าใช้บริการ ก็เป็นเรื่องที่ทำให้การจัดการเวลาผิดเพี้ยนไปเสียหมด
ขณะที่สภาพอากาศที่กรมควบคุมมลพิษประกาศต่อเนื่อง ถึงฝุ่นขนาดเล็กที่ปะปนอยู่ในอากาศมีความอันตรายต่อการใช้ชีวิต ก็เป็นอีกปัยจัยหนึ่งที่ทำให้การเดินทางไปทานอาหารที่ร้านดังเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณามากขึ้น
ประเด็นฝุ่น PM2.5 ยอด แห่งวงใน มีความเห็นว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจ Delivery มีการเติบโตขึ้น ซึ่งตัวเลขที่พบชัดเจนมีราว 20% ที่ส่งผลให้การส่งอาหารเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะไม่มาก แต่ก็เชื่อว่าจะส่งผลให้เกิดพฤติกรรมใหม่ขึ้นกับผู้บริโภคในอนาคต
เพราะเมื่อเกิดความคุ้นชินกับพฤติกรรมการสั่งอาหารไปทานที่บ้านแล้ว ธุรกิจ Delivery ก็น่าจะมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน
ดังนั้นการปรับตัวของร้านอาหารเกิดใหม่ จึงควรเตรียมการด้านการจัดส่งสินค้าให้พร้อม เนื่องจากบางร้านที่ไม่มีการเตรียมการด้านนี้ พนักงานรับ-ส่งอาหาร อาจจะปฏิเสธ การรับคำสั่งซื้อนั้นๆก็เป็นได้ ทั้งด้วยเหตุผลของการรอคิวนาน ไม่มีจุดรับสินค้าชัดเจน ร้านค้าไม่สะดวก หรือแม้กระทั่งรู้สึกไม่ดีเมื่อต้องไปรับสินค้าจากร้านนั้น
ปัจจัยเหล่านี้อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับการเติบโตของธุรกิจรับ-ส่งอาหารที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็สะท้อนให้เห็นทิศทางการพัฒนาของร้านอาหารในอนาคตได้เป็นอย่างดี
ร้านอาหารดิจิทัลแบบไร้หน้าร้าน มีแนวโน้มที่จะปัง!!!
ร้านในอนาคตไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน แต่ก็เป็นร้านดังของมหาชนได้ไม่ยากเลย หากสามารถจัดการคำสั่งซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านแพลตฟอร์มที่มีให้เลือกใช้ในปัจจุบัน
ซึ่งในอดีต ระบบการขนส่งอาหารพร้อมทาน มักจะมีแค่เชนใหญ่จากต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่ถูกปากคนไทยเท่าไหร่นัก เนื่องจากคนไทย มีความนิยมอาหารรสจัดมากกว่าอาหารจากต่างประเทศ เมื่อดิจิทัลเข้ามา การสั่งอาหารท้องถิ่นจากพื้นที่ต่างๆจึงเริ่มแพร่กระจายสู่ธุรกิจอาหาร
แพลตฟอร์มดิจิทัล เป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้ธุรกิจร้านอาหาร เติบโตอย่างยั่งยืนและเข้าถึงผู้บริโภคในรัศมีการบริการที่กว้างไกลขึ้น แน่นอนว่าการจะเปิดร้านอาหารสักที่หนึ่ง ทำเล เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึง แต่นั่นเป็นปัจจัยของยุคเก่าที่ไม่ได้มีความสำคัญมากพอกับธุรกิจร้านอาหารในยุคดิจิทัลไปเสียแล้ว
ยอด กล่าวเสริมว่า เราพยายามสร้างแพลตฟอร์มการสนับสนุนร้านอาหารให้เติบโตขึ้น และทรานส์ฟอร์มเข้าสู่ระบบดิจิทัลได้ง่ายขึ้น ด้วยความสมบูรณ์ของแพลตฟอร์ม Wongnai แต่เดิมที่สร้างควาน่าเชื่อถือและเผยแพร่ร้านอาหารให้เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว
ปัจจุบันเราเริ่มก้าวเข้าสู่หลังร้านอาหาร เพื่อพัฒนาโซลูชั่นระบบการขาย การจัดการวัตถุดิบ ตลอดจนเชื่อมต่อการสั่งซื้อออนไลน์ เพื่อให้ร้านอาหารปรากฏตัวอยู่บนโลกออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำ แต่ได้ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมา Wongnai ได้ร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้านระบบการจัดการคำสั่งซื้อ POS อย่าง FoodStory เพื่อควบรวมความสามารถของวงในเข้ากับคำสั่งซื้อออนไลน์ได้ทันที พร้อมทั้งยังสามารถจัดการส่งคำสั่งนั้นๆเข้าสู่ห้องครัวได้อย่างทันท่วงที ภายใต้ชื่อโซลูชั่น Wongnai POS by FoodStory
โดยจุดเด่นของโซลูชั่นดังกล่าว คือการจัดการหลังร้านได้แบบออนไลน์ พร้อมรับคำสั่งซื้อจากออนไลน์และรองรับการชำระเงินได้ทันที พร้อมความสามารถของการโปรโมทผ่านแอปพลิเคชั่นแนะนำร้านอาหารชื่อดังอย่าง Wongnai ไปในตัว ซึ่งนับเป็นความครบครันที่ร้านอาหารยุคดิจิทัลต้องการเป็นอย่างมาก
และเมื่อถามถึงราคาของการที่จะต้องจ่ายให้กับโซลูชั่นที่ครบครันเช่นนี้ ทาง ‘ยอด’ ก็บอกกับ TheReporter Asia ว่า เปิดให้ร้านอาหารได้เข้ามาใช้ฟรี ซึ่งจะมีบางฟีเจอร์อนาคตเท่านั้นที่จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น แต่ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาซึ่งก็เท่ากับว่า ระบบดังกล่าว ยังสามารถใช้ฟรีได้สำหรับร้านอาหารนั่นเอง
ทั้งนี้ความสามารถของโซลูชั่น Wongnai POS by FoodStory ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา บางฟีเจอร์อาจจะยังไม่พร้อมใช้งาน แต่กระนั้นการเลือกที่จะปรับตัวเพื่อสร้างความได้เปรียบของโลกดิจิทัลในมุมของร้านอาหาร ย่อมเป็นการได้เปรียบคู่แข่งไปอีกก้าว ซึ่งหากมองในมุมของการแข่งขันแล้วร้านอาหารคงต้องพิจารณาเป็นการด่วน
ท้ายที่สุด ยอด ให้ความเห็นว่าความตั้งใจในการพัฒนาโซลูชั่นนี้ของ Wongnai ก็เพื่อต้องการให้แอปพลิเคชั่นแนะนำร้านอาหารอย่างวงใน กลายเป็น SuperApp ที่สามารถเลือกใชบริการได้ในแอปพลิเคชั่นเดียวเมื่อรู้สึกหิว ซึ่งเป็นเทรนด์ของพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคตที่จะเลือกใช้จำนวนแอปพลิเคชั่นน้อยลงแต่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการนั่นเอง
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
