ซิสโก้ จัดงานใหญ่ Cisco Connect Thailand 2019 โชว์ความสามารถของฟีเจอร์การจัดการทราฟฟิก อวดความสามารถเอไอ และแมขชีนเลิร์นนิ่ง ในการจัดการเน็ตเวิร์กได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ อยู่ภายใต้แนวคิด “Say Hello to The Future” เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโซลูชันซิสโก้ ในการจัดการเครือข่าย พร้อมดึงความสามารถของแมชชีนเลิร์นนิ่ง และเอไอเข้าไว้ด้วยกัน

โดยภายในงาน Cisco Connect Thailand 2019 ได้โชว์ให้เห็น โซลูชัน5 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่ ภายในงานมีการอัปเดตแนวโน้มเทคโนโลยี นวัตกรรม และสาธิตการใช้งานจริงของเทคโนโลยีซิสโก้
ไม่ว่าจะเป็น Multi-Cloud, IoT, Data Center, Network, Next-Gen Collaboration, 5G และ Security เพื่อให้ธุรกิจก้าวเข้าสู่อนาคตดิจิทัลอย่างไม่มีสะดุด โดยมีไฮไลท์เทคโนโลยีและโซลูชั่นดังนี้
Ø Cisco Realware – อุปกรณ์สวมใส่แห่งอนาคตที่ใช้คำสั่งผ่านเสียงเท่านั้น ช่วยให้การทำงานร่วมกันกับผู้อื่นเป็นไปอย่างต่อเนื่องและราบรื่นโดยไม่ติดขัด และรองรับเสียงภาษาไทยได้แล้ว
Ø Cisco Multi-cloud – ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายด้านคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น องค์กรธุรกิจมี visibility ที่สามารถรับรู้ค่าใช้จ่าย และปริมาณการใช้คลาวด์ว่าใช้ไปจำนวนเท่าไหร่ และเหลืออีกเท่าไหร่
Ø Cisco WebEx Roomkit Mini มิติใหม่ของการประชุมทางไกลแบบ Co-working Space ที่สามารถเชื่อมต่อ Co-working Space ได้หลายที่พร้อมกัน และทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นๆได้อย่างราบรื่น
Ø Cisco DNA Assurance – ประสานข้อมูลการทำงานร่วมกันของระบบ IT infrastructure ปลดล๊อคการแก้ปัญหาระบบเครือข่ายที่ไร้ประสิทธิภาพ
ลดระยะเวลาในการหาสาเหตุของปัญหา ด้วยความสามารถในการทำ Analytic และ Machine Learning บนระบบเครือข่าย Cisco Intent Base Networking
Ø Cisco Threat Response (CTR) – นวัตกรรมทางด้านซีเคียวริตี้ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรู้ว่าการโจมตีเกิดจากที่ใดอย่างแท้จริง ซึ่งอาจเกิดจากภายนอกหรือภายในองค์กรธุรกิจ
ช่วยสืบสวน วิเคราะห์เส้นทางในการโจมตี ลดระยะเวลาปิดการโจมตี และแนะนำการแก้ปัญหาที่ตรงจุด โดยการประสานข้อมูลจากระบบ Threat Intelligence ต่างๆของ Cisco
เดินชมเทคโนโลยีภายในงาน
มีการใข้เอไอเข้ามาช่วยเสริมใน โซลูชัน WebEx รองรับคำสั่งเสียงด้วยภาษาอังกฤษ สั่งให้เข้าประชุมได้ สั่งให้โทรหาได้ หรือแม้กระทั่งการเปิด-ปิด เสียง
และยังรองรับการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์หลายรูปแบบทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ช่วยให้สามารถแชร์ข้อมูลเข้าสู่การประชุมได้อย่างง่ายดาย โดยทำงานประสานระบบ AR เข้าสู่การประชุม
นอกจากนั้นยังแชร์ข้อมูลการเขียนกระดานได้แบบเรียลไทม์ พร้อมความสามารถในการแมพ กราฟ 3D จาก Excel ได้อย่างสะดวก
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการทำ Face Cognition เพื่อเก็บข้อมูลการเข้าร่วมประขุม ในการตรวจวัดความคุ้มค่าของแคมเปญ พร้อมแสดงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการพับบลิกแล้ว จากโลกโซเชียลมีเดีย
ทั้งนี้ ส่วนของการแสดง Cisco IoT Collaboration ดดดยเป็นความร่วมมือกับ RealWare ซึ่งพัฒนาหมวกปลอดภัย เข้ากับเทคโนโลยี AR เพื่อเชื่อมโยงและสิ่อสารกันระหว่างศูนย์กลางและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยสามารถสั่งการด้วยเสียงได้อย่างสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลส่วนกลาง
สามารถช่วยลดข้อผิดดลาดของการปรับแต่งเครื่องจักร Onsite ช่วยได้รับคำแนะนำในการปรับแต่งที่ถูกต้อง พร้อมทั้งการเชื่อมต่อเข้าสู่โซลูชัน WebEx ได้ทันที และรองรับการใช้งานกว่า 8 ภาษา โเยภาษาไทยจะพัฒนาแล้วเสร็จในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ยังมีโซลูชั่น WebEx RoomKit Mini ซึ่งสามารถรองรับการทำงานภายในห้องขนาดล็ก มาพร้อมเทคโนโลยี Face Recognition ผสานการทำงานกับ Ai เพื่อจับคู่เสียงและใบหน้าเข้าด้วยกัน ช่วยให้การสนทนารู้ว่ามีใครกำลังพูดอยู่แบบอัตโนมัติ
มุมมองการแสดงผลแบบกว้าง (Lens Wide) ช่วยให้เก็บภาพผู้เข้าร่วมประชุมได้แบบครบครัน แม้ว่าจะมีการนั่งด้านหน้าสุดติดจอแล้วก็ตาม
ฟีเจอร์ใหม่ WebEx Broad รองรับการเชื่อมต่อกับ WebExtive สามารถเปิดไฟล์ทุกอย่างที่อยู่ภายใน และยังมีการต่อพ่วงไวซ์บอร์ด พร้อมการบันทึกและส่งเข้าปลายทางทั้งแอคเคาท์และอีกเมล์หลังจบการประชุมได้ทันที
นอกจากนี้นยังมี Sticky Note เพื่อช่วยในการจดจำ โดยสามารถบันทึกลงไปในนั้น พร้อมโยนเข้ากลุ่มการสนทนาได้ทันทีเช่นกัน
ขณะที่ในส่วนของการจัดการทราฟฟิก DNA Center ภายใต้โซลูชั่น DNA Assuance ซึ่งจะช่วยติดตามและแก้ปัญสิ่งที่เกิดขึ้นจากการเก็บ Log ด้วยการวิเคราะห์ของแมชชีนเลิร์นนิ่ง
ซึ่งหลังจากยูสเซอร์แจ้งปัญหาแล้ว เมื่อแอดมินเข้าสู่หน้าแดชบอร์ด จะสามารถเช็กข้อมูลยูสเซอร์ ได้แบบ 360 องศา สามารถย้อนเวลากลับไปเพื่อแก้ปัญหาได้ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ล่าสุด
โดยสามารถเช็กในรายละเอียดของยูสเซอร์ จากข้อมูลทั้งระบบ โดยโซลูชันนี้จะทำงานได้มากกว่าการแจ้งเตือนปกติ แม้ว่าจะผ่านมาระยะเวลาหนึ่วแล้ว ช่วยให้แก้ปัญหาได้ตรงจุด ร่นระยเวลาให้แก้ปัญได้เร็วขึ้น 60-70%
ด้วยความสามารถของ Path Trace ที่จะช่วยแสดงปัญหาในจุดที่ติดขัดจองทราฟฟิกได้อย่างรวดเร็ว เพียงกรอก ไอพีต้นทางและปลายทาง ระบบแมชชีนเลิร์นนิ่ง จะวิเคราะห์จุดการเชื่อมต่อที่เกี่ยวข้องแต่ละจุด พร้อมเสนอวิธีแก้ไขได้อย่างละเอียด
ขณะที่การสื่อสารแบบ 5G ก็สามารถบริหารจัดการได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ผ่านโซลูชั่น NSO (Network Services Orchestrator) โดยโซลูชั่นดังกล่าวจะสามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างเร็วมากขึ้น สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างทันที
นอกจากนี้โซลูชั่นดังกล่าว ยังสามารถรองรับอุปกรณ์ที่หลากหลายยี่ห้อ ช่วยให้เกิดการจัดการการใช้งานอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ไม่ต้องเขียนคอมมานด์ไลน์เพิ่อตรวจสอบแต่ละอุปกรณ์เองอีกต่อไป
โซลูชั่น Threat Response ช่วยตามสืบจับความผิดปกติได้อย่างเป็นระบบ มีการใช้งานข้อมูลจากแต่ละ API เข้ามาวิเคราะห์เพิ่อหาคำตอบว่า โดนนแฮกจริงหรือเกิดจากข้อผิดพลาดจากขั้นตอนอื่นๆของระบบ
โดยแอดมิน สามารถแปะโค้ดเข้าสู่โปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมประมวลผลการเกิดขึ้นของข้อผิดพลาด ซึ่งจะแสดงรายละเอียดของการเรียกใช้ไฟล์ ความถี่ ขนิดไฟล์ ตลอดจนต้นทางและปลายทาง
ซึ่งจะแสดงความผิดพลาดตามสี โดยสีม่วงจะเป็นเครื่อวที่โดนโจมตี สีแดงเป็นชนิดของไฟล์ที่โดนโจมตี อีกทั้งยังสามารถตอบสนองได้อย่างทันที ทำให้แอดมินสามารถเช็ก Log ที่เกี่ยวข้องได้ทันที ช่วยลดระยะเวลาได้เป็นอย่างมาก
และสำหรับลูกค้าของ Cisco สามารถใข้งานได้ฟรีสำหรับลูกค้าที่ใข้โซลูชั่นที่เกี่ยวข้องของซิสโก้อยู่แล้ว ทั้ง Umbrella Threatgrid และ AMP Endpoint
ในขณะที่ส่วนของแอปพลิเคชั่น N-Tear ภายใต้โซลูชั่น Cloud Consume.ซึ่งจะเป็นโซลูชั่นที่แสดงผลของการจัดการระบบคลาวด์ เพื่อช่วยให้จัดการค่าใช้จ่ายในการใข้งานจากหลากหลายผู้ให้บริการได้ทันที
อีกทั้งยังสามารถเคลื่อนย้ายแอปพลิเคขั่น จากระบบคลาวด์หนึ่งสู่คลาวด์หนึ่ง ด้วยการออกแบบ ซอร์ฟแวร์ SDN เฉพาะตัว ช่วยให้ทำการ Deployment จากระบบหนึ่งสู่ระบบหนึ่งเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ด้านโซลูชั่น Cisco Hybrid Cloud Platforms สามารถจัดการระบบคลาวด์ของแต่ละแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวกภายในแอปพลิเคชั่นเดียว และสามารถเชื่อมโยงแต่ละคราวด์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อทำให้สามารถส่งคำสั่งไปหลายคลาวด์แพลตฟอร์มได้ในครั้งเดียว
ซึ่งรองรับทั้งคลาวด์ส่วนตัว คลาวด์สาธารณะ ในการควบคุมการใช้งานได้อย่าวสะดวกมากยิ่งขึ้น นับเป็นโซลูชั่นใหม่ที่เกิดขึ้น เพิ่อการเชิ่อมโยงคลาวด์ที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง