น้องใหม่ในธุรกิจขนส่งสินค้าอย่าง ‘แฟลชเอ็กช์เพรส’ ดำเนินธุรกิจครบรอบ 1 ปีแล้ว และกำลังขยายตัวครั้งใหญ่สู่ธุรกิจโลจิกติกส์อย่างเต็มรูปแบบ เริ่มต้นด้วยการจับมือกับนิ่มซี่เส็งโลจิสติกส์ ใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างเครือข่ายการขนส่งครอบคลุมทั่วประเทศ
ประเดิมก่อตั้ง “บริษัท แฟลช โลจิสติกส์ จำกัด” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจโลจิสติกส์รูปแบบใหม่ เป็นบริษัทที่บริหารอีคอมเมิร์ซครบวงจร รวมถึงรองรับการเติบโตของ อี-คอมเมิร์ซ ในเมืองไทยและภูมิภาคอาเซียนในระยะยาว
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา แฟลชเอ็กซ์เพรส ใช้เม็ดเงินลงทุนไปมากกว่า 5,000 ล้านบาท ในการพัฒนาธุรกิจและพัฒนาระบบบริการด้านขนส่งให้มีประสิทธิภาพ จนสามารถให้บริการได้ครบทั้ง 77 จังหวัด มีพนักงานกว่า 10,000 คน พร้อมสาขาให้บริการมากกว่า 1,700 แห่งทั่วเมืองไทย
โดยยังคงยึดจุดแข็งที่ว่า “ราคาถูกที่สุด เริ่มต้นเพียง 19 บาท บริการรับฟรีถึงที่ตั้งแต่ชิ้นแรก ไม่ใช้เอาท์ซอร์สหรือแฟรนไชส์ และทำงาน 365 วันไม่มีวันหยุด” ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดการขนส่งสินค้ารวมประมาณ 20 ล้านชิ้น โดยตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดจัดส่งสินค้าเพิ่มอีก 40 ล้านชิ้น
นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ แฟลช (FLASH GROUP) กล่าวว่า นอกจากการลงทุนดังกล่าวแล้ว แฟลช เอ็กซ์เพรส ยังได้ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท พัฒนาเครื่องคัดแยกสินค้าอัจฉริยะที่สามารถคัดแยกสินค้าจำนวน 100,000 ชิ้น ใน 1 ชั่วโมง เพื่อลดต้นทุนการบริหารจัดการในระบบขนส่ง
ยิ่งไปกว่านั้น แฟลช เอ็กซ์เพรส ยังทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อพัฒนาระบบไอทีที่ทันสมัยและแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ธุรกิจ SME และกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว ด้วยการกดส่งพัสดุผ่านแอปบนมือถือ ทั้งยังเป็นขนส่งรายแรกของไทยที่พัฒนาระบบการชำระเงินแบบ E-COD อีกด้วย
“การจะเข้าสู่ธุรกิจโลจิสติกส์นั้นการแข่งขันยิ่งเยอะยิ่งดีต่อการบริการ แต่ผู้เล่นความเข้มแข็งทางการเงิน และตลาดนี้ยังขาดแคลนแรงงานจึงทำให้แฟลชมีพนักงานฝ่ายบุคคลถึง 100 คน เพื่อรับพนักงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เราให้รายได้และคอมมิชชั่นมากกว่าที่อื่น เพื่อจูงใจให้คนเข้ามาทำงานในตลาดนี้มากขึ้น
ใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารพนักงาน อย่างเช่นระบบสแกนหน้าผ่านมือถือเมื่อรับงานก็จะสแกนเข้าระบบอัตโนมัติ ใช้งานง่ายและสามารถเช็คประสิทธิภาพของการทำงานได้ทันที โดยคาดว่าในที่สุดตลาดโลจิสติกส์นี้จะมีผู้เล่นเหลือไม่เกิน 5 เจ้าใหญ่ ส่วนรายเล็กก็จะกลืนเป็นของรายใหญ่ในที่สุด”
สำหรับความร่วมมือกับ นิ่มซี่เส็งโลจิสติกส์ ก่อตั้ง “บริษัท แฟลช โลจิสติกส์ จำกัด” นั้น ในเบื้องต้นจะใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาทในการสร้างแพลตฟอร์มเป็นเฟสแรก ส่วนเฟสต่อจะจะเป็นการขยายฮับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจโลจิสติกส์รูปแบบใหม่
รวมถึงรองรับการเติบโตของ อี-คอมเมิร์ซ ในเมืองไทยและภูมิภาคอาเซียนในระยะยาว เพื่อไปสู่เป้าหมายเชื่อมระบบการขนส่งในตลาด AEC ให้เป็นแผ่นดินเดียวกัน จึงได้เตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 ประเทศในกลุ่มอาเซียน และตั้งเป้าว่าจะเปิดให้ครบทั้ง 10 ประเทศภายใน 4 ปี
นายคมสันต์ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายในเบื้องต้นนั้นตั้งไว้ว่าจะมีผู้ประกอบการเข้ามาร่วม 100 ราย ก็จะมีสินค้าที่เยอะมากแล้ว แต่เป้าหมายจริงคือการเป็นศูนย์ช่วยเอสเอ็มอีทั้งซัพพลายเชนทั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำให้มาใช้คลังสินค้าร่วมกัน เพื่อให้ต้นทุนการส่งสินค้าของพวกเขาลดลง เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการไทยกว่า 80% ยังคงขนส่งไปในจุดเดียว
การเข้ามาร่วมมือกับเราจะทำให้พวกเขาสามารถขยายการขนส่งไปได้ทั่วประเทศด้วยต้นทุนที่ลดลง และยังตอบโจทย์ Digital Disruption ที่ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุทุกรายต้องนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาประยุกต์ใช้ในการให้บริการ เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
“เราเชื่อว่าธุรกิจขนส่งเป็นพื้นฐานของธุรกิจหลายๆอย่าง ดังนั้นหากระบบการขนส่งสินค้าสามารถบริหารจัดการได้ดี ก็จะช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการแต่ละรายให้สามารถตั้งราคาค่าขนส่งที่ถูกลง ซึ่งก็จะส่งผลให้ต้นทุนของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยต่างๆ ลดลงไปด้วย ประโยชน์ก็จะเกิดกับผู้ซื้อ ทำให้ผู้ซื้อได้รับสินค้าที่มีความคุ้มค่าทั้งด้านราคา และคุณภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ผู้บริโภคหรือลูกค้าของเราจะได้เห็นรูปแบบธุรกิจ สินค้า และบริการใหม่ๆ ที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาดมานำเสนอออกมาต่อเนื่อง”
ทั้งนี้เพื่อให้การก้าวเข้าไปสู่ธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจร ในปีนี้แฟลช เอ็กซ์เพรส จะเปิดบริษัทใหม่เพิ่มอีก 6 บริษัท ส่วนปีหน้าเพิ่มอีก 2 บริษัท เพื่อมาช่วยเติมเต็มในทุกด้านที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุม อาทิ การบริหารคลังสินค้า การเคลื่อนย้ายสินค้าในเวลาที่สั้นที่สุด บริการทางการเงิน การใช้เอไอเข้ามาช่วยบริการจัดการ การนำสินค้าไปฝากที่ใกล้ลูกค้ามากที่สุด และการดำเนินการเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้อย่างรวดเร็ว
ด้านนางปิยะนุช สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นิ่มซี่เส็งโลจิสติกส์ และในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เนื่องจากมองว่า แฟลช เอ็กซ์เพรส มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มีแนวทางที่คล้ายกันคือการพัฒนาตนเองตลอดเวลา พร้อมปรับตัวตามความต้องการของลูกค้า
ประกอบกับนิ่มซี่เส็งพยายามสร้างเครือข่ายร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เป็นการสร้างความสำเร็จร่วมกัน การร่วมทุนในครั้งนี้เราจะนำประสบการณ์ทั้งหมดที่มีจากการบริหารธุรกิจ นิ่มซี่เส็งโลจิสติกส์ เข้ามาหลอมรวมกับเทคโนโลยีของ แฟลช เอ็กซ์เพรส ให้ทั้ง 2 ส่วนเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการทำงานซึ่งกันและกัน เกิดเป็นตลาดโลจิสติกส์รูปแบบใหม่ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็ว ให้แก่ผู้ใช้บริการ
โดยแผนความร่วมมือแรก คือ การสร้างแพลตฟอร์มสำหรับผู้ประกอบการขนส่งสินค้า โดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าให้กับผู้ประกอบการขนส่งแต่ละรายพร้อมการมีศูนย์บริการรับ และคัดแยกสินค้าแบบครบวงจร
ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้น่าจะสามารถเข้ามาช่วยผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถทำงานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้นต่อไป ปัจจุบันมีผู้ประกอบการขนส่งและโลจิสติกส์ที่จดทะเบียนอยู่ประมาณ 30,000 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อย ผู้ประกอบการที่ทำแบบเก่าจะเหนื่อย เพราะสมัยนี้เทคโนโลยีช่วยได้เยอะ เราจึงต้องการนำพวกเขาเหล่านั้นให้เข้ามาร่วมกัน
“เราจะมีศูนย์บริการแลกเปลี่ยนสินค้าให้ผู้ประกอบการขนส่งรายย่อย ซึ่งจากเดิมที่เคยทำงานได้แค่จังหวัดเดียวเพราะมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ แต่ก็ทำอยู่แบบนั้นไม่ได้ขยายออกไปนับว่าเป็นการปิดกั้นการเติบโต ซึ่งแพลตฟอร์มองเราจะไปช่วยให้เขาสามารถขยายออกไปได้ 77 จังหวัดทั่วไทย
ใช้แนวทางอาศัยเพื่อนร่วมธุรกิจในการขนส่ง การบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรร่วมกันด้วยการใช้เทคโนโลยี และเติบโตไปด้วยกัน สอดรับกับธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ในประเทศเติบโตควบคู่ตามไปด้วย ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีมูลค่าสูงกว่า 200,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตปีละ 15-20%”
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง