ส่องสเปค Redmi Note 8 Series ราคาเริ่มต้น 7,999 บาท

ส่องสเปค Redmi Note 8 Series ราคาเริ่มต้น 7,999 บาท

เสียวหมี่ (Xiaomi) เปิดตัว Redmi Note 8 Series 2 รุ่นในไทย ทั้ง Redmi Note 8 Pro ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 7,999 บาท และ Redmi Note 8 ราคา 4,999 บาท พร้อมเปิดตัวอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าชาวไทย อาทิ Mi Air Purifier 3H เครื่องฟอกอากาศนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากเสียวหมี่ ราคา 5,990 บาท Mi Handheld Vacuum Cleaner เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Mi แรงดูดพลังไซโคลน ราคา 8,490 บาท และกระเป๋าเดินทาง Xiaomi Metal Carry-on Luggage 20” ราคา 7,490 บาท

Redmi Note 8 Pro มาพร้อม 4 กล้องคุณภาพจัดเต็ม กล้องหลักมอบความคมชัดและรายละเอียดขั้นสุดระดับ 64 ล้านพิกเซล คมชัดจนสามารถนำภาพที่ถูกถ่ายด้วย Redmi Note 8 Pro ในโหมด 64 ล้านพิกเซล มาทำสื่อสิ่งพิมพ์ได้จนมีขนาดใหญ่ถึง 3.26 เมตรเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเก็บภาพแสงสียามค่ำคืนหรือในสภาวะแสงน้อยได้ดีกว่าที่เคยด้วยการรวมพิกเซลจาก 4 เป็น 1 โดยเพิ่มขนาดพิกเซลต่อจุดให้ใหญ่ขึ้นเป็น 1.6 ไมครอน ซึ่งจะรับแสงได้ไวกว่าเดิม ส่งผลให้ภาพมีความละเอียดมากขึ้น

ส่วนกล้อง ultra-wide angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างได้กว้างถึง 120 องศา และเสริมทัพด้วย 2 เลนส์สำคัญ ทั้งเลนส์ macro ที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และเลนส์ depth ที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มาผนึกกำลังกันมาสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับกล้องตัวท็อปของ Redmi และที่ล้ำไปกว่านั้น คือกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI พร้อมเก็บทุกรายละเอียดที่สำคัญ ด้วยโหมด portrait selfies, scene detection และ face unlock ปรับภาพให้สวยทุกมุมมอง

Redmi Note 8 Pro นำนวัตกรรม Corning® Gorilla® Glass 5 มาใช้กับตัวเครื่องทั้งด้านหน้าและหลังเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการตกกระแทกและการขีดข่วน และยกระดับความคงทนขึ้นอีกขั้นโดยใช้เทคโนโลยีป้องกันน้ำและป้องกันฝุ่นระดับ IP52 มีให้เลือกถึงสามสีหลายสไตล์ในแบบคุณ ไม่ว่าจะเป็น Mineral Grey, Pearl White และ Forest Green

หน่วยประมวลผลอันทันสมัยจาก MediaTek Helio G90T ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล CPU Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.05 GHz และเทคโนโลยีหน่วยประมวลผลกราฟฟิกล่าสุด GPU Arm Mali-G76 3EEMC4 ให้ความถี่สูงสุด 800MHz และ AI อัดแน่นถึง 1 TMACs พร้อมฟีเจอร์ LiquidCool ซึ่งเป็นรุ่นแรกในซี่รี่ย์ Redmi Note ที่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ ทำให้สามารถใช้งานแบบไฮสปีดได้อย่างเพลิดเพลิน ไร้กังวลว่าเครื่องจะร้อนเกินไปเมื่อเล่นเกมส์ และพ่วงมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุขั้นสุดถึง 4500 mAh ซึ่งเป็นความจุสูงที่สุดของรุ่น Redmi Note ที่มีตอนนี้ ขนมาพร้อมกับฟีเจอร์อีกมากมาย ทั้งโหมดประหยัดพลังงาน และระบบปรับความสว่างอัจฉริยะเพื่อช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้คุณใช้งานได้นานขึ้น รองรับระบบชาร์จเร็ว 18 วัตต์ มี IR Blaster และช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร อีกด้วย

ทางด้าน Redmi Note 8 มาพร้อมฟีเจอร์อัดแน่น ด้วยความคมชัดระดับอัลตร้าถึง 48 ล้านพิกเซล จากกล้องถึง 4 ตัว ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 665 ชิปเซ็ตทรงพลัง เทคโนโลยี AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ให้กับโทรศัพท์ของคุณเพื่อการใช้งานที่ยาวนานตลอดวัน และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000mAh และที่พิเศษไปกว่านั้น คือฟังก์ชันการทำความสะอาดตัวเองของลำโพง ที่สามารถไล่ฝุ่นหรือสิ่งสกปรก ผ่านคลื่นความถี่ต่ำ Sonic Pulses

Redmi Note 8 มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัว ซึ่งกล้องหลักมีความคมชัดระดับอัลตร้า 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ½ นิ้วและรูรับแสงขนาด f/1.79 และมุมมองภาพในมุมกว้างขนาด 79.4° ในขณะที่กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถขยายมุมมองภาพที่กว้างได้มากถึง 120° พ่วงมาด้วยเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่ผสานการทำงานกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะถ่ายภาพใกล้หรือไกลก็สามารถเก็บภาพสวยสมใจได้

สำหรับกล้องหน้า Redmi Note 8 ก็มาพร้อมกับกล้องเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ด้วยรูรับแสงขนาด f/2.0 พร้อมเทคโนโลยี AI ที่จะช่วยให้คุณถ่ายรูปเซลฟี่ให้ออกมาสวยสมบูรณ์ กล้องหน้ายังมีฟีเจอร์พาโนรามาเซลฟี่ ที่สามารถถ่ายรูปกลุ่มครบทุกคนในภาพโดยที่ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งโดนตัดออกไป ถือได้ว่า Redmi Note 8 เป็นรุ่นแรกในตระกูล Redmi ที่ทำได้

หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความคมชัดระดับ FHD+ และเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ Dot Drop ดีไซน์กระจก 2.5D ขอบโค้งมนรอบด้าน มอบประสบการณ์การมองเห็นสุดพิเศษระดับ FHD+ อัตราส่วนพื้นที่หน้าจอที่มีมากถึง 90% ช่วยให้คุณดูได้อย่างเต็มตา ทั้งยังได้รับมาตรฐานการรับรองการป้องกันแสงสีฟ้า จาก TÜV Rheinland ให้คุณใช้งานอย่างสบายตาและช่วยป้องกันอาการเมื่อยล้าของดวงตา คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความคงทนที่อัพเกรดขึ้น เพราะจอแสดงผลใช้ Corning® Gorilla® Glass 5 เพื่อความทนทานของหน้าจอและฝาหลัง Redmi Note 8 มีสามสีให้เลือกดังนี้ Space Black, Neptune Blue, and Moonlight White

นอกจากเปิดตัว Redmi Note 8 Series แล้ว เสียวหมี่ยังเปิดตัวอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย อย่าง Mi Air Purifier 3H เครื่องฟอกอากาศนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากเสียวหมี่ โดยยังคงการออกแบบในสไตล์ที่คลาสสิคและมินิมอลตามแบบฉบับของเสียวหมี่ และเพิ่มประสิทธิภาพการฟอกอากาศของ Mi Air Purifier 3H โดยให้ตัวกรอง HEPA ซึ่งกำจัดอนุภาคขนาดจิ๋วถึง 99.97% และ CADR รุ่นอัพเกรด 380 m3/h ครอบคลุมพื้นที่ได้ถึง 45 ตารางเมตร

ด้วยเซ็นเซอร์อนุภาคในตัวเครื่องฟอกอากาศนี้ จะปรับความเร็วพัดลมอย่างชาญฉลาดตามคุณภาพอากาศ แสดงข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์บนหน้าจอสัมผัส OLED ที่เพิ่มมาใหม่ในรุ่นนี้ ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิด / ปิดอุปกรณ์ปรับความเร็วพัดลมและอื่น ๆ ด้วยตนเอง พร้อมกันนี้ Mi Air Purifier 3H ยังทำงานเข้ากันได้ดีกับ Google Assistant และ Amazon Alexa ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอุปกรณ์ด้วยคำสั่งเสียงได้จากระยะไกล และผู้ใช้ยังสามารถจับคู่ Mi Air Purifier 3H กับเสียวหมี่ที่เป็นอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ เช่น Mi Smart Sensor Set เพื่อสร้างรูปแบบการทำงานและระบบอัตโนมัติด้วยแอพ Mi Home ได้อีกด้วย

Mi Air Purifier 3H มีกำหนดจะวางจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ที่ร้าน Mi Authorized Store และร้านค้าที่รับการแต่งตั้งจากเสียวหมี่อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ในราคา 5,990 บาท

เสียวหมี่

Mi Handheld Vacuum Cleaner เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Mi ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ DC Brushless ที่มีรอบหมุนมากถึง 100,000 รอบใน 1 นาที และมีพลังการดูดมากถึง 100 แอร์วัตต์ ใช้เทคโนโลยี 9-cyclone หรือเทคโนโลยีแรงดูดพลังไซโคลน มาพร้อมหัวแปรงสำหรับดูดฝุ่นถึง 4 แบบที่ช่วยให้คุณสามารถดูดฝุ่นได้อย่างสะดวกแม้ในซอกเล็กๆ และสามารถแยกอนุภาคฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพระดับ 99.97 % ทำให้สามารถดูดฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง เกสร ขนสัตว์ เส้นผม เส้นขน และอีกมากมาย

ในขณะที่เครื่องทำงานและดูดสิ่งสกปรก เครื่องจะทำการกรองสิ่งสกปรกและคืนอากาศบริสุทธิ์กลับมาให้ห้องของคุณ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Mi ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงาม และออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายขึ้นโดยไม่มีสายไฟมากวนใจ ทำให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น เท่านั้นยังไม่พอเครื่องยังมาพร้อมกับถังเก็บสิ่งสกปรกที่ถอดทิ้งง่าย ไม่ต้องเปลืองแรงเปลี่ยนถุงทำความสะอาดให้ยุ่งยาก Mi Handheld Vacuum Cleaner เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Mi มีกำหนดจะวางจำหน่ายแล้ว ที่ร้าน Mi Authorized Store และร้านค้าที่รับการแต่งตั้งจากเสียวหมี่อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ในราคา 8,490 บาท

นายโรซัน หลัว ผู้จัดการประจำประเทศไทย เสียวหมี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) กล่าวว่า หลังจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับกลางในจีน Redmi Note 8 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของเสี่ยวหมี่ที่มาพร้อมกับกล้องที่คมชัดขั้นสุด 64 ล้านพิกเซล ที่มีกล้องให้มากถึง 4 ตัว พร้อมระบบระบายความร้อน LiquidCool อันทรงพลัง ทำให้เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ เหล่าเกมเมอร์ หรือผู้ที่มองหาประสบการณ์การใช้งานสินค้าคุณภาพระดับเรือธง

“Redmi Note เป็นหนึ่งในซีรี่ย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเสียวหมี่ในทุกตลาดทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยซีรี่ย์นี้แสดงให้เห็นถึงปรัชญาแนวคิดของเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง แฟนที่รักเสียวหมี่และรอคอย Redmi Note 8 และ Redmi Note 8 Pro จะต้องถูกใจอย่างแน่นอน”

 

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

เสียวหมี่

Related Posts