MQDC ผุดโครงการแฟลกชิพใหม่ ‘The Forestias’ นิยามความสุขที่แท้จริงแบบธรรมชาติ ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เพื่อตอบสนองความเป็นอยู่แห่งอนาคต พร้อมอัปเกรดสู่เมืองอัจฉริยะเพื่อเชื่อมต่อออนไลน์ได้อย่างอิสระ บนเนื้อที่ 300 ไร่ ย่านบางนา ด้วยงบลงทุนกว่า 90,000 ล้านบาท พร้อมดึงนักออกแบบจากทั่วโลกร่วมสร้างสรรค์และออกแบบความสุขที่แท้จริงให้เกิดขึ้นภายในโครงการตลอด 24 ชั่วโมงใน 7 วัน
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นแฟลกชิพด้านอสังหาริมทรัพย์ครั้งแรกของโลก ที่ชูความสุขที่แท้จริงของธรรมชาติ ให้มาอยู่ในพื้นที่พักอาศัยด้วยแนวคิด ‘ The Forestias ‘ ซึ่งจะผสานความเป็นธรรมชาติจากผืนป่าที่เราสร้างขึ้นในสัดส่วนกว่า 45% เพื่อรักษาระบบนิเวศที่ยั่งยืน
ด้วยปัญหาของพื้นที่ป่าในปัจจุบันเหลือน้อยลง ส่งผลให้ระบบนิเวศน์มีการเปลี่ยนแปลงไป ความสมบูรร์ของธรรมชาติลดลงกว่า 12% โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งเป็นเขตร้อนชื้นมีความสมบูรณ์ลดลงกว่า 35% ซึ่งเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า สังเกตได้จากข้อตกลงในการประชุมเพิร์ทซัมมิท ที่มีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิของโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในอนาคต
ไม่เว้นแม้กระทั่งความเปลี่ยนแปลงของก้อนน้ำแข็งในขั้วโลกที่จะทำให้เกิดปริมาณน้ำจืดมหาศาล ส่งผลให้เกิดสภาวะน้ำท่วมที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นทุกปี อีกทั้งในส่วนของชั้นบรรยากาศที่ถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนที่จะกระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้คนต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน
ในขณะที่ความเป็นอยู่ของครอบครัว เริ่มมีความเหินห่างกันมากขึ้น มากกว่า 90% ของคนไทย มีการยืดติดกับเครื่องมือสื่อสารมากเกินไป และมากกว่า 20ล้านครัวเรือนของโลกมีขนาดครอบครัวที่เล็กลงมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้สภาวะครอบครัวเริ่มมีความเหินห่างมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสังคมโดยรวม
ขณะที่การเกิดขยายตัวของสังคมผู้สูงอายุ หลายๆประเทศเริ่มมีการวางแผนเพื่อรองรับการเป็นอยู่ ซึ่งบางประเทศเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้ว ทั้งในประเทศญี่ปุ่น และในยุโรป ขณะที่ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปี 2050 ซึ่งจะมีอัตราผู้สูงอายุสูงเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วันนี้เราต้องเริ่มถามกับสังคมแล้วว่า เราจะสามารถทำอะไรได้จากปัญหาที่จะเกิดขึ้นนี้ ซึ่งประชากรโลกกว่า 300 ล้านคนเริ่มประสบปัญหาโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องที่กระทบกับประชากรโลกทุก เราจึงควรหันมามองว่า ความสุขที่แท้จริง ของเรานั้นเป็นอย่างไร แน่นอนว่าความสุขของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ความสุขนั้นต้องรายล้อมไปด้วยเรืองราวรอบตัวเราเหมือนกันทุกคน
ด้วยจุดตั้งต้นของความสุขที่ยั่งยืนนั้น MQDC จึงก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ความสุขด้วยโครงการ The Forestias เพื่อคงสภาพของป่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขของการเป็นอยู่ต่อไปในอนาคต แต่จะผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวก และเชื่อมโยงการสื่อสารทั้งหมดที่มีทั้งในปัจจุบันและเตรียมการรองรับสู่อนาคต ซึ่งจะสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นเมืองอัจฉริยะที่ผสานธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
ด้านนายกิตติพันธ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC กล่าวว่า The Forestias เข้าใจดีว่าการสร้างความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้เราต้องมาศึกษาอย่างจริงจังว่าหากต้องการสร้างความสุขเป็นที่ตั้ง จะทำอย่างไรให้เกิดความสุขที่ทุกคนสัมผัสได้ สิ่งแวดล้อมแบบไหนที่ทำให้เกิดความเครียดน้อยลง ทำให้คนมีความสุขมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า ยังไม่มีใครนำองค์ความรู้ที่มีมาสร้างป่าที่มีความสุขให้เกิดขึ้นจริง โครงการนึ้จึงนับเป็นที่แรกของโลกที่จะเกิดขึ้น
ความตั้งใจของเราคือการทำให้มนุษย์ผสมผสานกับการอยู่กับธรรมชาติมากที่สุด เราเชื่อว่ามนุษย์มีความสุขเมื่ออยู่กับธรรมชาตินับตั้งแต่อดีต แต่ปัจจุบันมนุษย์เริ่มห่างหายจากธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโครงการนี้จะสร้างพื้นที่ป่าที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติจริง รวมถึงสัตว์ป่าที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์ โดยที่มนุษย์ยังสามารถเข้าไปทำกิจกรรมเพื่ออยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างแนบแน่น
ซึ่งก่อนที่เราจะเข้าไป เราได้ศึกษาระบบนิเวศน์ดั้งเดิมที่เคยมีอยู่ และเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนสัตว์ในธรรมชาติได้กว่า 500 สายพันธุ์ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า
ขณะที่การออกแบบพื้นที่การพักอาศัยกว่า 55% คิดเป็นราว 300,000 ตารางเมตร จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้กับทุกวัย เพื่อให้คนทุกเพศทุกวัยได้มีพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละวัยอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังจะมีพื้นที่ของการสร้างสรรค์กิจกรรมร่วมกันได้อย่างมีความสุข
และท้ายที่สุด เราเชื่อว่าเมื่อเรามีครอบครัวที่มีความสุข การสร้างชุมชนที่มีความสุข สนับสนุนให้คนออกมาทำกิจกรรม การออกกำลังกาย เพื่อให้เกิดเป็นชุมชนที่มีความสุข แน่นอนว่าเพื่อแก้ปัญหาการเกาะติดเครื่องมือสื่อสารในความเป็นอยู่ปัจจุบัน อีกทั้งในส่วนของการเดินยังยังสนับสนุนให้เกิดการเดินทางที่ปลอดภัย และใช้พลังงานสะอาด รวมทั้งหมดจะทำให้เกิดความสุขที่แท้จริงอย่างยั่งยืนในสังคมนี้ได้
นอกจากนี้ยังสร้างสิ่งแวดล้อม ทั้งโครงสร้างพื้นฐานรองรับความอัจฉริยะของเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้น ทั้งการขนส่งด้วยโดรน และถนนสำหรับการใช้รถไร้คนขับ โดยทั้งหมดจะรองรับการพัฒนาเมืองแห่งอนาคตที่จะเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องและตลอดไป
นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาที่เอื้อให้เกิดการดูแลรักษาที่ดี ด้วย Central Utiliyies Concept ช่วยลดพลังงงานความร้อนที่เกิดขึ้นให้มาอยู่ในจุดๆเดียว เพื่อทำให้สภาพแวดล้อมทั้งหมดเกิดความเย็น อีกทั้งยังเป็นการลดอุณภูมิลงจากปกติได้กว่าเดิม 2-3 จุด ด้วยการเพิ่มระบบน้ำที่เดินเข้าแทนที่ความร้อนภายในโครงการ
ด้วยโครงการทั้งหมดจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้กว่า 30,000 ตันต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ที่มีอายุ 10 ปีเป็นจำนวนกว่า 370,000 ต้น และองค์ความรู้ของการสร้างระบบนิเวศน์นี้ขึ้นมา จะถูกรวบรวมให้เป็น Education Center ด้านการปลูกป่า เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้มาเรียนรู้และเก็บสะสมองค์ความรู้ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมต่อไป
ทั้งนี้ โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากพาร์ทเนอร์ระดับโลก ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบและวางแผนในส่วนต่างทั้งนวัตกรรม การปลูกป่า การออกแบบอาคารระดับโลก ที่จะเข้ามาทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดแฟลกชิพด้านอสังหาริมทรัพย์ครั้งแรกของโลก โดยเชื่อว่าทำเลที่ตั้งของเราจะเป็นทำเลที่มีศักยภาพ และด้วยจำนวนพื้นที่กว่า 300 ไร่ เชื่อว่าจะสามารถสร้าวสรรค์ป่าที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วยหลากหลายโครงการที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับผู้คนทุกวัย เพื่อให้เกิดการอยู่อาศัยที่มีความสุข
ทั้งหมดเป็นการตอกย้ำความตั้งใจของบริษัท ในการดูแลรักษาพลังงานสะอาด การออกแบบที่ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม การดูแลเรื่องการศึกษา การเป็นอยู่อย่างมีความสุข เพื่อส่งเสริมให้ผู้คนมีความสุขในการอยู่อาศัย
ความโดดเด่นด้านการรักษ์สิ่งแวดล้อมและความมุ่งมั่นที่ต้องการสร้างความสุขที่แท้จริงให้เกิดขึ้นในโครงการนี้ มหาวิทยาลัย ฮาวาร์ด จึงสนใจเข้ามาเรียนรู้รายละเอียดของโครงการ เนื่องจาก ‘The Forestias’ เป็นโครงการแรกของโลกที่ลงทุนสร้างสรรค์ความสุขให้เกิดขึ้นภายใต้ธรรมชาติที่แวดล้อมอย่างเป็นกันเองมากที่สุด บนข้อถกเถียงที่เกิดขึ้นมานานว่า ‘ความสุขที่แท้จริง’ ของคนนั้นอยู่ตรงไหน