จากม้านอกสายตากลายเป็นม้าที่วิ่งเข้าเส้นชัยก่อนใครในสนามแข่ งรถยนต์ไฟฟ้า เพราะนาทีนี้ นิสสันลีฟ (Nissan LEAF) เรียกได้ว่าทันสมัยที่สุ ดและตอบโจทย์เทรนด์รถยนต์ยุคหน้ าไปเรียบร้อย
ไม่นับรวมรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ ที่คาดว่าจะนำมาใช้จริงในเมื องไทยไม่ได้ เพราะระบบคงรวนและทำงานไม่เป็ นปกติ ถ้าเรายังปล่อยให้รถจักรยานยนต์ ขี่กันตามอำเภอใจ ทำอะไรไร้กฏระเบียบและจิตสำนึ กที่ดี
นิสสันลีฟ รุ่นที่ 2 เปิดตัวและวางจำหน่ายในวันที่ 2 ตุลาคมที่ประเทศญี่ปุ่น โดยโมเดลนี้มีกำหนดการส่งมอบช่ วงเดือนมกราคมในประเทศสหรั ฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป ก่อนจะวางจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
ส่วนประเทศไทยได้นำมาโชว์กันในงานมอเตอร์เอ็กโปครั้งนี้ และที่สำคัญเตรียมทำตลาดเมื องไทยในปีหน้า ถือเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้ วยไฟฟ้ารุ่นแรกที่คนไทยจะได้สั มผัสกันแบบจริงจัง เป็นรถไร้มลพิษ 100%

นิสสันลีฟ มาพร้อมนวัตกรรม นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) ใน 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอั จฉริยะ (Intelligent Power) เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ( Intelligent Integration) แต่มาถึงเมืองไทยแล้วจะมีครบหรื อตัดอะไรออกไปบ้างต้องมาลุ้นกัน
Thereporter.asia จะขอแนะนำระบบต่างๆ ที่อัดแน่นอยู่ในรถยนต์คันนี้ เริ่มกันตั้งแต่เทคโนโลยีการขั บขี่อัจฉริยะ
ProPILOT คือเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติในช่องจราจรเดียว เมื่อเทคโนโลยีนี้ทำงาน รถจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้ าได้โดยอัตโนมัติด้วยการใช้ ความเร็วที่ผู้ขับขี่กำหนดไว้ล่ วงหน้า (ระหว่าง 30 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง)
เทคโนโลยีนี้ยังช่วยบังคับทิ ศทางและรักษาตำแหน่งอยู่กึ่ งกลางช่องจราจร เมื่อรถคันหน้าจอด ProPILOT จะสั่งการระบบเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อให้รถหยุดนิ่งเมื่อถึ งเวลาจำเป็น
เมื่อรถหยุดนิ่งแล้ว ตัวรถจะไม่เคลื่อนที่ แม้ผู้ขับขี่จะยกเท้าออกจากแป้ นเบรกก็ตาม เมื่อการจราจรเคลื่อนที่อีกครั้ ง ตัวรถจะเริ่มขับเคลื่อนไปข้ างหน้าเมื่อผู้ขับขี่กดสวิทช์อี กครั้งหรือเหยียบคันเร่งเบาๆ เพื่อให้ระบบ ProPILOT เริ่มทำงาน

ฟังก์ชั่นทั้งหมดนี้สามารถลดความกดดันขณะขับขี่ได้ อย่างมากขณะขับขี่บนถนนทางไกลทั้ งที่มีการจราจรหนาแน่นและเบาบาง
ProPILOT Park คือระบบจะช่วยเหลือผู้ขับขี่ ในการจอดรถอย่างเต็มรูปแบบ โดยควบคุมการเร่ง เบรก พวงมาลัย การเปลี่ยนเกียร์ และเบรกมือเพื่อให้ตัวรถเข้าสู่ ช่องจอดได้โดยอัตโนมัติ จากการประมวลผลภาพ
ด้วยการใช้กล้ องความละเอียดสูงจำนวน 4 ตัวและข้อมูลจากเซ็นเซอร์อั ลตราโซนิค 12 ตัวที่ติดตั้งรอบคัน ProPILOT Park จะช่วยควบคุมรถให้เข้าสู่ช่ องจอดได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำ
ระบบพวงมาลัย เบรก และคันเร่งทั้งหมดจะถูกควบคุมด้ วยระบบอัตโนมัติเพื่ อการจอดหลากหลายรูปแบบ เช่น การจอดขนานกับทางเท้า ระบบจะคำนวณพื้นที่จอดรถได้ โดยอัตโนมัติ
โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องกำหนดเป้าหมายตำแหน่งที่จอด ด้วยการสั่งการง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน
e-Pedal อุปกรณ์มาตรฐานใหม่สำหรั บยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกง่ายดายให้ ผู้ขับขี่ในการออกตัว เร่งความเร็ว ลดความเร็ว หยุดนิ่ง
และควบคุมตัวรถให้อยู่ กับที่ด้วยการใช้แป้นคันเร่งอย่ างเดียว ถือเป็นนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ ยนแปลงรูปแบบการขับขี่ได้อย่ างสิ้นเชิง เพียงยกเท้าออกจากคันเร่ง ตัวรถจะลดความเร็วจนหยุดนิ่งได้ อย่างนุ่มนวล โดยไม่จำเป็นต้องแตะแป้นเบรก
ด้วยอัตราการลดความเร็วที่ไม่ เกิน 0.2 จี จึงทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องยกเท้ าจากแป้นคันเร่งเพื่อเหยียบแป้ นเบรกบ่อยครั้งเมื่อต้ องการลดระดับความเร็วหรือหยุดรถ ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าและเพิ่ มความเพลิดเพลินในการขับขี่ นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ผู้ขั บขี่มีสมาธิมากขึ้นเมื่ออยู่ บนถนน
นอกจาก 3 ระบบดังกล่าวแล้วยังมีความปลอดภัยอีกมาก อาทิ ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่ องจราจร, ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกจากช่ องจราจร, ระบบเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบตรวจจับสัญญาณจราจร,
ระบบเตือนการจราจรตัดขวางด้ านหลัง, กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง พร้อมการตรวจจับวัตถุเคลื่อนไหว และระบบช่วยเหลือฉุกเฉินขณะเหยี ยบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้น ทันทีที่ผู้ขับขี่สตาร์ทรถ ลีฟรุ่นใหม่ จะมีการฉายภาพยนตร์แนะนำข้อมูล หน้าจอแสดงข้อมูล ผสมผสานระหว่างมาตรวัดความเร็ วแบบอนาล็อกกับหน้าจอแสดงผลแบบ multi-information

ด้านซ้าย หน้าจอสีแบบ Thin-film Transistor (TFT) ขนาด 7 นิ้ว บอกปริมาณกำลังไฟฟ้าที่ใช้ ตามการกำหนดค่ามาตรฐาน โดยคนขับสามารถเลือกแสดงข้อมู ลตามที่ต้องการ หน้าจอแสดงผลตรงกลางแบบ Flush-surface
ช่วยให้ผู้ขับขี่สะดวกต่อการเลือกระบบความบันเทิง และใช้งานระบบนำทาง สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพี ยงแค่ปลายนิ้วสัมผัส รวมทั้งแสดงให้เห็ นการทำงานของเทคโนโลยี Safety Shield ระดับการชาร์จไฟของรถ และพลังงานที่เหลืออยู่ รวมถึงระบบเสียง และข้อมูลระบบนำทาง
Nissan Connect คืออีกหนึ่งในเทคโนโลยีการเชื่ อมต่ออัจฉริยะ ที่คนขับจะสามารถค้นหาข้อมูลอั พเดตล่าสุดของสถานีชาร์จไฟฟ้าทั้ งสถานที่ตั้งหรือเวลาให้บริการ รวมทั้งสถานะว่างของสถานีชาร์จ และในระหว่างชาร์จไฟฟ้าเจ้ าของรถสามารถดูสถานะการชาร์จผ่ านสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ Apple CarPlay ได้รับการเพิ่มลงในระบบอิ นโฟเทนเมนท์ ในรถที่มีระบบนำทาง ฟังก์ชั่นเสียงที่สามารถปรั บเปลี่ยนได้ด้วยการใช้สวิตช์ บนพวงมาลัยโดยคนขับไม่ต้องยกมื อออกจากพวงมาลัย
แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนของนิสสัน ลีฟ ใหม่ได้รับการดีไซน์ให้ผู้ใช้ สามารถเรียกดูข้อมูลการชาร์ จไฟฟ้าเข้าสู่รถยนต์ กำหนดเวลาชาร์จเพื่อความคุ้มค่ าที่สุดในช่วงเวลาที่อัตราค่ าไฟฟ้าต่ำ ค้นหาตำแหน่งสถานีชาร์จไฟฟ้า และการเปิดเครื่องปรับอากาศหรื อฮีทเตอร์ไว้ล่วงหน้าก่อนขึ้นรถ
ทางด้านเครื่องยนต์นั้น นิสสันใช้เทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Nissan Intelligent Power) ด้วยระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลั งงาน พร้อมกับมีแรงบิดและพละกำลังที่ สูงขึ้น
ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้ารุ่ นใหม่มอบสมรรถนะที่ต่อเนื่อง และเร้าใจด้วยการส่งกำลังที่ 110 กิโลวัตต์ มากกว่าลีฟ เจนเนอเรชั่นก่อนหน้า 38 เปอร์เซ็นต์ มีแรงบิดเพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์เป็น 320 นิวตันเมตร ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่ดียิ่งขึ้ น
นอกจากนี้ด้วยชุดแบตเตอรี่ลิเธี ยม-ไอออนชุดใหม่ให้ระยะทางขั บเคลื่อนตามมาตรฐานของประเทศญี่ ปุ่น ที่ 400 กม.
ส่วนผู้ที่ต้องการขับขี่ลี ฟในระยะทางที่ไกลมากขึ้น นิสสันจะเปิดตัวรุ่น e+ ภายในปีหน้า โดยจะมีระยะทางขับขี่ที่ไกลยิ่ งขึ้น และมาพร้อมกับราคาที่แตกต่าง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้ าที่มีความต้องการแตกต่างกัน
ทั้งนี้แม้ว่าความจุพลังงานของแบตเตอรี่ลิเธี ยมไอออนจะเพิ่มขึ้น แต่ขนาดของแบตเตอรี่ยังคงไม่ เปลี่ยนแปลงดังนั้นห้องโดยสารจึ งรองรับผู้โดยสาร 5 คนได้อย่างสบาย
นอกจากนี้พื้นที่วางสัมภาระด้ านหลังได้รับการออกแบบใหม่เพื่ อเพิ่มพื้นที่มากขึ้น โดยมีความจุ 435 ลิตร (VDA) พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มี การเอาส่วนนูนออกมากที่สุดเท่ าที่จะเป็นไปได้ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นเพิ่ มความสะดวกสบาย
และการใช้งาน พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลั งสามารถเก็บกระเป๋าเดิ นทางขนาดใหญ่ 2 ใบ หรือกระเป๋าเดินทางขนาดกลาง หรือกระเป๋าสัมภาระพกพาขึ้นเครื่ อง 3 ใบ นอกจากนี้ยังช่วยให้จัดเก็ บสายชาร์จได้ง่ายขึ้น
สำหรับนิสสันลีฟปี 2560 รุ่นวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น (สำหรับภูมิภาคอื่นจะมี การประกาศข้อมูลเมื่อเริ่ มวางจำหน่าย) มีความยาวของตัวรถ 4,480 มิลลิเมตร ความกว้างของตัวรถ 1,790 มิลลิเมตร ความสูงของตัวรถ 1,540 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นรถ 150 มิลลิเมตร
สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.28 น้ำหนักสุทธิของรถ 1,765-1,795 กิโลกรัม แบตเตอรี่ Li-ion battery ความจุ 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง แรงม้า 110kw(150ps) ที่ 3283-9795 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 0 – 3283 รอบต่อนาที
มีระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ 400 กิโลเมตร ใช้เวลาในการชาร์จแบบปกติ 16 ชั่วโมง (3 กิโลวัตต์) 8 ชั่วโมง (6 กิโลวัตต์) และการชาร์จแบบเร็วจากระดับแจ้ งเตือนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ 40 นาที
คราวนี้ก็เหลือแต่มาลุ้นกันว่ านิสสันลีฟที่จะเข้ามาจำหน่ ายในเมืองไทย จะมีออปชันอะไรบ้าง และตัดอะไรไปบ้าง เพราะดูแล้วน่าจะตัดหลายรายการ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการขั บขี่ ที่จราจรในเมืองไทยอาจจะไม่ เหมาะกับระบบที่ไฮเทคเหล่านั้น