ส่องเทคโนโลยีปลูกกัญชาแบบไฮเทค ผ่านงาน ‘พันธุ์บุรีรัมย์’

ส่องเทคโนโลยีปลูกกัญชาแบบไฮเทค ผ่านงาน ‘พันธุ์บุรีรัมย์’

ความครบครับของงาน ‘พันธุ์บุรีรัมย์’ ที่นอกจากจะส่งเสริมความรู้ทางการรักษาแล้ว การแสดงเทคโนโลยีการปลูกก็เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย โดยงานนี้ TheReporter.Asia จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเทคโนโลยีการปลูกที่ลงลึกไปถึงช่วงความถี่ของแสงที่เหมาะสม

อีกทั้งยังมีกระบวนการควบคุมการปลูกแบบสมาร์ทฟาร์ม เพื่อสร้างผลกำไรในระยะยาวในระดับการลงทุนจริงจัง แน่นอนว่ากระบวนการเหล่านี้อาจจะเหมาะกับนักลงทุนเท่านั้น เนื่องจากต้องใช้ต้นทุนที่สูง

ซึ่งจากการเดินสำรวจของเรา เทคโนโลยีแรกที่เห็นเป็นในส่วนของการปลูกด้วยระบบไร้ดิน โดยเป็นการปลูกที่ควบคุมทั้งระบบการให้แสง การให้ปุ๋ยน้ำ ตลอดจนการควบคุมสภาพอากาศแวดล้อมที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด

รวมถึงการให้ลมอ่อนๆ เพื่อพัดต้นกัญชา เลียนแบบสภาพอากาศจริงด้วย ส่วนนี้ใช้ต้นทุนที่ไม่สูงมากนัก ยังมีราคาหลักหมื่นถึงหลักแสนเท่านั้น

พันธุ์บุรีรัมย์

ขณะที่เทคโนโลยีการสร้างโรงเรือนมีทั้งแบบ โรงเรียนขนาดเล็กที่มีการใช้ผ้าในสะท้อนแสง พลาสติกใส ซึ่งในส่วนของโครงสร้างมีทั้งแบบท่อพีวีซี โครงสร้างเหล็ก และโครงสร้างสแตนเลส ตามการออกแบบของแต่ละยี่ห้อ เพื่อตอบโจทย์การปลูกแบบภายในห้องปิด (Indoor)ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ตามปริมาณการผลิตที่ต้องการ

ในส่วนของระบบการให้แสงนั้นต้องบอกก่อนว่า นอกจากแสงนีออนสีต่างๆที่ติดตั้งในโรงเรือนแล้ว ยังมีในส่วนของเครื่องมือตรวจวัดค่าแสงเพื่อควบคุมปริมาณความถี่แสงที่เหมาะสมกับการปลูกมากที่สุด

พันธุ์บุรีรัมย์

โดยข้อมูลจากผู้ขายระบุว่า ช่วงแสงที่เหมาะสมเป็นช่วงแสงสีน้ำเพื่อเร่งการเติบโตของใบ และแสงสีแดงเพื่อเร่งการเติบโตของดอก ซึ่งเครื่องที่จัดแสดงภายในงานมีความสามารถในการบอกค่าต่างๆอย่างละเอียด และมีสนนราคาที่หาซื้อได้เกือบ 2 หมื่นบาท

ในส่วนของสมาร์ทฟาร์มนั้น มีโมเดลการจำลองการทำฟาร์มขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่การทำไร่กันชาขนาด 1 ไร่ ภายใต้ระบบการควบคุมสภาพอากาศ ความชื้น ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำและดิน ตลอดจนการควบคุมปริมาณแสง ระบบการให้น้ำและเพิ่มความชื้น

พันธุ์บุรีรัมย์

เพื่อวางแผนให้พืชเจริญเติบโตได้ตามที่วางไว้แบบอัตโนมัติ ผ่านเทคโนโลยีโซลูชั่น IoT ซึ่งระบบดังกล่าวมีสนนราคาค่าตัวอยู่ที่ราว 40 ล้านบาท รองรับการผลิตได้ราว 30 ตันต่อปี ระยะเวลาคุ้มทุนราว 3.2 ปี

ขณะที่หากต้องการใช้ระบบไฟฟ้าแสงอาทิตย์ (Solar Cell)ซึ่งจะครอบคลุมการใช้งานแสงแอลอีดีตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบการผลิตไฟฟ้าจากแสงแดดและระบบสำรองไฟที่เพียงพอ ครอบคลุมพื้นที่ขนาด 1 ไร่ (400 ตารางวา) จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอยู่ราว 25-30 ล้านบาท เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดต้นทุนค่าไฟฟ้าหรือพื้นที่โรงเรือนห่างไกลไฟฟ้า

พันธุ์บุรีรัมย์

นอกจากนี้ในส่วนของโซลูชั่นการควบคุมระบบสมาร์ทฟาร์มทั้งโครงการนั้น มีการเรียกใช้งานบิ๊กดาต้า เพื่อวางแผนการผลิตที่ถูกต้องผ่านข้อมูลอย่างเป็นระบบ ช่วยยกระดับการผลิตด้วยต้นทุนที่ควบคุมได้

และส่งต่อให้ผู้ซื้ออย่างมีขั้นตอนด้วยระยะเวลาที่ชัดเจน ซึ่งระบบจะแสดงผลเป็นอินเตอร์เฟซบนแดชบอร์ดผ่านอุปกรณ์ที่ต้องการ ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและเครื่องพีซี อย่างชัดเจน

โดยข้อมูลครอบคลุมความต้องการกัญชารายจังหวัด เปรียบเทียบปริมาณการปลูกแบบรายจังหวัด วิเคราะห์ราคาตลาดกัญชารายพื้นที่ ซึ่งแสดงผลทั้งแบบกราฟเส้นและกราฟแท่ง พร้อมตัวเลขอย่างสวยงาม

พันธุ์บุรีรัมย์

อีกทั้งยังมีการเปรียบเทียบผลผลิตต่อไร่ของแต่ละพื้นที่ ข้อมูลเปรียบเทียบการปลูกแต่ละวิธีที่แตกต่างกัน รวมทั้งปริมาณการเก็บเกี่ยวของแต่ละพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อนำมาวางแผนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นับเป็นการนำเทคโนโลยีการเกษตรแนวใหม่ มาปรับใช้กับพืชที่ให้ราคาต่อการผลิตสูง จึงจำเป็นที่จะต้องใช้การดูแลเป็นพิเศษเพื่อสร้างมูลค่าให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดโดยไม่เสียเวลา

และยังเป็นการควบคุมการปนเปื้อนสารเคมีที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการนำไปผลิตเป็นยารักษาโลกอย่างพืชกัญชา ตามเจตนาของการปลดล็อกออกจากความเป็นสารเสพติดของงาน ‘พันธุ์บุรีรัมย์’ ครั้งนี้นั่นเอง

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

พันธุ์บุรีรัมย์

Related Posts