อเมซอน แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลก ปักหมุดประเทศไทยเปิดสำนักงานหน่วยธุรกิจ เร่งดันคนไทยค้าขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ดันสินค้าคุณภาพสู่ตลาดโลกผ่านแพลตฟอร์มอีมาเก็ตเพรสในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก 27 ภาษา ผุดโครงการอบรมฟรี ‘จัมพ์สตาร์ท’ เร่งความรู้การค้าออนไลน์ระหว่างประเทศให้ผู้ประกอบการไทย
นายเลอร์นาร์ด เทย์ ผู้อำนวยการ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า วันนี้ปัจจัยของการเข้ามาตั้งทีมในประเทศไทย เนื่องจากฐานการผลิตที่แข็งแกร่งของประเทศไทย ที่มีศักยภาพในการเป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลกได้
อีกทั้งประสบการณ์การส่งออกจำนวนมาก และ นโยบายการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ดิจิทัลทั้งประเทศ ทำให้ประเทศไทย มีโอกาสมากในการก้าวเข้าสูตลาดอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศได้
แต่กระนั้นกระแสการตื่นตัวยังอยู่ในกรอบที่จำกัด ผู้ประกอบการหลายรายยังขาดความรู้และความเข้าใจ ตลอจนวิธีการที่จะส้รางตลาดได้ ซึ่งอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง จะเข้ามาเติมเต็มส่วนนี้ได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
เราเข้ามาในประเทศไทย ด้วยความเป็นหนึ่งในหน่วยธุรกิจของอเมซอน ที่พุ่งเป้าไปที่สร้างผู้ประกอบการให้สามารถค้าขายอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศได้ ด้วยการจัดตั้งทีมขึ้นในประเทศไทย เพื่อทำให้ผู้ประกอบการไทยเริ่มต้นขายบนอเมซอนในทุกขั้นตอนได้อย่างประสบความสำเร็จ
อีกทั้งยังให้ความรู้จากประสบการณ์ขายสินค้าของทั่วโลก มาย่อยข้อมูลให้คนไทยได้เข้าใจง่ายและสามารถค้าขายได้อย่างคล่องตัว และที่สำคัญเรายังจะเป็นผู้ช่วยในกระบวนการส่งออกตลอดทุกขั้นตอนที่ยุ่งยาก โดยมุ่งหวังว่าจะกลายเป็น One Stop Sevices ของการทำการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศให้กับผู้ค้าชาวไทยได้
จริงๆแล้วขั้นตอนผิวเผินของการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศจะคล้ายๆกัน แต่ในรายละเอียดทั้งขั้นตอนการสมัคร พฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ การตัดสินใจซื้อ การทำขั้นตอนการส่งออก การจัดการโลจิสติกส์ ซึ่งอเมซอน ก็มีบริการโกดังในแต่พื้นที่ เพื่อให้เกิดการจำหน่ายที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นยังมีการทำส่วนงานบริการลูกค้า ที่จะคอยตอบคำถามต่างๆจากลูกค้า ด้วยโซนเวลาที่แตกต่างกัน ผ่านระบบ FBA(Fullfillment by Amazon)
ทั้งนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สัดส่วนผู้ประกอยการรายย่อยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความตั้งใจในการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตบนแพลตฟอร์มอเมซอน
ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในปัจจุบันแล้วกว่า 58% ซึ่งมีผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 2 แสนรายที่ทำยอดขายได้มากกว่า 1 แสนเหรียญต่อปี และมีจำนวนเพิ่มขึ้นขึ้นทุกปีมากกว่า 20% และสินค้ากว่า 50% ที่ขายบนอเมซอนเป็นสินค้าของผู้ประกอบการรายย่อย
ขณะที่ผู้ประกอบการไทยที่ประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มอเมซอน ภายใต้แบรนด์ Wilkins Cleanser หรือจะเป็นแบรนด์แฟชั่นอย่าง Viris Zamara ซึ่งใช้บริการ FBA ของอเมซอนในการจัดการ ช่วยให้ปลดล็อคตลาดแฟชั่นที่ต้องจัดการเรื่องการเปลี่ยน/คืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้โครงการผลักดันของอเมซอนล่าสุด เริ่มเกิดขึ้นก่อนที่จะเปิดสำนักงาน ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย อีกทั้งยังมีการจัดคอร์สจัมพ์สตาร์ทแบบห้องเรียนฟรี เพื่อสร้างให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าใจในขั้นตอนการส่งออกบนแพลตฟอร์มอเมซอนได้ โดยสามารถรองรับผู้เข้าร่วมอบรมได้ราว 100 คน/ครั้ง
ขณะที่สินค้าของประเทศไทย ที่คาดว่าจะสามารถทำตลาดในอเมริกาได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นจุดแข่งของสินค้าไทยที่น่าจะทำได้ดีด้วยนั้น จะอยู่ในกลุ่ม 1.เสื้อผ้าแฟชั่น 2.บ้านและตกแต่ง 3.สินค้าสัตว์เลี้ยง 4.เครื่องกีฬา และสุดท้าย 5.กลุ่มของเล่น มีโอกาสอย่างมากที่จะทำตลาดระหว่างประเทศได้ประสบความสำเร็จ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
