แกะรอยความลับเจนซี ผ่านวันเดอร์แมน ธอมสัน

แกะรอยความลับเจนซี ผ่านวันเดอร์แมน ธอมสัน
เจนซี
ภูวดล ธาราศิลป์ Director of Digital + CRM บริษัท วันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย

กลุ่มเจนซี(อายุ 13-23ปี) คิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรโลกในวันนี้ แม้ว่ายังเด็กและเป็นวันรุ่นที่มีกำลังซื้อที่น้อยอยู่ แต่ก็มีความเร็วในการประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ความท้าทายแบรนด์ว่าจะทำอย่างไรให้มาเก็ตติ้งเข้าใจเด็กกลุ่มนี้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการครองใจของแบรนด์ในอนาคต เป็นสิ่งที่เราอยากให้ทุกคนเข้าใจภาพในมุมมองของเจนซีมากยิ่งขึ้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 หมวดที่สำคัญ ทั้งในส่วนพฤติกรรม นิสัย การใช้ชีวิต การแต่งกาย การทำงาน การเงิน สุขภาพ เทรนด์การบริโภค และความนิยมชมชอบต่างจากกลุ่มอินฟูเรนเซอร์

โดยในเบื้องต้นนั้นกลุ่มคนเจนซี 9 ใน 10 มีความคิดว่าเขามีการใช้เวลาอยู่กับสมาร์ทโฟนมากเกิน นอกจากนี้ยังเข้าใจความเสี่ยงในการโพสต์บนโลกออนไลน์ ซึ่งก่อนโพสต์ทุกครั้งกลุ่มคนเหล่านี้จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วน อีกทั้งแต่ละคนยังมีบัญชีที่มากกว่า 1 บัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าถึงของครอบครัว

ขณะที่ 85% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มีการเข้าถึงข่าวสารผ่านโซเขียลมีเดีย ซึ่งจะเห็นได้ว่าการใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ธรรมดาของชีวิตเท่านั้น ทำให้กลุ่มเจนซีเป็นกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีอย่างมีเหตุมีผล และให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยมากกว่ากลุ่มอื่นๆ

สิ่งที่เราต้องเข้าใจคือวิธีการเสพคอนเทนต์ของกลุ่มเจนซี ที่จะแตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ ซึ่งจะต้องมีเป้าหมายในการเล่าเรื่องที่ชัดเจน และทำคอนเทนต์ให้ตรงกับแพลตฟอร์ม บนความต้องการของเจนซีที่แตกต่างกัน

นอกจากนี้ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ก็ยังเป็นสิ่งที่กลุ่มคนเหล่านี้ให้ความกังวลมากที่สุด โดยกว่า 43% มีความกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และ 38% ให้ความกังวลกับเรื่องของภัยธรรมชาติ ขณะที่อีก 33% ให้ความกังวลกับภาวะวิกฤติของโลกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

โดยกลุ่มเจนซี ไม่กลัวที่จะออกความคิดเห็น และจะลงมือทำในสิ่งที่คิดทันที เพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่คิด ยกตัวอย่างเช่นน้องลินลี่เมื่อเดินทางไปที่ชายหาดแล้วเห็นความสกปรก ซึ่งทำให้สิ่งที่คิดแตกต่างจากภาพที่เห็น ทำให้เมื่อกลับมาแล้วก็เกิดความพยายามที่จะทำให้รัฐบาลหรือผู้บริหารประเทศ ลดเลิกการใช้ถุงพลาสติกที่จะกลายเป็นขยะในที่สุด ซึ่งเป็นความพยายามที่ทำอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่ฟังไม่ใช่ว่าน้องลินลี่พูดอะไร แต่ฟังเพราะน้องทำให้เห็นเลยว่าจะทำให้ลดการใช้ถุงพลาสติกอย่างไร

อย่างไรก็ตามกลุ่มเจนซีก็ยังคงต้องให้ความสำคัญกับแบรนด์ แต่จะต้องเป็นแบรนด์ที่ให้คุณค่ากับโลกใบนี้ ขณะที่มุมมองของกลุ่มนี้ไม่มีความเหลื่อมล้ำทางเพศอีกต่อไป ทุกคนมีความเสมอภาค และมองว่าทุกคนสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้อย่างเท่าเทียม

มุมมองความสำเร็จของคนกลุ่มนี้ ไม่ใช่เรื่องของความรวย แต่เป็น ‘ความสุข’ ซึ่งเมื่อเทียบกับการรวยแล้วมีเพียง 60% ต่อ 40% เท่านั้นที่ยังต้องการรวยอยู่

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับคนกลุ่มเจนซีก็คือ คนกลุ่มนี้ไม่กลัวล้มเหลว แต่เชื่อว่า ‘ความล้มเหลว’ จะเป็นบรรไดที่ทำให้เขาสามารถทำงานที่รักได้ดียิ่งขึ้น เมื่อก้าวข้ามผ่านความล้มเหลวนั้นๆ ได้สำเร็จ

แน่นอนว่าสิ่งที่เราเห็นว่าเจนซีต่างจากเจนอื่นๆ คือ ความสำเร็จที่แตกต่างกัน โดยเขาจะไม่รอว่าจะต้องทำเมื่อใด แต่เมื่อเขารู้ว่าสิ่งที่รักคืออะไร เขาจะวิ่งเข้าหาทันที เพื่อทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มเจนซีประสบความสบความสำเร็จเร็วกว่าเจนอื่นๆ เป็นอย่างมาก และนั่นทำให้แบรนด์ต้องรีบคว้าความเชื่อมโยงและการรับรู้กับคนกลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น

เจนซี
ชญาน์นันท์ เจริญสุข ศิริภาธร Senior Regional Planner บริษัท วันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย

และวันนี้เมื่อเรามองถึงการสื่อสารของแบรนด์ แบรนด์อาจจะต้องสื่อสารกับกลุ่มเจนซี เพื่อทำบอกให้กลุ่มคนเหล่านี้รู้ว่าจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร แทนการบอกว่าแบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างไร

ในส่วนของการเงินของเจนซี จะมีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น โดยมีการแบ่งสัดส่วนของเงินและวางแผนทางการเงินที่ชัดเจน ซึ่งจากการสำรวจพบว่ากว่า 70% มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และยังไม่หยุดที่จะหาความรู้เพิ่มเติม โดย 93% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นกลุ่มเจนซีในไทย ระบุว่าต้องการศึกษาความรู้ทางการเงินมากขึ้น มากกว่าจำนวนของเจนซีในเอเชียแปซิฟิกที่มีเพียง 83% เท่านั้น

และข้อมูลส่วนหนึ่งทำให้เรารู้ว่า วันนี้แบรนด์การลงทุน ไม่จำเป็นต้องเป็นธนาคารอีกต่อไป แต่เป็นอะไรก็ได้ที่สามารถให้ความรู้เรื่องของการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในส่วนของสุขภาพนั้น กลุ่มคนกว่า 83% มีการอ่านฉลากโภชนาการมากขึ้น โดย 80% มีความใส่ใจในส่วนประกอบของอาหารมากขึ้น ซึ่งกลุ่มคนเจนซีต้องการมีรูปร่างภายนอกที่ดีด้วย นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญไปถึงเรื่องสุขภาพจิตภายใน โดย 92% ของจำนวนนี้เริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาสุขภาพจิตมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของเทรนด์สินค้าคอนซูเมอร์ ซึ่งจะต้องมีจุดยืนและมีความเป็นตัวตนของตัวเองสูงตามแบบฉบับของคนกลุ่มเจนซี โดยของใช้ทุกอย่างจะบ่งบอกความเป็นตัวตนของกลุ่มคนเจนซีที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราจะพบว่าอย่างน้อยจะต้องมีสินค้าแบรนด์เนม 1 อย่างที่แสดงความเท่ห์ หรือเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตนเอง

โดยสินค้าจะต้องเป็นของใหม่ ของแบรนด์ และราคาไม่แรงเกินไป ซึ่งจะเริ่มเข้าไปร้านและกลับไปที่ออนไลน์ เพื่อกลับไปซื้อในช่องทางที่ราคาดีที่สุด และจ่ายได้สะดวกสบาย โดย 84% ชอบการจ่ายผ่านวอลเล็ต และ 86% ยังต้องการความสะดวกสบายในการจ่ายเงินบนระบบที่สมบูรณ์

ทั้งนี้แบรนด์จะต้องแสดงรสนิยมที่ตรงกันกับกลุ่มเจนซี โดยทุกวันนี้เจนซีจะฟังกลุ่มอินฟูเรนเซอร์ ที่เปิดกว้างและรับฟังแต่ไม่ได้เชื่อถือทั้งหมด และไม่ได้มองว่าอินฟูเรนเซอร์เป็นฮีโร่ของพวกเขา แต่กลุ่มเจนซีกว่า 41% มองคนในครอบครัวเป็นฮีโร่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะเชื่อถือ

การรับรู้เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้กลุ่มเจนซีซื้อของได้ แต่ต้องมีการเลือกใช้อินฟูเรนเซอร์ที่แตกต่างกันในแต่ละส่วน ซึ่งกลุ่มเจนซี จะเลือกเชื่อในแต่ละอย่างที่แตกต่างกัน

ทั้งหมดนี้กลุ่มเจนซีค่อนข้างที่จะเปิดกว้าง และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ประสบความสำเร็จ(ความสุข)ในชีวิต ซึ่งเมื่อมีความกังวลในเรื่องของภัยธรรมชาติแล้ว จึงทำให้กลุ่มคนเจนซีเริ่มเก็บเงินเร็ว และรักสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้สนใจเรื่องของสินค้าสุขภาพพรีเมี่ยม โดยจะยอมฟังครอบครัวและเพื่อนในส่วนของสุขภาพมากขึ้น และแม้ว่าจะเป็นคนติดดินแต่ก็ยังชอบของแบรนด์เนม

และเนื่องจากกลุ่มเจนซีเป็นคนดิจิทัล 100% แบรนด์จะต้องกลับมาดูว่าจะส่งแวลลูให้กับคนกลุ่มนี้ได้อย่างไร ทั้งในเรื่องของความสุข การรักษ์โลก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเจนซีได้อย่างสมบูรณ์ โดยที่ต้องไม่สับสนเรื่องของแบรนด์แวลลูที่แบรนด์ต้องการให้กลุ่มคนเหล่านี้รับรู้

แบรนด์ต้องเข้าใจกลุ่มคนเจนซีจริงๆ และอย่างลึกซึ้ง โดยต้องคำนึงว่าแมสเซสที่แบรนด์จะสื่อนั้นเป็นความต้องการรับรู้ของกลุ่มเจนซีจริงหรือไม่ ซึ่งแท้จริงแล้วกลุ่มเจนซีมีความกังวลในสภาพความเป็นไปของโลกมากกว่ากลุ่มเจนอื่นๆ และที่สำคัญกลุ่มเจนซีของประเทศไทย ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่ากลุ่มเจนซีของประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก

ปัจจุบันกลุ่มคนเจนซียังเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ แต่ก็เป็นกลุ่มคนที่จะเป็นกำลังสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และจะมีผลกระทบที่เป็นกำลังซื้อที่สำคัญในอนาคต และสร้างความเกี่ยวข้องที่ตรงความรู้สึกของกลุ่มคนเจนซีมากยิ่งขึ้น

Related Posts