
แม็คโคร ผุดไอเดีย ” คนไทยใจบุญ ” สร้างความเชื่อมั่นในการบริจาคและเพิ่มความสะดวก สอดรับพฤติกรรมใหม่ที่ผู้คนเริ่มหันมาซื้อของบริจาคมากขึ้น โดยจับมือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สร้างแพลตฟอร์มการสั่งซื้อสินค้าบริจาคผ่านระบบออนไลน์และช่องทางการสั่งซื้อปกติ เพื่อจัดชุดสินค้าที่ตรงตามความต้องการของสถานสงเคราะห์ผ่านระบบออนไลน์ที่สะดวกและรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความสะดวกกับการบริจาคมากยิ่งขึ้น
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันนี้แม็คโครมีลูกค้าอยู่ที่ราว 3 ล้านราย ซึ่งในช่วงวิกฤติโควิด-19 นี้ เราพบว่า มี 5 พฤติกรรมใหม่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของ 1. ผู้คนใส่ใจความสะอาดมากขึ้น 2. ป้องกันและใส่ใจตัวเองมากขึ้น 3. คนอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้เกิดกิจกรรมหลายๆอย่างมากขึ้นภายในบ้าน ทั้งทำอาหาร ปลูกต้นไม้ 4.คนใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น และ 5.คนบริจาคมากขึ้น จากการที่พบเห็นคนเดือดร้อนในช่วงวิกฤติมากขึ้นนั่นเอง โดยข้อมูลจากธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่ามีค่าใช้จ่ายของการบริจาคของครัวเรือนถึง 96% โดยมีเม็ดเงินการบริจาคทั้งปีกว่า 1.3 แสนล้านบาท
ที่ผ่านมาเราเห็นว่า หลายหน่วยงานเริ่มมีการบริจาคมากขึ้น เริ่มเห็นการบริษัทเริ่มแบ่งปันสู่สังคม ทุกเดือน ทุกไตรมาส และจากช่วงโควิด-19 สถานสงเคราะห์ เริ่มมีคนเดินทางเข้าไปบริจาคน้อยลง ทำให้ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นปัจจัยแรกของผลกระทบที่อาจจะต้องได้รับการช่วยเหลือมากขึ้น
วันนี้แม็คโครเองได้ต้อนรับผู้บริโภคเอนยูสเซอร์ที่นำไปใช้ในครัวเรือนมากขึ้น และพบว่าเอนยูสเซอร์เริ่มมีการซื้อในปริมาณที่มากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มน้ำดื่ม ผ้าอ้อม และกลุ่มอาหารสำเร็จรูป ซึ่งเมื่อสอบถามก็พบว่ามีการซื้อเพื่อนำไปบริจาค ทำให้เราเกิดไอเดียในการช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อบริจาค จึงเกิดเป็นโครงการ ” คนไทยใจบุญ ” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการแบ่งปัน

นายวิรัติ วงศ์พรภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายแม็คโคร 4.0 กล่าวว่า โครงการ คนไทยใจบุญ เป็นการเริ่มต้นนับตั้งแต่วิกฤตโควิด-19 เพื่อช่วยให้ผู้ที่ต้องการบริจาค เข้าใจในความต้องการรับบริจาคของสถานสงเคราะห์ที่แตกต่างกัน ช่วยให้ผู้บริจาคเข้าถึงสถานที่ที่ต้องการบริจาคได้ง่ายขึ้น
จากโจทย์ดังกล่าว เมื่อเรากลับมาดูที่กลยุทธ์ของเรา แม็คโครมีช่องทางการขายและบริการที่ครบทั้งในส่วนออนไลน์ การจัดส่ง การโทรสั่งซื้อ หรือเดินเข้ามาสโตร์ ซึ่งจะช่วยเสริมให้การบริจาคมีความสะดวกมากขึ้น ในส่วนกลยุทธ์ที่ 2 เมื่อเจาะลึกในพฤติกรรมการซื้อ เราพบว่ามีพฤติกรรมบางอย่างที่เปลี่ยนไป โดยเราเห็นคนบางกลุ่มต้องการแสดงออกในการแบ่งปัน อยากช่วยเหลือ อยากส่งต่อความรักไปสู่ผู้อื่น
และในส่วนของประสบการณ์การบริจาค เราจะช่วยส่งเสริมให้ผู้บริจาคได้เข้าใจในความต้องการที่ถูกต้องของสถานสงเคราะห์นั้น ๆ ได้อย่างถูกต้อง แต่เดิมที่ผู้บริจาคไม่คุ้นเคย และไม่รู้ว่าจะต้องซื้ออะไร อะไรคือสิ่งที่สถานสงเคราะห์นั้น ๆ ต้องการ ทำให้เราสร้างโครงการ คนไทยใจบุญ ขึ้นมา โดยร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มองเห็นปัญหาในทิศทางเดียวกัน จากวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยตอบโจทย์ทั้งผู้บริจาคและผู้รับบริจาคได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งจะเห็นว่า ในชุดบริจาคที่เราจัดสินค้าให้ จะแสดงราคาที่ชัดเจนทั้งกลุ่มความต้องการที่ตรงกัน เช่นชุดเครื่องเขียน ชุดเสบียง ชุดฆ่าเชื้อ ทำให้สะดวกในการเลือกซื้อบริจาค
วันนี้เราอยากให้เกิดคุณค่าใน 4 ส่วนที่สำคัญ คือ 1.การมีส่วนร่วมของทั้งผู้บริจาคและสถานสงเคราะห์ กระทรวงฯและแม็คโครเองจะประสานร่วมกัน 2 ความน่าเชื่อถือที่เราพยายามจะทำให้เกิดขึ้น เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในการบริจาคในอนาคต 3.การสร้างคุณค่าในการบริจาคสินค้าที่ตรงความต้องการมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดคุณค่าที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเปาะบางของประเทศไทยได้ 4 การขยายฐานของู้ที่ต้องการบริจาคได้มากยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ซื้อไม่ต้องเข้าไปซื้อสินค้าบริจาคกันหนาแน่นในสโตร์ สามารถสั่งซื้อผ่านการโทรหรือออนไลน์ได้อย่างสะดวก
โดยปัจจุบันจะมีสถานสงเคราะห์ ภายใต้ความดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กว่า 10 แห่งในกรุงเทพและปริมณฑลให้เลือกบริจาค และคาดว่าจะมีการเพิ่มอีกราว 13 แห่งเพื่อให้ครบ 23 แห่งและจะขยายให้ครบ 60 แห่งภายในปีนี้ ซึ่งในอนาคตจะมีการร่วมกับกลุ่มสถานสงเคราะห์ในต่างจังหวัด อีกกว่า 150 แห่งทั่วประเทศต่อไป
เราเริ่มทำโครงการ คนไทยใจบุญ นี้มาแล้วกว่า 1 เดือน ซึ่งก็มีผู้เข้ามาบริจาคมากขึ้น โดยสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเข้าไป เพื่อดูว่าสถานสงเคราะห์ไหน มีชุดบริจาคอะไรบ้างที่เหมาะกับสถานที่นั้น แล้วทำการกดสั่งได้อย่างสะดวก แล้วผู้บริจาคก็สามารถเดินทางไปที่สถานสงเคราะห์ที่เลือก เพื่อทำการส่งมอบของที่ส่งให้สถานที่นั้น ๆต่อไป
ซึ่งหากผู้บริจาคไม่สะดวก สามารถให้ทางแม็คโครทำการส่งมอบให้กับสถานสงเคราะห์นั้น ๆ ได้เลย นอกจากนี้ภายใน 15 วัน สถานสงเคราะห์นั้นจะมีเอกสารขอบคุณ เพื่อยืนยันการส่งมอบให้กับลูกค้า นับเป็นการสร้างคุณค่าให้กับการบริจาคให้เกิดความน่าเชื่อถือ ผ่านการคัดกรองของแม็คโครและกระทรวง พม. ที่ดียิ่งขึ้น
เราพยายามสร้างช่องทางการบริจาคที่ตรงกับความต้องการ ซึ่งในวันนี้เรายึด กระทรวง พม. เป็นหลักในการตอบโจทย์ความต้องการบริจาคเป็นหลัก ซึ่งก็จะมีการขยายครอบคลุมพื้นที่การบริการในนส่วนของบริจาคที่มีประสิทธิภาพต่อไป
ปัจจุบัน แม็คโครเปิดให้บริการแล้ว 134 สาขาในประเทศไทย โดยในปี 2563 เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 2 สาขา ได้แก่ สาขาอมตะ จังหวัดชลบุรี และ สาขารามอินทรา กม.4 และเมื่อปี 2562 มีการเปิดสาขาเพิ่มในประเทศพม่า 1 สาขา
#คนไทยใจบุญ #konthaijaiboon