รีวิว : Fitbit Versa 3 ครบเครื่องเรื่องความฟิต

รีวิว : Fitbit Versa 3 ครบเครื่องเรื่องความฟิต

Fitbit Versa 3

ใครที่มองหาสมาร์ทวอทช์ที่จัดเต็มฟีเจอร์สายสุขภาพ สายฟิตเนส และความสะดวกการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน ไม่ควรพลาด Fitbit Versa 3 สมาร์ทวอทช์ใหม่ของค่าย Fitbit ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ได้อัปความสามารถเพิ่มเติมจาก Fitbit Versa 2 ขึ้นมาหลายขุม

ดีไซน์

เริ่มจากดีไซน์ของ Fitbit Versa 3 กันก่อน มีความคล้ายคลึงกับ Fitbit Versa 2 มากๆ เรียกได้แทบไม่แตกต่างกันถ้ามองผ่านๆ โดยมีหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 1.58 นิ้ว ความละเอียดจอภาพอยู่ที่ 336 x 336 พิกเซล เพิ่มขึ้นจากรุ่น Versa 2 ที่มีจอภาพขนาด 1.34 นิ้ว 300 x 300 พิกเซล ระบบใช้งานเป็นแบบสัมผัสที่เรียกว่า Multi-Touch ซึ่งถือว่า ตอบสนองได้ดีตามสไตล์ของสมาร์ทวอทช์

Fitbit Versa 3

โดยมีสายซิลิโคนแบบใหม่ Infinity Band ที่ออกแบบดูเรียบง่าย มีให้เลือก 3 สี Black, Pink Clay และ Midnight ด้วยสายซิลิโคนแบบใหม่ทำให้สามารถใส่ไว้ได้ตลอดทั้งวัน แม้กระทั่งใส่นอนได้เลยไม่มีความรู้สึกว่า มีอะไรติดที่ข้อมือ มาพร้อมกับระบบกันน้ำที่ 5 ATM

ระบบชาร์จแบตเตอรี่ ทาง Fitbit ได้ปรับระบบชาร์จใหม่เป็นแบบแม็กเนคติกแบบใหม่ที่ใช้ในรุ่น Fitbit Sense ด้วยที่ออกมาพร้อมกัน สามารถ Fast Charging ครั้งเดียวประมาณสิบกว่านาทีก็เต็ม 100% สามารถใช้งานได้ถึง 6 วัน

Fitbit Versa 3

Fitbit Versa 3 เติมความคล่องตัวในการใช้งานกับสมาร์ทโฟน ด้วยการใส่ลำโพงและไมโครโฟนไว้ในตัวเครื่องมาเรียบร้อย ทำให้สามารถใช้งานระบบสั่งงานด้วยเสียงอย่าง Google Assistant และ Amazon Alexa ได้ หลังจากที่ทดลองใช้งานถือว่า ทำงานได้ดี เพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้ดีถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบใช้ฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียง

Fitbit Versa 3

Fitbit Versa 3 key features

  1. ทำงานร่วมกับแอนดรอยด์และไอโฟน
  2. ตามติดการขยับร่างกายและการนอน ตลอด 24 ชั่วโมง
  3. รองรับสั่งการด้วยเสียง Alexa smart voice assistant
  4. ติดดั้ง GPS ในตัวเครื่อง
  5. รองรับการวัดคลื่นหัวใจแบบ PurePulse 2.0
  6. รองรับการเปิดหน้าจอตลอดเวลา
  7. กันน้ำลุก 50 เมตร
  8. แบตเตอนรี่อยู่ได้นานกว่า 6 วัน

Fitbit Versa 3

สเปก Fitbit Versa 3

ขนาด

  1. ยาว 1.59 นิ้ว x กว้าง 1.59 นิ้ว xสูง 0.49 นิ้ว

Sensors & Components

  1. ระบบ GPS + GLONASS
  2. ระบบวัดค่า 3-axis accelerometer
  3. ระบบวัดความสูง Altimeter
  4. รองรับ Wi-Fi (802.11b/g/n 2.4GHz), NFC
  5. ระบบเซ็นเซอร์วัดแสงโดยรอบ
  6. ไมโครโฟน พร้อมลำโพงในตัว
  7. ระบบสั่น
  8. ระบบวัดอัตราการสูบฉีดเลือดแบบแสง
  9. ระบบวัดอุณหภูมิร่างกายจากผิวหนัง

Battery & Power

  1. อายุแบตเตอรี่ นานกว่า 6 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  2. ชนิดแบตเตอรี่ ลิเธียมพอลิเมอร์: Lithium-polymer
  3. ระยะเวลาการชาร์จ : (10-80%): ชาร์จเฉลี่ย 40 นาที
  4. ชาร์จเร็ว: ชาร์จ 40 นาที อยู่ได้นาน 1 วัน
  5. ระบบ Bluetooth® 5.0

Memory

  • เก็บข้อมูลกิจกรรมลงตัวเครื่องได้นานกว่า 7 วัน

ฟีเจอร์ใหม่

จุดเด่นของ Fitbit Versa 3 ที่น่าสนใจก็คือทาง Fitbit ได้ใส่ระบบ GPS ในตัวเครื่องมาให้เรียบร้อย เป็นฟีเจอร์ที่ถูกถามหามานาน ทำให้สามารถตรวจสอบการออกกำลังกายได้แม่นยำขึ้น สามารถดูจำนวนก้าว ระยะทางได้ทันที่ผ่านทางแอปพลิเคชั่นของ Fitbit จากที่ทดลองใช้ถือว่าทำงานใช้ได้เลย

Fitbit Versa 3

อีกจุดหนึ่งที่ Fitbit Versa 3 ปรับปรุงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ระบบวัดอัตราเต้นของหัวใจที่ใช้ เทคโนโลยี PurePulse 2.0 ที่จะแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจในรูปแบบของกราฟตลอดทั้งวันให้เห็นเลย สามารถที่จะตั้งให้เตือนหากอัตราการเต้นของหัวใจผิดปรกติ ซึ่งมีรูปแบบการเตือนหลายรูปแบบ เช่น ภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ (Bradycardia) หรือ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือเต้นเร็วผิดปรกติ (Tachycardia) พอดีการทดสอบครั้งนี้ไม่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้ พอดีหัวใจเต็มปกติดี

เมื่อเสริมกับฟีเจอร์ Active Zone Minutes ตัวช่วยตรวจจับชีพจรและระบบความเข้มข้นในการออกกำลังที่ทาง Fitbit ได้เพิ่มจำนวนจุดการอ่านข้อมูลบริเวณข้อมือทำให้มีความแม่นยำในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจมากขึ้น ทำให้สามารถทำโปรแกรมต่างๆ บนแอปพลิเคชั่นได้เที่ยงตรงขึ้น

Fitbit Versa 3

Sleeping Score ระบบช่วยตรวจวัดการนอนและข้อมูลเชิงลึก เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ถือเป็นจุดเด่นของ Fitbit Versa 3 ที่บอกถึงระดับการนอนของเราว่า เป็นอย่างไร หลับลึก หลับไม่สนิท หลับฝัน ทำให้สามารถประเมินคุณภาพการนอนได้แบบทันที่เลยเมื่อตื่นนอน เป็นฟีเจอร์หนึ่งที่ลองแล้วรู้เลยว่า การนอนในแต่ละวันของเราเป็นอย่างไร โดยมีจำนวนชั่วโมงการนอนของเราให้เห็นเลย

ส่วนฟังก์ชั่นในการออกกำลังกาย มีให้เลือกถึง 20 โหมดในตัวเครื่อง แต่ถ้าใครต้องการอยากมีโปรแกรมออกกำลังเจ๋งๆ ทาง Fitbit มีบริการเกี่ยวกับการออกกำลังกาย อย่าง Fitbit Premium ที่ช่วยจัดวางโปรแกรมออกกำลังกาย รวมถึงคลิปออกกำลังกายของสตูดิโอดังๆ ของโลก อาทิ Aativ POPSUGER Yoga Studio ฯลฯ โปรแกรมโภชนาการ แต่บริการนี้มีค่าบริการ 300 บาทต่อเดือน หรือ 2,500 บาทต่อปี

Related Posts