ซัมซุงจับมือนักวิจัยมาตรฐาน แถลงสาเหตุกรณีเรียกคืนเครื่องสมาร์ทโฟน ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 7 ที่มียอดจำหน่ายกว่า 2.5 ล้านเครื่อง จาก 10 ประเทศทั่วโลก ระบุชัด 2 สาเหตุหลักการผลิตรายแรกผิดพลาดที่กระบวนการผลิต
ส่งผลให้พื้นที่ภายในปลอกหุ้มประจุแคบเกินไปจนเกิดการระเบิดด้านมุม ขณะที่บริษัทที่ 2 หลังแก้ไขโดยการเปลี่ยนผู้ผลิตแล้ว ยังคงเกิดการระเบิดจากสาเหตุภายในตัวแบตเตอรี่เอง จนเป็นเหตุทำให้เกิดการเรียกคืนดังกล่าว
ทั้งนี้ การแถลงการดังกล่าวระบุว่า ได้ใช้ทีมวิศวกรกว่า 700 คน เพื่อทดสอบเครื่องสมาร์ทโฟน ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 7 กว่า 2 แสนเครื่อง และแบตเตอรี่อีกกว่า 3 หมื่นก้อน ด้วยการทดสอบร่วมกันระหว่างหน่วยงานกลางด้านมาตรฐานการผลิต ทั้ง UL, Exponent และ TUV Rheinland
ซึ่งได้ข้อสรุปตรงกันว่า สาเหตุของการระเบิดทั้งหลายเกิดจากการผลิตแบตเตอรี่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่เกี่ยวข้องกับแผงวงจรหรือการออกแบบฮาร์ดแวร์ภายในเครื่องสมาร์ทโฟนแต่อย่างใด
Samsung Galaxy Note 7 แนวทางการแก้ไขในอนาคต
แต่กระนั้นเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการเช่นนี้อีก ซัมซุงได้ประกาศเพิ่มมาตรการตรวจสอบ 8 ขั้นตอนที่กระทำอยู่แล้วในปัจจุบัน ให้มีความถี่ของการทดสอบมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนการทดสอบครอบคลุมตั้งแต่การทดสอบการชาร์จไฟเกินขนาด การทดสอบแบตเตอรี่ในภาวะอุณหภูมิต่ำหรือสูงสุดขั้ว การเอ็กซเรย์ และรวมไปถึงการทดสอบเชิงลึก
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ซึ่งมาตรการทดสอบดังกล่าวไม่เฉพาะว่าจะเป็นเพียงแค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นๆภายใต้แบรนด์ซัมซุงทั้งหมดที่วางจำหน่ายทั่วโลก
ทั้งนี้ ซัมซุง แกแล็คซี่ โน้ต 7 ได้เริ่มจำหน่ายจริงในราวเดือนสิงหาคม 2559 และส่งถึงมือผู้บริโภคแล้วกว่า 3 ล้านเครื่อง ในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก จนราวกันยายน 2559 ซัมซุงได้ทำการเรียกคืนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กลับคืนทั้งหมด หลังเกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ
แต่กระนั้นจำนวนการคืนสมาร์ทโฟนก็ยังคงไม่ครบ 100% โดยยังไม่มีการคืนสินค้าคิดเป็น 4% ของยอดการจำหน่ายทั้งหมด ซึ่งซัมซุงประเมินว่ายอดความเสียหายครั้งนี้มีมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะกระทบกับยอดรายได้นับตั้งแต่ 2 ไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 จนถึงไตรมาสแรกของปี 2560