Samsung Pay ชูนวัตกรรมการจ่ายเงินบนความปลอดภัยด้วยรหัส โทเค็น ที่ไม่ซ้ำกันบนสมาร์ทโฟน ผสานการทำงานร่วมกับบัตรวีซ่าที่ใช้ในประเทศไทย
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เป้าหมายของนวัตกรรมด้านการชำระเงิน เช่น ซัมซุงเพย์ นั้นคือการทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายในการชำระเงินมากยิ่งขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินด้วยตัวบุคคลหรือผ่านช่องทางออนไลน์ ความปลอดภัยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การศึกษาของวีซ่าเมื่อเร็วๆ นี้ยังแสดงให้เห็นอีกว่าคนไทยกว่า 82 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าความปลอดภัยมีความสำคัญมากกว่าความสะดวกสบายเมื่อต้องใช้บริการการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และแบบไร้สัมผัส
“เทคโนโลยีอย่าง Tokenization โดยเฉพาะบริการอย่าง Visa Token Service (VTS) ที่มาพร้อมซัมซุงเพย์นั้น มีความสำคัญอย่างมากสำหรับการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และแบบไร้สัมผัสที่จะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น VTS ถูกออกแบมาเพื่อช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ถือบัตรในระหว่างการทำธุรกรรมการเงินแบบดิจิตอล โดยแปลงข้อมูลด้วยรหัส ‘โทเค็น’ ที่ไม่ซ้ำกันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยเฉพาะ”
“เราเชื่อมั่นว่าซัมซุงเพย์จะขับเคลื่อนการใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยนำความสะดวกสบายและความปลอดภัยมาสู่การชำระเงินในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น”
เป็นเวลากว่า 20 ปีในประเทศไทย ที่วีซ่ามีบทบาทในการช่วยสนับสนุนระบบนิเวศน์การชำระเงิน ประเทศได้รับประโยชน์จากการเติบโตของการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเพิ่มมูลค่าถึง 113,000 ล้านบาท หรือ การเติบโตของ จีดีพี 0.19 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเศรษฐกิจของประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ถึงปี พ.ศ. 2558 โดยถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่สูงที่สุดโดยเฉลี่ยในทวีปเอเชีย
Samsung Pay VTS ระบบความปลอดภัย
ทั้งนี้วีซ่าคือบริษัทผู้ให้บริการด้านเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก แก่ลูกค้าบุคคล ธุรกิจ และสถาบันการเงิน ตลอดจนองค์กรรัฐ ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีด้านเงินตราดิจิตอลที่รวดเร็ว ปลอดภัย และวางใจได้ โดยมี VisaNet หนึ่งในระบบเครือข่ายการทำงานด้านเงินตราดิจิตอลที่ทันสมัยมากที่สุดระบบหนึ่งของโลกเป็นรากฐาน ซึ่งสามารถประมวลและควบคุมการทำธุรกรรมได้กว่า 65,000 รายการในหนึ่งวินาที
พร้อมด้วยระบบป้องกันการปลอมแปลงสำหรับลูกค้าบุคคล และการรับประกันการชำระเงินสำหรับร้านค้า วีซ่าไม่ใช่ธนาคารและมิได้มีบริการการออกบัตร เพิ่มวงเงินเครดิต หรือกำหนดอัตราค่าบริการแก่ผู้ถือบัตร หากแต่ให้บริการนวัตกรรมซึ่งส่งเสริมให้สถาบันการเงินสามารถมอบทางเลือกที่มีความหลากหลายให้แก่ลูกค้าได้ เช่น บริการชำระเงินจากยอดเงินในบัตรเดบิตหรือการใช้จ่ายด้วยวงเงินล่วงหน้าผ่านผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตต่าง ๆ