DE จับมือ ก.พ. และ สกอ. เร่งสรรหาบุคลากร เสริมทัพขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัล กว่า 100 คน

DE จับมือ ก.พ. และ สกอ. เร่งสรรหาบุคลากร เสริมทัพขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัล กว่า 100 คน

รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม DE หารือสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเกี่ยวกับการพัฒนาดิจิทัล ร่วมงานกับหน่วยงานภายใต้กระทรวงดิจิทัลฯ ในตำแหน่งพนักงานราชการเชี่ยวชาญพิเศษ และพนักงานราชการเชี่ยวชาญเฉพาะ

สัญญาจ้างงานตั้งแต่ 3 เดือน ถึงไม่เกิน 4 ปี และทำสัญญาต่อเนื่องเมื่อผ่านการประเมิน เบื้องต้นกำหนดไว้ 100 คน พร้อมทุ่มเงินเดือน 37,000-210,000 บาทต่อเดือน หนุนเลือดใหม่ขับเคลื่อนงานตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

DE ทุ่มงบจ้างงานกว่า 100 เสริมทัพ

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกับผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อสรรหาบุคคลที่มีประวัติการทำงานดี มีความสามารถ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเกี่ยวกับการพัฒนาดิจิทัล เข้าทำงานในหน่วยงานภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ในลักษณะพนักงานสัญญาจ้างงานตั้งแต่ 3 เดือน จนถึงไม่เกิน 4 ปี และจะทำสัญญาต่อเนื่องเมื่อผ่านการประเมิน ในเบื้องต้นกำหนดจำนวนรวมประมาณ 100 คน โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ ในอัตราจ้าง 3 ระดับ คือ ระดับเชี่ยวชาญทั่วไป เงินเดือน 109,200 บาท ระดับเชี่ยวชาญประเทศ (ในประเทศ) เงินเดือน 163,800 บาท และระดับเชี่ยวชาญสากล (ต่างประเทศ) เงินเดือน 218,400 บาท โดยจะต้องมีการประเมินผลงานทุก 1 ปี

และกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มงานเชี่ยวชาญเฉพาะ เงินเดือน 37,680 บาท ถึง 68,350 บาท โดยการคัดเลือกนั้นจะใช้วิธีสรรหาและเป็นการรับแบบปิด โดยให้ สกอ.ช่วยสรรหาศิษย์เก่า หรือนักศึกษาที่มีประวัติการศึกษาและประสบการณ์ทำงานที่ดีช่วยอีกทางหนึ่ง ส่วนงบประมาณในการจัดจ้างบุคคลนั้น ใช้ของสำนักงบประมาณ ไม่ใช่งบประมาณของกระทรวงดีอี

ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับการเฟ้นหาบุคลากรที่จะร่วมงานกันนั้นนอกจากจะมีความสามารถประสบการณ์ด้านวิชาการ ประสบการณ์ด้านดิจิทัลแล้ว จะมีการวัดระดับความฉลาดทางอารมณ์ หรือ อีคิว (EQ) เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อที่จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงฯ อีกด้วย

นอกจากนั้นกระทรวงฯ ยังดำเนินการเสาะหาบุคลากรที่มีความเก่งใน 2 ส่วน คือ คนเก่งเฉพาะทางที่เป็นเลือดใหม่ในการทำงาน และคนเก่งในการจัดเก็บข้อมูลเพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ หรือ รีเสิร์ชเซ็นเตอร์ ซึ่งหากได้ในสองส่วนนี้แล้ว จะสามารถกำหนดทิศทางการทำงานของกระทรวงฯ ได้อย่างชัดเจน”

Related Posts