เมโทรซิสเต็มส์ฯ จับมือเอชพี เปิดตัวโซลูชั่น PageWide นวัตกรรมการพิมพ์ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถตอบโจทย์โซลูชั่นการพิมพ์ยุค ดิจิทัล 4.0 ในประเทศไทย พร้อมเปลี่ยนชื่อธุรกิจ
วัสดุสิ้นเปลืองเป็น “แผนกดิจิทัลพริ้นติ้งกรุ้ป” เพื่อตอบโจทย์การทำงานออฟฟิศในอนาคต เพื่อตอบโจทย์การทำงานทุกที่ทุกเวลา ตั้งเป้าเติบโต 25% ทุกปีตลอดปี 2020 เล็งขยายกลุ่มธุรกิจหลักที่มีส่วนของการขายครอบคลุมอยู่แล้วราว 30-40% ให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น
นายธงชัย หล่ำวีระกุล ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุสิ้นเปลือง บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมโทรซิสเต็มส์ฯมีบริการอยู่ 3 ส่วนที่สำคัญทั้งด้านซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และซัพพลาย ซึ่งเราเริ่มต้นจากการทำสายไฟเบอร์ และเริ่มเข้าธุรกิจซัพพลาย ในการจำหน่าย ผ่านระบบเทเลวาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายการศึกษา
และกลุ่มธุรกิจตามการแบ่งกลุ่มธุรกิจของตลาดหลักทรัพย์ โดยมีฐานลูกค้ากว่า 9,000 รายที่เป็นลูกค้ากันมาอย่างยาวนาน ด้วยความสามารถของการใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วยจัดการขายตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทำให้เราสร้างยอดขายได้ทรานเซสชั่นกว่า 600-700 ชิ้นต่อวัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 25% และมีรายได้กว่า 2,000 ล้านในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้หากมองในภาพรวมของธุรกิจซัพพลาย เริ่มมีการเติบโตที่น้อยลงมา 2-3 ปีแล้ว ขณะที่ในส่วนของลูกค้าเริ่มมีการจุดประเด็นการเปลี่ยนแปลงของผู้ค้าหลายราย และเริ่มเห็นทิศทางที่ดีของการจัดซื้อจัดจ้าง นอกจากนั้นยังสามารถตอบสนองคำสั่งจากฝ่ายบริหาร เพื่อควบคุมต้นทุนการพิมพ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง ลดความสูญเสียไม่จำเป็น จนนำมาสู่แนวคิดจ่ายตามการใช้จริง (Ondemand) ทำให้การนำ PageWide เข้ามาจำหน่ายสามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น
เมโทรซิสเต็มส์ฯ เริ่มทำธุรกิจงานพิมพ์ขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้วเราได้พบ CEO ของ HP ในปัจจุบัน โดยเริ่มสั่งเครื่องพิมพ์เพจวายเข้ามาเพื่อจำหน่าย ซึ่งก็เป็นการเปลี่ยนแปงครั้งใหญ่ของการเปลี่ยนจากการขายเครื่องไปสู่การขายบริการแบบโซลูชั่น ซึ่งจากการนำเครื่อง PageWide เข้ามาลองจำหน่ายแบบโซลูชั่น ช่วงปีที่แล้วก็เริ่มเป็นที่น่าพอใจ
โดยมียอดการให้บริการกว่า 1 พันเครื่อง วันนี้เราจึงต้องเริ่มเข้าสู่ก้าวใหม่ “ระบบการพิมพ์ครบวงจร” ภายใต้แนวคิดของ Pagewide จาก HP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเลเซอร์และอิงค์เจ็ต และมีราคาอยู่ตรงกลางของเทคโนโลยีทั้ง 2 อย่างด้วย
นอกจากนั้นเรายังจะมีเครื่องพิมพ์จำหน่ายหลายขนาดทั้งขนาด A4 ขนาด A3 และขนาด A0 (ขนาดโปสเตอร์) สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย และในอนาคตเรายังจะมีเครื่องพิมพ์ 3D ภายใต้แบรนด์ HP ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งระบบการพิมพ์ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ขณะที่ PageWide นับว่าเป็นเครื่องพิมพ์ที่สามารถตอบโจทย์การให้บริการ และสามารถขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นได้อย่างแน่นอน
ปัจจุบันเมโทรซิสเต็มฯมีแพคเกจการขายอยู่ 2 รูปแบบ โดยหลังจากที่เรานำเสนอแล้วลูกค้าสนใจ เมื่อเซ็นต์สัญญาซื้อหมึกนาน 3 ปี เราจะทำการตั้งเครื่องให้ฟรีเลย และอีกรูปแบบคือการเช่าใช้ โดยเมื่อลูกค้าเช่าเดือนละ 2,000 กว่าบาทเป็นเวลา 3 ปี เราก็ตั้งเครื่องให้ใช้แล้วสามารถสั่งหมึกได้อย่างต่อเนื่อง หมดเมื่อไหร่ก็สั่ง ก็จะช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ตอนนี้เราได้สร้างศูนย์สาธิต PageWide ซึ่งนับว่าเป็ศูนย์เดียวของเอเชียที่สร้างขึ้นโดยพาร์ทเนอร์เอง เพื่อให้ลูกค้าได้มาดูการทำงานจริงตามธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม โดยสามารถเข้ามาศึกษาเทคโนโลยีของ PageWide ได้อย่างครบถ้วน
โดย PageWide นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีการทำงานที่ใกล้เคียงกัน ด้วยประสิทธิภาพที่ไม่น้อยหน้าเครื่องเลเซอร์ ช่วยให้การทำงานลื่นไหล ภายใต้การดูแลรักษาที่ง่ายขึ้น ด้วยราคาที่ถูกกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องเอเซอร์ โดยประหยัดไฟฟ้ามากกว่า 10 เท่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งไร้กลิ่นการเผาไหม้เหมาะกับโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก
ในงานนี้เมโทรซิสเต็มส์ฯ ยังได้เปลี่ยนชื่อเดิมเป็น “แผนกดิจิทัลพริ้นติ้งกรุ้ป” เพื่อให้เหมาะสมกับโซลูชั่นการขายในปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างรายได้หลักให้เกิดขึ้นกับบริษัทได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นการรวมบริการและสินค้าไว้ด้วยกัน แม้ว่าจะไม่สามารถขายได้ล็อตใหญ่ๆเช่นเดิม แต่สามารถขายบริการได้อย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าบริษัทที่มีธรรมาภิบาร จะช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งยังเชื่อว่าเชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าธุรกิจซัพพลาย อาจจะลดลงมากกว่าครึ่ง โดยจะเปลี่ยนเป็นการขายและบริการในอนาคต โดยเรายังมีการขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ มีคอลเซ็นเตอร์ มีเทเลเซล และเว็บไซต์อย่างลาซาด้า เพื่อจำหน่ายสินค้าได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้เมโทร ได้รับการแต่งตั้งจาก เอชพี เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องพิมพ์ PageWide ขนาด A3 อย่างเป็นทางการ โดยนายปวิณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมโทรเป็นเพียงพาร์ทเนอร์ไม่กี่รายที่มีโซลูชั่นครบครันและเป็นรายเดียวที่มีศูนย์สาธิตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ PageWide ช่วยตอบสนองต้นทุน ความปลอดภัยของระบบ สามารถทำงานได้ทุกที่เวลา
ด้านความปลอดภัย PageWide เป็นการสร้างให้เป็นเครื่องมือหนึ่งของระบบไอที โดยจะทำการตรวจเช็กความสมบูรณ์ของระบบ ซึ่งเมื่อเกิดข้อผิดพลาดของระบบ เครื่องจะทำการรีบูตระบบเข้าสู่โหมดเริ่มต้น เพื่อลบมัลแวร์ที่แฝงตัวเข้ามาในระบบได้อย่างหมดจด
ตอนนี้ PageWide มีทั้งในส่วนของเครื่องพิมพ์ A3 และ A4 หลังจากที่เราซื้อกิจการของ Samsung ในส่วนของเครื่องพิมพ์ เพื่อควบรวมฟีเจอร์ PageWide ให้เกิดเครื่อง A3 ได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไปและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมโทรเป็นหัวใจสำคัญของการขยายสินค้าเข้าสู่ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
นายธงชัย กล่าวเสริมว่า เมโทรซิสเต็มส์ฯเชื่อว่าในอนาคตจำนวนการใช้กระดาษเริ่มมีจำนวนลดลงในกลุ่มโฮมยูส ขณะที่ตลาดคอมเมอร์เชียลยังไม่ลดลงมาก โดยสังเกตได้จากธุรกิจกระดาษยังไม่ลดลง ซึ่งเมื่อกระดาษลดลง หมึกพิมพ์ก็จะลดลงตาม ซึ่งเชื่อว่าจะอยู่ในราวๆหมื่นล้านบาท โดยเชื่อว่ารายได้ในอนาคตจะสร้างผลกำไรได้มากกว่าครึ่ง ในระยะเวลาที่ไม่เกิน 5 ปีข้างหน้า โดยรายได้ก็เป็นรายได้ที่เสถียรมากขึ้นจากลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่ท่จะเซ็นต์สัญญาระยะยาวในการใช้งานเครื่องนั่นเอง
วันนี้เรามีลูกค้าครบทุกเซกเมนต์อยู่แล้ว ในราว 30-40% ซึ่งในอนาคตจะมีการเพิ่มความรู้ให้กับกลุ่มที่ยังไม่เป็นลูกค้ามากขึ้น ตั้งเป้าโต 25% ต่อปีไปจนถึงปี 2020 ซึ่งตั้งเป้าทุกกลุ่มธุรกิจหลักๆตามการแบ่งของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถขยายเข้าสู่ตลาดได้