อีริคสันเปิดตัว Massive IoT โครงข่ายพลังงานต่ำ รับอนาคต IoT แบบครบวงจร

อีริคสันเปิดตัว Massive IoT โครงข่ายพลังงานต่ำ รับอนาคต IoT แบบครบวงจร

อีริคสันเผยโฉมโครงข่ายใช้พลังงานต่ำ Massive IoT รับการทำงานของอุปกรณ์ IoT ที่ต้องการใช้งานเป็นระยะเวลานาน พร้อมโซลูชั่น cellular IoT software และ IoT Accelerator ช่วยจัดการโครงข่าย IoT แบบครบวงจร ทำให้ผู้ให้บริการสามารถบริหารจัดการการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ในระบบ LTE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด Cat-M1 (หรือที่เรียกว่า LTE-M) และ Narrow Band IoT (NB-IoT) ที่จะครอบคลุมการทำงานทั้งในส่วนของการใช้อุปกรณ์ การดูแลรักษา ตลอดจนการจัดการทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีบริการเพิ่มเติมในส่วนของการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อพัฒนาบริการรูปแบบอื่นๆต่อไป

ปีเตอร์ ลอริน หัวหน้างานฝ่ายบริการและบริหารธุรกิจ อีริคสัน กล่าวว่า เราคาดหวังว่าอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ IoT จะมีจำนวนมากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ และจะเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีบริมาณมากที่สุดในปี 2561

Massive IoT

ซึ่งรายงานอีริคสัน Mobility Report ระบุว่าภายในปี 2565 จำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อ IoT จะเพิ่มขึ้นถึง 18 ล้านชิ้น ด้วยปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้ต้องมีการวางแผนโครงข่ายการออกแบบ และการปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าการใช้โครงข่าย Mobile broadband แบบเดิมๆ

นอกจากนี้อีริคสันยังได้นำเสนอโซลูชั่นสำหรับ IoT รูปแบบใหม่ เช่น Voice over LTE (VoLTE) บนเทคโนโลยี Cat-M1 ซึ่งจะช่วยส่งเสริมธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับผู้ให้บริการ โดยใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ IoT ในการส่งข้อมูลเสียง เพื่อขยายบริการไปยังส่วนต่าง ๆ เช่น ระบบสัญญาณเตือนความปลอดภัย เครื่องมือปฐมพยาบาลแบบรีโมท อุปกรณ์เชื่อมต่อที่สามารถสวมใส่ได้ กุญแจระบบดิจิทัล และการให้บริการแบบอื่น ๆ อีกมากมาย

Massive IoT เป็นโครงข่ายใหม่ที่แตกต่างจากเดิม ทั้งในส่วนของการใช้พลังงานต่ำ และความสามารถของการรองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อที่หลากหลายได้พร้อมกันหลายชิ้น อีกทั้งยังมีการออกแบบโครงข่ายตามความต้องการที่แตกต่างกัน เพื่อทำให้เกิดการบริหารจัดการโครงข่ายที่มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด บนความเรียบง่ายของการใช้งาน

ไม่เพียงเท่านั้นอีริคสันยังได้เปิดตัว Automated Machine Learning ของศูนย์ปฏิบัติการโครงข่ายอีริคสัน (NOCs) เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการเรื่องต้นทุนค่าขนส่งและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการทดลองพบว่าเครื่องมือนี้สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องอาศัยการทำงานของมนุษย์และได้ผลถึง 80% ในจำนวนนี้พบว่ามีความถูกต้องถึง 77% ทำให้ผู้ให้บริการสามารถตอบสนองกับสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

เจมี่ มอส หัวหน้าทีมผู้ชำนาญการวิเคราะห์เทคโนโลยีและ IoTสำหรับผู้บริโภค กล่าวว่า ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องการพันธมิตรที่จะสามารถช่วยนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและราบลื่น โดยเฉพาะการใช้งานของ LTE-M และ NB-IoT ซึ่งต้องใช้การปฏิบัติการในรูปแบบใหม่ทั้งหมด

Massive IoT

การนำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ทำให้ต้องมีการจัดการข้อมูลที่เกิดขึ้น และการบริหารจัดการบริการที่มีอยู่เดิมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงมีความจำเป็นต้องใช้โครงข่ายที่ครอบคลุมทุกความสามารถของเทคโนโลยี

” เครื่องมืออย่างปัญญาประดิษฐ์นี้ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดลอย ๆ เท่านั้น แต่มันมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง โดยจะเป็นเครื่องมือที่น่าตื่นเต้นสำหรับการจัดการกับอุปกรณ์ IoT ใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในระบบโครงข่ายอย่างมากมายในอนาคต ”

Related Posts