ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจจะทำให้หลายธุรกิจมีผลการดำเนินงานที่ลดลง แต่ต้องไม่ใช่กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่าง ไฟเบอร์วัน เพราะยิ่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่าไร ไฟเบอร์วันก็จะยิ่งมีการขยายธุรกิจที่เติบโตขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ต้องใช้ปริมาณแบนด์วิทธ์สูงๆ
ความได้เปรียบแรกอยู่ตรงที่ไฟเบอร์วันนำเสนอเทคโนโลยีใหม่อย่างโครงข่ายสายไฟเบอร์ออฟติก FTTH ที่สามารถตอบสนองบริการต่างๆ ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ที่ต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ให้สัญญาณภาพคมชัดระดับ HD ถึง 4K และยังยกระดับบ้านสู่สมาร์ทโฮม ตอบรับต่อแนวโน้มของอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ ที่อุปกรณ์ต่างๆ สามารถต่อเชื่อมเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตได้ รวมถึงรองรับบริการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต จึงเหมาะอย่างยิ่งกับพฤติกรรมของคนไทยบางกลุ่มที่ชอบความเร็ว ทันสมัย และพร้อมจ่าย
ประกอบกับยังเป็นธุรกิจที่สามารถช่วยลดต้นทุนให้กับโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ที่จะไม่จำเป็นต้องลงทุนการเดินสายเอง แต่สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านสายไฟเบอร์ที่วางไว้แล้วของไซเบอร์วัน เพียงแค่เข้ามาปลั๊กอินเช่าใช้ ก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองต้นทุนทางด้านอื่นๆ
ปัจจุบันไฟเบอร์วันเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกที่ได้จับมือเป็นสัมพันธกิจกับกลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกราย ไม่ว่าจะเป็น AIS Fibre / True Fiber / TOT Fiber to U / 3BB / Planet Fiber / Hi internet เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ไฟเบอร์วันสามารถขยายโครงข่ายเพื่อให้บริการไฟเบอร์ออฟติกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ พื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล
รวมไปถึงการมีแนวทางธุรกิจแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ Sharing & Caring Economy โดยไฟเบอร์วันจะเป็นผู้ลงทุนวางระบบโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกให้กับกลุ่มโครงการที่มีนิติบุคคลบริหาร ทั้งประเภทบ้านเดี่ยว และอาคารสูงประเภทคอนโดมิเนียม ทำการดูแลรักษาระบบ พร้อมแบ่งรายได้ให้กับนิติบุคคล และยกโครงข่ายให้กับนิติบุคคลเมื่อดำเนินการครบ 15 ปี ซึ่งการดำเนินนโยบายแบบเศรษฐกิจแบ่งปันในลักษณะนี้จะทำให้ไฟเบอร์วันสามารถขยายการเติบโตได้แบบก้าวกระโดดแบบได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย
การใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมากเท่าไร ธุรกิจก็ขยายตัวได้มากเท่านั้น
พฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการเสพย์ติดโซเชียลมีเดีย ทำให้ความต้องการใช้งานการใช้งานข้อมูลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบโมบายหรือฟิกซ์ไลน์ ประกอบกับปัจจุบันอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้วสำหรับสังคมไทย จึงสอดคล้องพอดีกับการติดตั้งโครงข่ายดิจิทัลแบบรวมศูนย์ (Digital Ser-vice Platform) ของไซเบอร์วัน ที่รองรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังสามารถให้บริการดิจิทัลอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกในอนาคต
โครงข่ายที่ไฟเบอร์วันเดินสายเป็นโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกเข้าถึงบ้านแต่ละหลัง หรือห้องพักในคอนโดมิเนียมแต่ละห้อง แทนสายทองแดงในปัจจุบันที่มีประสิทธิภาพด้อยกว่า ซึ่งการติดตั้งโครงข่ายนี้ไฟเบอร์วันมิได้คิดค่าบริการใดๆ จากเจ้าของโครงการที่พักอาศัย หรือจากนิติบุคคลที่บริหารจัดการโครงการ หรือจากผู้อยู่อาศัยแต่ละรายแต่อย่างใด
นายกิตติ โกสินสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฟเบอร์วัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจของเราเสริมเติมเต็มให้สังคมดิจิทัล ในยุคที่รถติดทำให้คนต้องคิดวิธีที่จะไม่ออกไปข้างนอก จึงหันมาให้ความสนใจกับการชอปปิงออนไลน์ การดูวิดีโอ ตลอดจนการใช้งานดิจิทัลในรูปแบบอื่นๆ ที่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และทำให้อินเทอร์เน็ตสปีดสูงๆ เป็นสิ่งจำเป็น
สอดคล้องกับนักวิเคราะห์การตลาดที่เผยว่า คนลดการใช้จ่ายอย่างอื่นเพื่อมาเพิ่มค่าใช้จ่ายในการใช้งานทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น วัยเรียน วัยศึกษา ต้องหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต แม้แต่ผู้สูงอายุที่สังคมไทยกำลังมีคนกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น ก็เริ่มใช้งานมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะคนวันเกษียณส่วนใหญ่ ที่เริ่มใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อผ่อนคลายช่วงที่อยู่บ้าน
“เรามองว่าตรงนี้เป็นโอกาสที่จะทำให้เราขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นปัจจัยที่ 5 ดูเหมือนจะเป็นส่วนเกินแต่ก็ขาดไม่ได้ และแม้ว่าการจับจ่ายใช้สอยด้านอื่นจะลดลง ทั้งการแต่งกาย การซื้อของฟุ่มเฟือยลดน้อยลง แต่การใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นและไม่น้อยกว่า 80% ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อหาความรู้”
สายไฟเบอร์ยังน้อยโอกาสขยายตัวจึงเพิ่มมาก
นายกิตติ กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้งานไฟเบอร์ในเมืองไทยยังครอบคลุมยังไม่ถึง 10% แต่เป็นเทคโนโลยีที่กำลังจะมา ทำให้ในปีที่ผ่านมาเราเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเราได้ดำเนินการประมาณ 60-70% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ตลอดทั้งปีนี้แล้ว และที่ผ่านมาเรามีดีลเลอร์เข้าไปหานิติบุคคลและชุมชนต่างๆ นอกจากนี้ยังได้ตั้งคอลเซ็นเตอร์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในตัวธุรกิจของเราให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่คนทั่วไปเริ่มเข้าถึงมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนรู้จักมากขึ้น
ทั้งนี้โอกาสทางการเติบโตของไฟเบอร์วันยังรวมไปถึงการที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเริ่มมองเรื่องสังคมมากขึ้น มีการทำซีเอสอาร์ที่จะขยายการใช้งานอินเทอร์เน็ตไปสู่วงกว้าง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งก็ทำให้เรามีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
โดยที่ผ่านมาได้ทำการจับมือกลุ่มบริษัท เจริญเคเบิลทีวี ผู้ให้บริการเคเบิลทีวีท้องถิ่นรายใหญ่ ในการสร้างบริการ “ไฟเบอร์ทีวี” ที่จะสามารถเปิดให้บริการต่างๆ ผ่านสายไฟเบอร์ออฟติกได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือไปจากการให้บริการทีวีเพียงอย่างเดียว ซึ่งความร่วมมือกับกลุ่มเจริญเคเบิลทีวี ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของการขยายการให้บริการระบบดิจิทัลอื่นๆ เข้าไปในสายไฟเบอร์ออฟติก เพิ่มเติมจากการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งจะสามารถทำให้ไฟเบอร์วันสามารถขยายฐานสมาชิกผู้ใช้งานบนโครงข่ายที่มีอยู่เดิมได้ทันที
ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อโครงข่ายกับทางเจริญเคเบิลทีวี เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะกลุ่มเจริญเคเบิลทีวีได้เป้าหมายในปีนี้ขยับขึ้นเป็น 1 ล้านครัวเรือนภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่เจริญเคเบิลทีวีมีฐานสมาชิกผู้ใช้บริการเคเบิลทีวี มากกว่า 600,000 ครัวเรือน โดยมีผู้รับบริการทั้งประเภทบ้านพักอาศัย และประเภทอาคารสูงกว่า 10,000 อาคาร ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการในจังหวัด กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี
นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวยังเป็นการจับมือเพื่อพัฒนาการใช้ทรัพยากรที่แต่ละฝ่ายมีอยู่แล้ว นำมาใช้ประโยชน์ให้เต็มประสิทธิภาพ จะทำให้ผู้ใช้งานทั้งสองฝ่าย สามารถให้บริการได้ทั้ง ไฟเบอร์อินเทอร์เน็ต และไฟเบอร์ทีวี เป็นการใช้ประโยชน์จากสาย ไฟเบอร์ออฟติกอย่างคุ้มค่า
เจาะลึกถึงระดับครัวเรือนผ่านการจับมือทางธุรกิจแบบวิน-วิน
ไม่เพียงแต่การตอบสนองความต้องการของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ต้องการขยายเครือข่ายอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ไฟเบอร์วันยังได้รุกเข้าถึงกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการและเอาใจผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ ที่ไม่ได้ต้องการแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม โดยไฟเบอร์วันได้ขยายตลาดเข้าสู่ธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง
สัมมากร คือหนึ่งในลูกค้าที่ได้จับมือกับไฟเบอร์วัน ในการวางแผนติดตั้งโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกให้กับหมู่บ้าน และคอนโดในโครงการสัมมากรทั้งหมด 14 โครงการ โดยปัจจุบันนำร่องติดตั้งที่โครงการสัมมากรบางกะปิ และเอส 9 คอนโดมิเนียม สร้างโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ตอบรับชีวิตยุคดิจิทัล ก้าวสู่บ้านแห่งอนาคต Smart Home, Smart Living, Smart Society
นายกิตติ กล่าววว่า ด้วยปณิธานของสัมมากร “เราไม่เพียงสร้างบ้าน แต่เราสร้างสังคม” จึงก่อให้เกิดความร่วมมือที่จะสร้างโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกกับไฟเบอร์วัน เพื่อตอบสนองพฤติกรรมขอลูกค้ายุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากขึ้นอย่างเช่น การติดกล้องวงจรปิดที่บ้านและดูผ่านมือถือ ช่วยให้คนทำงานยุคใหม่ ดูลูกหรือพ่อ-แม่ ผู้สูงวัย ได้อย่างรู้สึกวางใจมากขึ้น การสั่งเปิดแอร์ก่อนถึงบ้าน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้รับความไว้วางใจในการติดตั้งระบบ E-Security ผ่านกล้องวงจรปิด เพื่อให้ลูกบ้านในโครงการสัมมากร นอกจากสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังได้รับความปลอดภัยจากระบบ E-Security system จากโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกของไฟเบอร์วัน
“การติดตั้งครั้งนี้โครงการหมู่บ้านไม่จำเป็นต้องลงทุนติดตั้งโครงข่ายเอง เพราะไฟเบอร์วัน ใช้โมเดลในการดำเนินธุรกิจแบบ Sharing and Caring โดยไฟเบอร์วันเป็นผู้ติดตั้งโครงข่ายให้กับหมู่บ้านนิติบุคคล และดูแลรักษาโครงข่ายให้เป็นเวลา
15 ปี หลังจากนั้นจะยกโครงข่ายให้กับทางโครงการ”
นายกิตติ กล่าวว่า ไฟเบอร์วันยังได้เดินหน้าจับมือกับพันธมิตรในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายการใช้งานไฟเบอร์ออฟติกให้แพร่หลายมากขึ้นอีก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงพันธมิตรในธุรกิจไอเอสพีต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจของไฟเบอร์วัน บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และเป็นเบอร์ 1 ของผู้ให้บริการไฟเบอร์ออฟติกของไทย
