Pinkoi ตอบโจทย์ความท้าทายของนักสร้างสรรค์หรือดีไซเนอร์น้องใหม่ ที่ไม่รู้ว่าจะเอาสินค้าที่ตนเองออกแบบนั้นเข้าตลาดไหนและอย่างไร แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีไซเนอร์จะต้องเก่งเรื่องการตลาดเพื่อขายสินค้า เพราะส่วนใหญ่คนเหล่านี้มักเกิดจากจากใจรักการออกแบบ และเริ่มต้นจากงานอดิเรกสู่การสร้างรายได้ทั้งนั้น
การตลาดจึงเป็นเรื่องปวดหัวในทุกเรื่อง แต่วันนี้โอกาสของการทำตลาดให้เข้าถึงกลุ่มคนที่มองหาสินค้าที่ไม่เหมือนใครเปิดกว้างผ่าน พิงค์คอย ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มมาเก็ตเพลสสำหรับสินค้าที่สร้างสรรค์โดยเฉพาะ ซึ่งจะมาร่วมนำเสนอสินค้าของนักสร้างสรรค์ทั้งหลายให้ก้าวสู่ตลาดได้อย่างสวยงาม และไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ตลาดในประเทศไทยเท่านั้น
Thereporter.asia ได้มีโอกาสคุยกับ นายปีเตอร์ เยน (Peter Yen), CEO ของ Pinkoi สตาร์ทอัพน้องใหม่ที่สร้างแพลตฟอร์มการตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับนักออกแบบและผู้ที่มีใจรักงานสร้างสรรค์โดยเฉพาะ ด้วยจุดเริ่มต้นของการได้มีโอกาสเข้าไปทำงานที่ซิลิคอลวัลเลย์เมื่อหลายปีก่อน และชอบเดินเตร่ตลาดนัดหลายแห่ง ทำให้มองเห็นปัญหาของนักออกแบบและสร้างสรรค์สินค้าเฉพาะตัว ซึ่งไม่รู้ว่าจะเอาสินค้าไปขายที่ไหนดี
จึงเริ่มสร้างแพลตฟอร์มเพื่อช่วยเหลือ ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับความต้องการทำให้เกิดตลาดรวมแบบออนไลน์ที่ไม่จำกัดสถานที่การจำหน่ายอีกต่อไป ซึ่งแนวคิดนี้ได้รับการยืนยันด้วยเงินระดมทุนกว่า 9 ล้านเหรียญ ในราวปี 2558 จาก Sequoia India และ GMO VenturePartners
ขณะที่ พิงค์คอย เริ่มเข้ามาในประเทศไทยราว 2 ปีก่อน โดยครั้งนั้นยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่ก็เดินสายให้ความรู้มาอย่างต่อเนื่องจนประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มนี้อันดับต้นๆของทั่วโลก แน่นอนวว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่นักออกแบบหรือนักสร้างสรรค์จะได้มีโอกาสในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศแบบที่ไม่ต้องวุ่นวายมากเกินความสามารถ แค่ทำตามขั้นตอนก็สามารถสร้างออเดอร์ที่กำหนดรูปแบบเงื่อนไขได้เองอย่างต่อเนื่องแล้ว
การสนับสนุนของแพลตฟอร์มนอกจากจะมีมาเก็ตเพลสให้ได้ขายของอย่างครบถ้วนแล้ว ยังมีการให้คำแนะนำ การอบรมเพื่อสร้างรูปแบบการนำเสนอให้น่าสนใจ มีการสร้างเปิดเผยสถิติการจำหน่ายที่ดีเพื่อเป็นต้นแบบของการนำเสนอ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมจะมีเพียงค่าคอมมิสชั่น 10% เท่านั้น
ทั้งนี้ พิงค์คอย เป็นชุมชนบนโลกออนไลน์อันล้ำสมัยที่ซึ่งให้ดีไซเนอร์ได้แสดงฝีมือ ได้โปรโมทงานดีไซน์ชั้นเยี่ยม และคัดสรรสินค้าที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครมานำเสนอให้ลูกค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์การสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ที่มีรสนิยมเพื่อผู้บริโภคด้วยงานดีไซน์ที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นการสร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่นให้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
โดยเปิดตัวเมื่อปี 2554 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไต้หวัน โดยคัดสรรสินค้าอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้า สินค้าส่วนใหญ่มีตั้งแต่งานแฮนด์เมดหรืองานดีไซน์ชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับ ไปจนถึงเครื่องเขียนแบบแฮนด์เมด โดยมีเป้าหมายในการนำเสนอผลงานที่มีคุณภาพดีและเน้นในเรื่องของการดีไซน์เป็นหลัก
โดย พิงค์คอย จะมีทีมงานที่เข้มงวดในกระบวนการคัดสรรสินค้าอย่างพิถีพิถัน ซึ่งช่วยให้ดีไซเนอร์ที่มีพรสวรรค์สามารถขายผลงานของตัวเองได้ จึงเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ดีไซเนอร์รายย่อยและธุรกิจสตาร์ทอัพได้เป็นอย่างดี ด้วยสินค้าที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พิงค์คอย จึงสามารถสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นที่น่าดึงดูดใจสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โดยเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทวีปเอเชียซึ่งมีเวลาในการค้นหาสินค้าทางออนไลน์จำกัด แต่ตัดสินใจซื้อสินค้าทางออนไลน์อย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้น พิงค์คอย ยังสานความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับดีไซเนอร์ระดับฐานรากอีกด้วย ซึ่งเป็นการลดช่องว่างระหว่างดีไซเนอร์ในทวีปเอเชีย ทีมงานของ พิงค์คอย จะตามเสาะหาดีไซเนอร์ทั้งหน้าใหม่ ดีไซเนอร์ดาวรุ่ง และดีไซเนอร์รุ่นเก๋าตามงานแสดงผลงานดีไซน์ต่างๆ ทั่วทวีปเอเชีย นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนดีไซเนอร์ในเครือข่ายโดยการจัดเวิร์คช้อปในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ บรรจุภัณฑ์ การสัมมนาผ่านเว็บไซต์ และให้ความช่วยเหลือในการทำตลาดออนไลน์
“สำหรับในประเทศไทย ตอนนี้มีดีไซเนอร์ที่ลงทะเบียนกับ พิงค์คอย และได้รับการตอบรับแล้วกว่า 500 ราย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนดีไซเนอร์เพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าเราจะจำหน่ายสินค้าในระดับสากล แต่งานดีไซน์ของเราเน้นในทวีปเอเชีย เนื่องจากว่าในภูมิภาคนี้ยังไม่มีแพลตฟอร์มสำหรับดีไซเนอร์ที่มีลักษณะเหมือนกับ พิงค์คอย“
โดยปีเตอร์ เยน มองว่าในประเทศไทยมีงานศิลปะและงานดีไซน์ที่โดดเด่นมาก ในช่วงปี 2558 ถึง 2559 เราพบว่าจำนวนสินค้าในแพลตฟอร์มของเราเพิ่มสูงขึ้นถึง 105% ซึ่งในปัจจุบันนี้มีจำนวนถึง 11,000 รายการแล้ว และยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายของเราก็คือเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีรสนิยม สร้างสรรค์งานดีไซน์สวยๆ ซึ่งดึงดูดใจผู้รักความอิสระในทุกวันนี้
จุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้มีฟีเจอร์พิเศษอย่าง Chatbox เพื่อให้ลูกค้าสามารถแชทกับดีไซเนอร์ได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเพิ่มเติมหรือสั่งทำสินค้าพิเศษตามความต้องการซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในภูมิภาคนี้ และฟีเจอร์ Pinkoi Window ที่จะช่วยให้ดีไซเนอร์สามารถออกแบบดีไซน์เว็บเพจได้ตามที่ตัวเองต้องการ
อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Pinkoi Zine ที่จะคอยรวบรวมข่าวสารอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับดีไซเนอร์ และ Pinkoi Wall จะช่วยให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมสามารถแชร์ไอเดียเกี่ยวกับของขวัญและแรงบันดาลใจสร้างสรรค์งานดีไซน์ได้
ด้านโอปอ มหาวนา และคุณกรณิศ เนตยานุวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Whiteoak Factory ซึ่งเป็นบริษัทไทยที่สร้างสรรค์กระเป๋าหนังเทียมรูปลักษณ์เรียบง่ายในสไตล์ Minimal ได้เข้าร่วมกับ พิงค์คอย เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และได้ขายสินค้าผ่าน พิงค์คอย ไปแล้วกว่า 4,000 ชิ้น
“พิงค์คอย ช่วยให้เราเข้าถึงตลาดในต่างประเทศที่ชื่นชอบแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และแบรนด์ขนาดเล็ก ทำให้เรามีจุดยืนนอกเหนือจากตลาดในประเทศไทย ด้วยการค้นหาดีไซเนอร์ที่มีความคิดสร้างสรรค์และเปิดโอกาสให้เราได้แสดงฝีมือ”
ด้านพลอยศิริ รังคดิลก ดีไซเนอร์ไทยผู้ก่อตั้งแบรนด์ Need a New Needle ผู้สร้างสรรค์ลายปักผ้าแบบแฮนด์เมดตามความต้องการของลูกค้า กล่าวในทำนองเดียวกันว่า “ในหนึ่งปี เรามียอดขายมากกว่า 600 ครั้งและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศด้วยงานดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและลูกค้าสั่งทำได้ตามความต้องการ”
ซึ่งเป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมด มีจิตวิญญาณของดีไซเนอร์อย่างแท้จริง ในขณะเดียวกันมีความไฮเทคและกล้าลงทุน ซึ่งเป็นการช่วยยกระดับธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
พิงค์คอย มุ่งเน้นไปที่ตลาดระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และล่าสุดประเทศไทย โดยเปิดให้บริการแล้วใน 88 ประเทศ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะมีอายุระหว่าง 25-44 ปี โดยเน้นที่ผู้หญิงเป็นหลัก นับตั้งแต่ที่เปิดตัวครั้งแรกจนถึงปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 1.6 ล้านรายและขายสินค้าไปแล้วมากกว่า 3.7 ล้านชิ้น
ในปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 860,000 รายการจากร้านค้าที่เข้าร่วมทั้งในเว็บไซต์และแอปกว่า 8,000 ร้านค้า เปิดให้บริการใน 5 ภาษาและรองรับ 12 สกุลเงิน โดย 90% ของยอดขายจะเป็นของดีไซเนอร์
รองรับระบบ Android และ iOS ที่ได้รับคะแนน 4.8 ดาว รวมไปถึงสื่อสังคมออนไลน์ของ พิงค์คอย จะสื่อสารกับลูกค้าเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีนดั้งเดิมและภาษาจีนประยุกต์ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาไทย ใน Google Play มีผู้รีวิวแอปพลิเคชั่น กว่า 17,000 คนจาก 20,000 คน พร้อมทั้งให้คะแนน 5 ดาวอีกด้วย