ซัมซุงจัดงานใหญ่แห่งปี เชิญนักข่าวและบล็อกเกอร์จากทั่วโลกเพื่อร่วมชมนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของซัมซุงบนเวที Samsung Unpacked 2017 ณ นิวส์ยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าการเปิดตัวสมาร์ทโฟนในครั้งนี้จะต้องเป็นที่ฮือฮา เนื่องจากเป็นการเปิดตัว Samsung Galaxy Note 8 ที่เคยสร้างความตะหนกมาแล้วในการเปิดตัวรุ่น Note 7 ช่วงเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยงาน Samsung Unpacked 2017 ถูกจัดอย่างอลังการภายใต้คอนเซ็ปต์ “More than smart phone” มีการใช้เทคโนโลยีจอภาพขนาดใหญ่เป็นเวที เพื่อสื่อถึงความสามารถของผลิตภัณฑ์ที่จะนำเสนอ ซึ่งก็คือNote 8 นั่นเอง
บนเวทีเริ่มด้วยการกล่าวขอบคุณผู้ร่วมงานที่เดินทางมาจากทั่วโลกของ ดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด พร้อมพูดถึงการออกแบบสมาร์ทโฟนเรือธงที่ยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรอคอย การออกแบบที่เป็นมากกว่าสมาร์ทโฟน เพื่อการใช้ชีวิตและการทำงานที่สะดวกสบายมากขึ้น ความคาดหวังที่จะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ เพื่อตอบสนองการใช้งานมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
โดย Samsung Galaxy Note 8 เปิดตัวด้วยหน้าจอที่มีความเปลี่ยนแปลงจาก Note 7 เดิม มาเป็นหน้าจอ Infinity Display ขนาด 6.3 นิ้ว ซึ่งมีใช้ในรุ่น S8 และ S8+ ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ทำให้ Note 8 เป็นสมาร์ทโฟนไร้ปุ่มโฮมและหน้าจอกว้างเต็มพื้นที่การใช้งานเช่นเดียวกัน
ในส่วนของฮาร์ดแวร์ภายในเลือกใช้ซีพียู Exynos รุ่นล่าสุด ที่ถูกพัฒนาขึ้นในขนาด 10 นาโนเมตร เพื่อมือถือโดยเฉพาะของค่ายซัมซุง ทำงานคู่กับแรมขนาด 6 GB และนอกจากนั้น บนเวทียังชูว่ามีถาดใส่ SD Card เพิ่มให้แล้ว โดยรองรับการ์ดความจุสูงสุด 256 GB นอกเหนือจากความจุตัวเครื่อง 64 GB
อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถของระบบความปลอดภัยมาอย่างครบถ้วน เพื่อรองรับการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครื่อง Note 8 ในอนาคต โดยสามารถรองรับทั้งระบบ Iris การตรวจจับใบหน้า การสแกนนิ้ว และความปลอดภัยขั้นพื้นฐานอย่าง การวาดแพทเทิล การใส่รหัสพิน และการใส่พาสเวิร์ดปกติ
ขณะที่ด้านกล้องถ่ายภาพ ซัมซุงชูกล้องถ่ายภาพแบบ Dual Camera ที่นับว่าเป็นครั้งแรกของซัมซุงที่มีการนำกล้องคู่มาใส่ในมือถือระดับเรือธง โดยกล้องทั้งสองมีความละเอียดรัดับ 12 ล้านพิกเซล มีจับภาพกว้างและภาพไกล แยกจากกัน ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์ก็ทำให้สามารถปรับภาพหลังการถ่ายได้ 2 ระยะอย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายภาพในภาวะแสงน้อยได้อย่างดีเยี่ยม โดยบนเวที Suzanne De Silva ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์สินค้าของซัมซุง มีการดึงผู้ร่วมงานขึ้นเวที และมีการทดลองถ่ายภาพโดยสภาพที่แสงน้อย แต่ยังให้รายละเอียดของภาพทั้งส่วนหน้าและส่วนหลังซึ่งเป็นภาพของผู้ร่วมงานหลายร้อยคนได้อย่างครบถ้วน
อีกทั้งยังพูดถึงความสามารถของการชาร์จไร้สายแบบเร็ว พร้อมการทำงานควบคู่กับ ซัมซุงเด็กซ์ (Samsung Dex) ที่มีการเปิดตัวไปพร้อมกับรุ่น S8 และ S8+ ในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ ทำให้ความว้าวลดลงไปบ้าง เนื่องจากหลายความสามารถที่โวชว์บนเวทีนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เราได้เคยเห็นและได้เคยใช้มาแล้วก่อนหน้าทั้งสิ้น
ขณะที่ด้านซอฟท์แวร์ มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง Quick Command ที่สามารถสั่งการเครื่องด้วยคำสั่งเสียง โดยมีการโชว์การทำงานนี้บนเวที ในการช่วยจัดเรียงภาพและลเือกจากแกลลอรี่ เพื่อนำภาพไปใช้งานต่อไปได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น แน่นอนว่าความสามารถเช่นนี้เป็นหนึ่งในระบบเอไอของเครื่องที่ซ่อนเข้ามา หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการสร้างระบบอัจฉริยะแบบ Google assistant และ Siri ของไอโฟน เพื่อเป็นผู้ช่วยในยามที่ผู้ใช้ต้องการนั่นเอง
อีกทั้งบนเวทียังมีการแสดงในส่วนของการใช้งาน หลายหน้าจอพร้อมกัน ซึ่งรองรับการทำงานแบบ 2 แอปพลิเคชั่นขึ้นไป เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยการทดสอบบนเวที มีการทำงานได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการของการกระตุกจากการเปิด 2 แอปพลิเคชั่นแล้วสลับการใช้งานแต่อย่างใด
และสุดท้ายในมุมของ S-Pen ตัวใหม่ที่มีขนาดเล็กลง แต่เพิ่มความสามารถของปุ่มกด ให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถลบการเขียนจากปากกาได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมการสัมผัสที่รอวรับความละเอียดของแรงกระทบที่มากยิ่งขึ้น ช่วยให้ S-Pen ให้ความรู้สึกของปากกาจริงยิ่งขึ้น แน่นอนว่า S-Pen มาพร้อมความสามารถของการกันน้ำเช่นเดียวกับเครื่อง Note 8 นั่นเอง
และอีกหนึ่งความสามารถของ S-Pen คือการเขียนอีโมจิแบบอนิเมชั่น เพื่อส่งผ่านการสนทนาผ่นนแอปพลิเคชั่นกลุ่ม Instant Messaging ได้อย่างสะดวก ช่วยให้ชาวครีเอเตอร์ สามารถวาดจินตนาการของตนเองส่งให้เพื่อได้เองแบบสดๆ แน่นอนว่างานนี้อาจจะกระทบกับสติ๊กเกอร์ที่มีขายอยู่เกลื่อนกราดก็เป็นได้ เพราะ Note 8 สามารถวาดแล้วส่งเองได้เลยนั่นเอง
แน่นอนว่า Note 8 อาจจะมีความสามารถบางส่วนที่แสดงบนเวทีใหญ่อย่าง Samsung Unpacked 2017 ทีไม่ว้าวในสายตาของนักเทคโนโลยี เนื่องจากฟีเจอร์ส่วนใหญ่เราได้เคยเห็นมาบ้างแล้วจากการเปิดตัว S8 และ S8+ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อีกทั้งการโชว์ถาดใส่ซิมการ์ดที่เพิ่มขึ้น หลังจากตัดออกไปในการออกแบบ Note 7 ก็ไม่ใช่เรื่องที่ว้าวอย่างที่คิด และสำคัญเรื่องของแบตเตอรี่ไม่ได้มีการพูดถึงบนเวทีอย่างมีนัยมากมายอะไร ซึ่งเวลาของการวางจำหน่ายก็คือ 15 กันยายนนี้ เราคงต้องรอดูกันต่่อไปว่า ราคาและการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร