หมดปัญหาเรื่องขั้นต่ำในการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต เพราะ เคทีซี เพิ่มช่องทางการจ่ ายใหม่ด้วยการใช้ QR Code ผ่านแอปพลิเคชันในการชำระเงิน “TapKTC”
หวังสร้างความสะดวกให้กับลูกค้ าที่ต้องการใช้วงเงินในบัตรกั บร้านค้าขนาดเล็กที่ยังไม่มี เครื่องรูดบัตรเครดิตลงจนถึงร้ านค้าในตลาดนัด ด้วยขั้นตอนที่ง่ายและมี ความปลอดภัยมากกว่าการรูดบัตร
ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของการใช้บั ตรเครดิตคือข้อกำหนดขั้นต่ำ ในการรูดบัตรเครดิต ซึ่งบางแห่งอาจจะกลัวว่าการรู ดน้อยจะไม่พอกับค่าธรรมเนียมที่ ต้องจ่ายให้ธนาคารเจ้าของบัตร หรือไม่คุ้มค่ากับเครื่องรูดบั ตรทีต้องเสียเงินซื้อ
แถมยังต้องต่อสายระโยงระยาง จึงตัดสินใจไม่รับบัตรและรั บเฉพาะเงินสด ซึ่งเอาท์มาก หรือไม่ก็แก้ปัญหาด้วยการกำหนด 500 บาทบ้าง 300 บาทบ้าง ตามแต่ความคิดถึงจุดคุ้มค่ าของแต่ละธุรกิจ
เคทีซี จึงเปิดการใช้จ่ายใหม่ที่ จะช่วยให้ผู้ใช้บัตรสามารถรู ดได้หมดวงเงินที่กำหนด แม้จะเหลืออยู่เพียง 50 บาทก็สามารถซื้อชานมไข่มุกได้ ด้วยบริการใหม่รับชำระบัตรเครดิ ตผ่าน QR Code Payment เป็นรายแรกในไทย
ดีต่อใจร้านค้าที่แม้ว่าจะยังมี ค่าธรรมเนียม แต่ก็คาดว่าจะต่ำกว่าค่าธรรมเนี ยมการรูดบัตรเครดิต แถมยังไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่ องรูดบัตร ส่วนลูกค้าเองก็ใช้งานง่ายและถื อเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับลูกค้าได้มากขึ้น
แต่ที่ดีที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าของบริการอย่าง เคทีซี เพราะจะถือเป็นการกระตุ้นการใช้ จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งขณะนี้ได้มีการทดลองการใช้ งานไปแล้วกับร้านค้ารายย่อยมากๆ
โดยลูกค้ าจะสามารถทำรายการชำระค่าสินค้ าและบริการผ่าน KTC QR Code Payment ได้ใน 4 พื้นที่หลัก ได้แก่ ตลาด อตก. ตลาดลุงเพิ่ม (การบินไทย) ตลาดหัวมุม เกษตร-นวมินทร์ และร้านค้าบริเวณซอยสุขุมวิท 31 และซอยสุขุมวิท 33
ซึ่งร้านค้าที่เข้าร่วมในช่ วงทดสอบบริการจะเน้นไปที่ร้านค้ าขนาดกลางถึงขนาดเล็กที่ยังไม่ เคยรับบัตรเครดิตมาก่อน และเป็นร้านค้าที่อยู่ ในหมวดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวั น
ได้แก่ หมวดร้านอาหาร ร้านผลไม้ ร้านขนม ร้านขายของฝาก ร้านเสื้อผ้า ร้านขายเครื่องประดับ เรียกได้ว่านำวงเงินบัตรเครดิตมาให้ใช้แบบลงลึกกว่าที่เคย
วุฒิชัย เจริญผล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร- ไอที “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า QR Code Payment บนโมบายแอปฯ “TapKTC” ได้รับการอนุมัติเข้า Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว
และจะให้เริ่มทดลองบริการได้ตั้ งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป โดยพร้อมที่จะเพิ่มจำนวนร้านค้ าหากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนการจับมือกับพันธมิตรนั้ นคาดว่าหลังจากได้รับการรั บรองจากวีซ่าและมาสเตอร์การ์ ดภายในต้นเดือนธันวาคมแล้ว จะสามารถร่วมมือกับสถาบันการเงิ นอื่นๆ ให้เข้ามาร่วมใช้บริการนี้ได้
“QR Code Payment ที่เคทีซีจะให้บริการนั้น เป็นการนำมาตรฐานกลางของ QR Code มาใช้กับการชำระเงินทั้งทางด้าน ผู้ถือบัตรและร้านค้าสมาชิกรับบัตร
โดยจะสามารถรองรับการชำระเงินด้ วยเครือข่ายบัตรเครดิตทั้งวีซ่ าและมาสเตอร์การ์ด โดยลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิ ตจะสามารถซื้อสินค้าและหรือบริ การด้วย QR Code
และทำรายการชำระได้ด้วยตนเอง (Push Payment) ซึ่งแตกต่างจากบริการรับชำระที่ มีอยู่เดิมที่ทางร้านค้าจะเป็ นผู้ทำรายการ (Pull Payment)”
โดยนอกจากจะเป็นการขานรับนโยบายสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ของธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วยั งช่วยลดต้นทุนให้กับร้านค้าที่ รับชำระ
รวมถึงลดการใช้พื้นที่ ในการวางเครื่องรับบัตรและด้ วยความเสถียรในการรับชำระผ่ านโมบายแอปฯ จึงสามารถรองรับการใช้งานได้ง่ ายยิ่งขึ้น
ในแง่ของลูกค้าเองนอกจากจะได้รั บความสะดวกในการใช้งานจากการใช้ โมบายแอปฯ สแกน QR Code เพื่อชำระแล้ว ยังสามารถได้รับเครดิตในการชำระ เช่นเดียวกับการรูดชำระด้วยบั ตรเครดิตตามปกติอีกด้วย
วุฒิชัย กล่าวว่า เคทีซีได้พัฒนาเทคโนโลยีต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการใช้ งานของโลกดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ และมีประสบการณ์ที่ดีจากการใช้ บริการ
ไม่ว่าจะเป็นการย้ายและปรั บแพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลดาต้าเซ็ นเตอร์ การปรับโฉมและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ในโมบายแอปพลิเคชัน “TapKTC”
พร้อมทั้งการตรวจสอบอัตลักษณ์ ของผู้ใช้ (Biometrics) เพื่อแสดงตัวตนครบทุกเทคโนโลยี และก่อนหน้านี้กับการใช้ eCoupon จนมาถึงบริการล่าสุดอย่าง QR Code Payment
ด้านธิดา บุณยเลขา ผู้จัดการอาวุโส-ธุรกิจร้านค้า “เคทีซี” กล่าวว่า ร้านค้าที่รับบัตรเครดิตผ่าน QR Code Payment นั้น ร้านค้าสมาชิกที่รับบัตรเครดิตจะสามารถรับชำระค่าสินค้ าและบริการด้วยบัตรเครดิตผ่าน QR Code มาตรฐานกลาง
ซึ่งจะให้บริการทั้ง 2 รูปแบบผ่านโปสเตอร์และโมบาย แอปฯ “TapKTC Merchant”โดยจะรองรับรูปแบบของ QR Code ทั้ง 2 รูปแบบ คือ
1.“Static QR Code” เป็น QR Code ที่ระบบสร้างไว้สำหรั บการทำรายการได้หลายครั้ง ซึ่งข้อมูล QR Code จะเหมือนเดิมทุกครั้งที่ ทำรายการชำระเงิน
2.“Dynamic QR Code” ข้อมูล QR Code จะถูกสร้างใหม่ทุกครั้งที่ ทำรายการชำระเงิน โดยสามารถระบุจำนวนเงินลงในข้ อมูล QR Code” เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ร้านค้ าสมาชิกรับบัตรที่มี ขนาดกลางและขนาดเล็กในการรั บชำระเงิน
ซึ่งสอดรับกับนโยบายของธนาคารแห่ งประเทศไทยที่ส่งเสริ มการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
“QR Code Payment จะเป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็ นประโยชน์ทั้งผู้บริโภค ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนรุ่นใหม่ ที่เพียงใช้สมาร์ทโฟนที่ติดตั วสแกน QR Code ก็สามารถชำระเงินได้ เพิ่มความปลอดภัยของการใช้บั ตรเครดิต
เนื่องจากลูกค้าไม่ต้องให้ข้อมู ลบัตรกับร้านค้าอีกต่อไป และยังสามารถใช้บัตรเครดิ ตชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ หลากหลายมากขึ้นที่ร้านค้ าขนาดกลางถึงขนาดเล็กที่ไม่ เคยรับบัตรเครดิตมาก่อน
ส่วนตัวผู้ประกอบการร้านค้ าเองก็จะช่วยเพิ่ มโอกาสในการขายและให้บริการด้ วยช่องทางการชำระเงินที่ หลากหลายขึ้น”