SCB พลิกโฉมสินเชื่อดิจิทัล จับมือ หัวเว่ย คลาวด์ ใช้ AI เจาะตลาดคนรุ่นใหม่

SCB พลิกโฉมสินเชื่อดิจิทัล จับมือ หัวเว่ย คลาวด์ ใช้ AI เจาะตลาดคนรุ่นใหม่

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง เปิดเกมรุกตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลครั้งใหญ่ ปฏิวัติกระบวนการอนุมัติสินเชื่อด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) บนแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ยืดหยุ่นและปลอดภัยจาก หัวเว่ย คลาวด์ (Huawei Cloud) ตั้งเป้าปลดล็อกศักยภาพทางการเงินให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ ฟรีแลนซ์ และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบธนาคารแบบดั้งเดิม สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จเพียง 6 เดือน สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่กว่า 250,000 ราย และปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 1.2 พันล้านบาท สะท้อนยุทธศาสตร์ SCBX ที่มุ่งสู่การเป็นกลุ่มเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาคอย่างแท้จริง

ท่ามกลางภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเกิดขึ้นของอาชีพรูปแบบใหม่ๆ ทั้งกลุ่มฟรีแลนซ์, เศรษฐกิจแบ่งปัน (Gig Economy), และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ได้สร้างความท้าทายครั้งสำคัญให้กับสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม คนกลุ่มนี้ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ กลับเป็นกลุ่มที่มักจะถูกปฏิเสธโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ เนื่องจากไม่มีเอกสารยืนยันรายได้ที่ชัดเจน เช่น สลิปเงินเดือน หรือใบรับรองการทำงานที่มั่นคง ช่องว่างดังกล่าวนี่เองที่กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญ และเป็นพันธกิจที่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับสองของไทยและผู้บุกเบิกด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) มองเห็นและมุ่งมั่นที่จะเข้าไปแก้ไข

ภายใต้วิสัยทัศน์ของกลุ่ม SCBX ที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นในเวทีเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ระดับภูมิภาคอาเซียน SCB ได้วางแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มและสร้างระบบนิเวศดิจิทัล (Digital Ecosystem) ที่แข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการนำเทคโนโลยีเข้ามาทำให้บริการทางการเงินเป็นเรื่องง่าย เข้าถึงได้ทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา (Easy, Effortless, and Ever-present) ซึ่งหนึ่งในโครงการที่เป็นหัวหอกสำคัญของยุทธศาสตร์นี้ คือการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สินเชื่อดิจิทัลรูปแบบใหม่

ดร.ชาลี อัศวธีรธรรม, รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Digital Banking (SEVP, Chief Digital Banking Officer) ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้กล่าวถึงเจตนารมณ์ของโครงการว่า “เป้าหมายหลักของบริการใหม่นี้ คือการทำให้สินเชื่อเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับคนจำนวนมากที่อาจไม่มีโอกาสเข้าถึงผ่านระบบธนาคารแบบเดิม เราสังเกตเห็นว่าในระบบเศรษฐกิจปัจจุบัน มีผู้คนจำนวนมากที่ทำธุรกรรมออนไลน์ แต่พวกเขาอาจไม่มีสลิปเงินเดือนประจำ ซึ่งทำให้การขอสินเชื่อผ่านช่องทางดั้งเดิมเป็นเรื่องยาก ด้วยความตั้งใจนี้ เราจึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อทำให้สินเชื่อพร้อมให้บริการแก่ประชากรในวงกว้างขึ้น”

ผลิตภัณฑ์สินเชื่อดิจิทัลของ SCB ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมการทำธุรกรรมออนไลน์ มีประวัติเครดิตที่ดี และมีวินัยในการชำระเงิน แต่ขาดเพียงเอกสารที่เป็นรูปธรรมเพื่อพิสูจน์พฤติกรรมทางการเงินที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา SCB จึงได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการวิเคราะห์และประเมินความน่าเชื่อถือทางเครดิต (Creditworthiness) ของลูกค้าแต่ละราย โดย AI จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) จากพฤติกรรมดิจิทัลต่างๆ แทนการพิจารณาจากเอกสารรายได้เพียงอย่างเดียว จากนั้นจะทำการกำหนดวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละคน และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่พวกเขาในจังหวะและเวลาที่เหมาะสมที่สุด กลุ่มเป้าหมายหลักของสินเชื่อประเภทนี้จึงครอบคลุมตั้งแต่ผู้ค้าออนไลน์, ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ไปจนถึงคนรุ่นใหม่ที่มีธุรกรรมออนไลน์จำนวนมาก แต่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในรูปแบบเดิมได้

การจะสร้างบริการดิจิทัลที่สามารถรองรับความฝันอันยิ่งใหญ่ในการสร้างระบบนิเวศสำหรับฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาคได้นั้น จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ยืดหยุ่น และไว้ใจได้ และนี่คือจุดที่ SCB ตัดสินใจเลือก Huawei Cloud เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์

ดร.ชาลี กล่าวเสริมถึงเหตุผลในการเลือกพันธมิตรว่า “ด้วยความทะเยอทะยานที่จะสร้างระบบนิเวศดิจิทัลสำหรับฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในภูมิภาค เราจำเป็นต้องใช้โซลูชันดิจิทัลใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ของเรา เราเลือก หัวเว่ย คลาวด์ เป็นโซลูชันเนื่องจากความยืดหยุ่นที่ได้รับ ความยืดหยุ่นที่ Huawei มอบให้เรานั้นช่วยได้หลายทาง อย่างแรกคือ ช่วยให้เรารับมือกับความผันผวนของจำนวนลูกค้าที่อาจเข้ามาสมัครสินเชื่อในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น (Rush Hours) ได้อย่างราบรื่น อีกสิ่งหนึ่งคือ เรามีความยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจของเราในอนาคต เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ความต้องการผลิตภัณฑ์ของเราล่วงหน้า เราอาจมีการเติบโตสองเท่าหรือสิบเท่า ด้วยโซลูชันของ Huawei Cloud เราจึงสามารถให้บริการแก่ลูกค้าในระดับสูงได้ โดยไม่ต้องลงทุนทรัพยากรจำนวนมหาศาลล่วงหน้า”

นอกเหนือจากความยืดหยุ่นในการปรับขนาด (Scalability) เพื่อรองรับการเติบโตที่คาดเดายากแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ SCB เลือก Huawei Cloud คือการมีโครงสร้างพื้นฐานและทีมงานที่เชี่ยวชาญในประเทศไทยโดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลทางการเงินที่มีความละเอียดอ่อน

“ข้อดีอีกอย่างที่ Huawei Cloud มอบให้เราคือ การมีศูนย์ข้อมูล (Data Center) ตั้งอยู่ในประเทศไทย สิ่งนี้ช่วยให้เรามั่นใจในเรื่องของความหน่วงเครือข่ายที่ต่ำ (Lower Network Latency) ทำให้การประมวลผลและการตอบสนองของแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ พวกเขายังมีทีมงานกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศ (Local Compliance Team) ซึ่งมีความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของรัฐบาลไทย รวมถึงข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) เป็นอย่างดี”

การมีศูนย์ข้อมูลในประเทศไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับธนาคารและลูกค้าในด้านความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจการเงิน ยิ่งไปกว่านั้น การมีทีมงานสนับสนุนด้านเทคนิคที่ประจำอยู่ในประเทศไทย (Local Technical Service Team) ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความแตกต่าง “ทีมงานสนับสนุนในพื้นที่พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างมากเมื่อเราต้องการการสนับสนุน หรือเมื่อเกิดปัญหาที่ไม่คาดฝันขึ้น”

ด้วยการผนึกกำลังกันระหว่างวิสัยทัศน์ด้านนวัตกรรมทางการเงินของ SCB และความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีคลาวด์จาก Huawei ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจึงน่าประทับใจอย่างยิ่ง ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือนหลังเปิดตัวบริการ SCB สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีลูกค้าใหม่ลงทะเบียนใช้บริการสินเชื่อดิจิทัลนี้มากถึง 250,000 ราย และสามารถปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายได้เป็นมูลค่าสูงถึง 1.2 พันล้านบาท

ดร.ชาลี กล่าวทิ้งท้ายถึงความสำเร็จว่า “ความสำเร็จทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น ก็ด้วยเทคโนโลยีใหม่และประสิทธิภาพที่ Huawei Cloud มอบให้กับ SCB เท่านั้น ภารกิจของเราที่ SCB คือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่คนหมู่มาก เราต้องการใช้ AI และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ใช้งานง่าย ไร้รอยต่อ และพร้อมให้บริการลูกค้าอยู่เสมอ เป้าหมายของเราคือการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลในภาคการเงินได้อย่างง่ายดาย”

ความสำเร็จของ SCB ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปิดศักราชใหม่ของวงการสินเชื่อในประเทศไทย แต่ยังเป็นกรณีศึกษาที่ชัดเจนซึ่งแสดงให้เห็นว่า การเลือกพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจ ขับเคลื่อนนวัตกรรม และนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างการเข้าถึงทางการเงินที่เท่าเทียมและทั่วถึงสำหรับทุกคนในยุคดิจิทัล

#SCB #สินเชื่อดิจิทัล #SCBX #HuaweiCloud #AI #Fintech #เทคโนโลยีการเงิน #ธนาคารไทยพาณิชย์ #สินเชื่อเพื่อคนรุ่นใหม่ #เศรษฐกิจดิจิทัล #ชาลีอัศวธีรธรรม

Related Posts