เคแบงค์ เล็งใช้คิวอาร์โค้ดในการชำระเงินเป็นตัวดึงเงินสดจากกระเป๋าสตางค์ลูกค้าและร้านค้าให้เข้ามาหมุนเวียนในระบบมากขึ้นและสนองนโยบายสังคมไร้เงินสดของรัฐบาล จึงจับมือกับยักษ์ใหญ่ปั้มน้ำมันอย่างปตท.ที่มีสาขาครอบคลุมมากที่สุดทั่วประเทศในการเข้าไปร่วมสร้างช่องทางการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดใน 6 ร้านค้าเครือปตท.
แต่ช้าก่อนยังไม่ใช่ตอนนี้เพราะจะเริ่มใช้งานได้ในเขต กรุงเทพฯ และปริมณฑลต้นไตรมาส 2 ปี 2561 ส่วนทั้งประเทศให้บริการได้ภายในกลางปีหน้าเช่นกัน
โดยร้านค้าในเครือปตท.ที่ได้กำหนดให้ร้านค้าปลีกที่จะเปิดรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการด้วยคิวอาร์โค้ด ซึ่งปตท.เรียกว่าจุดสัมผัสกับผู้บริโภค (Consumer Touch Point) นั้น ประกอบไปด้วย ร้านคาเฟ่อเมซอน เท็กซัสชิคเก้น แด๊ดดี้โด ฮั่วเซ่งฮง ติ๋มซำ ศูนย์บริการยานยนต์ฟิตออโต้ และร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ รวมกว่า 2,200 จุด
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย หรือเคแบงค์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ ปตท.ในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินอย่างต่อเนื่อง นำเสนอผลิตภัณฑ์ขึ้นมาตอบสนองด้านความสะดวกสบายของลูกค้าเพื่อสร้างความประทับใจให้เพิ่มมากขึ้น
รวมไปถึงยังเป็นการส่งเสริมการแข่งขันทางการตลาด ซึ่งระบบจะสามารถเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการตอบโจทย์ลูกค้า และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธนาคารในอนาคตได้อีกด้วย ถือเป็นปฏิรูปนวัตกรรมอีเพย์เมนต์ ตลอดจนความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้เกิดสังคมไร้เงินสดได้อย่างแท้จริง
“ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการร่วมกันสร้างดิจิทัลเพย์เมนต์ แพลทฟอร์มให้กับธุรกิจค้าปลีกของปตท. ด้วยแนวคิด “Seamless Digital Lifestyle Experience” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่โมบายเพย์เมนต์เต็มรูปแบบและครบวงจร โดยนำเทคโนโลยีทางการเงินต่างๆ เข้ามาเสริมศักยภาพการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง
ในขณะที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไปโดยเฉพาะด้านการชำระเงิน ดังนั้นการชำระเงินที่ง่ายขึ้นในรูปแบบของ Dynamic QR Code เพียงสแกนก็ชำระเงินได้ทันที โดยไม่ต้องใช้เงินสดและไม่ต้องระบุจำนวนเงินเอง หมดกังวลเรื่องจำนวนเงินไม่ตรงตามจริง อีกทั้งยังใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งและฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม น่าจะเป็นทางเลือกใหม่ที่ดี”
ทั้งนี้ในปี 2561 ธนาคารจะเริ่มนำร่องด้วยระบบรับชำระเงินที่พัฒนาเทคโนโลยี QR Code ให้เชื่อมต่อกับเครื่อง EDC ที่เชื่อมโยงระบบการขาย (Point of Sales: POS) ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านค้าปลีกที่อยู่ภายใต้เครือ ปตท. สามารถชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการผ่านโมบายแบงกิ้งได้ทุกธนาคาร
นอกจากนี้ยังวางแผนพัฒนาระบบในการเชื่อมโยงข้อมูลของบัตร PTT Blue Card กับ application K PLUS เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้จ่ายด้วยคิวอาร์โค้ดของ K PLUS สามารถสะสมแต้มได้ทันที
โดยจะนำข้อมูลที่ได้ผ่านการใช้จ่ายด้วย QR Code ของลูกค้ามาเป็น Big Data ใช้ประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนการสร้างประสบการณ์ให้แก่ลูกค้า ซึ่งจะสามารถสร้างความผูกพันในระยะยาวและมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจอีกด้วย
ด้านนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสนองนโยบาย National e-Payment ของรัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง และเป็นไปตามนโยบาย Thailand 4.0 แล้ว ยังถือเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
และอำนวยความสะดวกผู้บริโภคที่มาใช้บริการร้านค้าปลีกของ ปตท. ซึ่งการใช้งานก็ง่ายเพียงมี Application ที่ใช้จ่ายเงินด้วย QR Code ของธนาคารใดก็ได้ ไม่เฉพาะแต่ของธนาคารกสิกรไทย เมื่อซื้อสินค้าให้แจ้งร้านค้าว่าจะชำระด้วย QR จากนั้นสแกน QR Code ที่ปรากฏบนหน้าจอเครื่องรับบัตรเครดิต ก็สามารถชำระเงินได้ทันที
“ปตท. ยังเตรียมต่อยอดการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และการใช้จ่ายผ่าน Application บนโทรศัพท์มือถือ โดยมีแผนพัฒนานวัตกรรมการเงิน e-Wallet Platform ขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ซื้อสินค้า/บริการในธุรกิจค้าปลีก รวมถึงการเลือกซื้อสินค้าผ่าน Application บนโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกสบาย
พร้อมได้รับสิทธิพิเศษหรือข้อเส นออันเป็นประโยชน์เฉพาะบุคคลที่ถูกออกแบบคัดสรรขึ้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อที่จะพัฒนาคุณภาพการบริการ สร้างความประทับใจให้ผู้บริโภคให้เพิ่มมากขึ้น”
