ดีอีจับมือ ดีป้า เปิดโครงการ CodingThailand.org ห้องเรียนแนวใหม่สร้างคนดิจิทัล

ดีอีจับมือ ดีป้า เปิดโครงการ CodingThailand.org ห้องเรียนแนวใหม่สร้างคนดิจิทัล

ดีอีจับมือดีป้า เดินหน้าโครงการ CodingThailand เปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์ CodingThailand.org ส่งเสริมการสร้างศักยภาพกำลังคนดิจิทัล ด้วยทักษะการเขียน Code แบบง่ายแต่ได้พัฒนาทักษะกระบวนการคิด ทักษะวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล ตั้งเป้าเข้าถึงเยาวชนไทย 10,000,000 คนทั่วประเทศ

CodingThailand.org ห้องเรียนออนไลน์ที่ผสานความบันเทิง เพื่อกระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานแก่เยาวชนยุคดิจิทัล โดยมีหลักการสำคัญคือการเปลี่ยนห้องเรียนที่คุ้นเคยมาเป็นห้องเรียนบนมือถือ โน้ตบุ๊ก ไอแพด โดยกระทรวงดีอีได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เป็นผู้ดำเนินงานโครงการ Coding Thailand และพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าวขึ้น เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและวิทยาการคอมพิวเตอร์ รวมถึงฝึกฝนกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า โครงการ Coding Thailand นับเป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางด้านนโยบายที่กระทรวงดิจิทัลฯ คิดขึ้นและนำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้ทรัพยากรบุคคลพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัลตามกระแสโลกที่มีการเปลี่ยนผ่านเรื่องของดิจิทัลที่ส่งผลให้รูปแบบการดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงไป

โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นทรัพย์สินที่มีค่าสูงสุดของประเทศซึ่ง CodingThailand.org จะช่วยให้เกิดการพัฒนาทักษะพื้นฐานด้านการวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตและในการทำงานทุกอาชีพ ทั้งยังสามารถต่อยอดไปถึงการพัฒนาทักษะดิจิทัลในระดับสูงต่อไป

“Coding Thailand จะกลายเป็นศูนย์กลางความรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ของประเทศไทย เยาวชนและประชาชนทุกคนจะมีโอกาสได้เรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถก้าวทันเทคโนโลยี รู้เท่าทัน และสร้างสรรค์การใช้เทคโนโลยี ทั้งยังจะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การศึกษาและเศรษฐกิจ ด้วยมิติใหม่ของการเรียนรู้ เปรียบเสมือนโลกใหม่ของการศึกษาในยุคดิจิทัล เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนากำลังคนและบุคลากรด้านดิจิทัล ซึ่งจะเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับการเป็นประเทศไทย 4.0 ”

ทั้งนี้กระทรวงดีอีตั้งเป้าหมายว่าแพลตฟอร์ม Codingthailand.org จะสามารถเข้าถึงเยาวชนได้มากกว่า 10 ล้านคนทั่วประเทศภายใน 3 ปีหลังจากการเปิดตัว และจะกลายเป็นโลกของการศึกษาแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ช่วยสร้างโอกาสให้เด็กนักเรียนเข้าถึงการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลาทุกช่องทาง เกิดรูปแบบการศึกษาที่ขนานไปกับวัฒนธรรมในมิติของบุคคล คือ เยาวชน และในมิติของสังคม คือ ครอบครัว ซึ่งเราจะได้เห็นความสุขที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ที่เปลี่ยนไปจากการเรียนแบบเดิม

ด้านดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า ดีป้า ได้ทำการพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ CodingThailand.org โดยร่วมมือกับ Code.org องค์กรไม่แสวงหากำไร ซึ่งเป็นศูนย์รวมการเรียนรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ของเยาวชนชั้นนำของโลก และหน่วยงานพันธมิตรเอกชน อาทิ ไมโครซอฟท์, ซิสโก้ , กูเกิล และ อักษร เอ็ดดูเคชั่นฯลฯ

เพื่อแปลและพัฒนาเนื้อหาที่เหมาะกับเยาวชนไทยในระดับชั้นต่างๆ ทั้งยังสอดแทรกความบันเทิงและความคิดสร้างสรรค์ ที่ช่วยทำให้เยาวชนรู้สึกว่าเรื่องของวิทยาการคอมพิวเตอร์ การเขียนโค้ดเป็นเรื่องใกล้ตัวและสนุกสนาน สอดแทรกความรู้ได้อย่างลงตัว ซึ่งจะทำให้สังคมไทยมีกำลังคนดิจิทัลที่มีความรู้พื้นฐานด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพร้อมที่จะพัฒนาไปสู่ระดับผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นทรัพยากรที่ประเทศไทยยังคงขาดแคลนอยู่

“CodingThailand คือรูปแบบการเรียนรู้ผ่าน Codingthailand.org จะครอบคลุมทั้งการเรียนรู้แบบทางการและไม่ทางการ โดยเน้นเนื้อหาของบทเรียนด้าน coding ให้เข้ากับบริบทการศึกษาในชั้นเรียนระดับต่างๆ ควบคู่กับกิจกรรมสนุกสนานที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้นอกชั้นเรียน อีกทั้งยังมีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และกิจกรรมเพิ่มเติมที่มุ่งพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ตลอดจนทักษะวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงต่อยอดการเรียนรู้ด้าน Coding เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรม”

โดยสามารถเรียนรู้ได้ตั้งแต่รูปแบบ Unplug หรือการเรียนรู้ที่ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ซึ่งเหมาะกับเด็กปฐมวัย การเรียนรู้ด้วยอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม อีกทั้งดีป้ายังมีแผนการจัดกิจกรรม Thaicode Hour กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ Coding ผ่านแพลตฟอร์ม CodingThailand.org ซึ่งมีต้นแบบมาจาก Hour of Code ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก ในการส่งเสริมให้ทุกคนเริ่มต้นการ CODE ได้ง่ายๆ ในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

ซึ่งเพียงพอต่อการเรียนรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ได้อย่างสนุกสนานและสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจในวิทยาการคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ตลอดจนพัฒนาไปสู่นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ได้ในอนาคต

ทั้งนี้ยังมีแผนกิจกรรมสำหรับเยาวชนครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วไทย ที่สำคัญยังมีแผนการจัดแข่งขัน Coding Thailand Tournament ที่จะสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ด้าน Coding เข้ากับไลฟสไตล์ของเยาวชนไทยในปัจจุบัน ถือเป็นการปฏิวัติรูปแบบการเรียนรู้ด้านดิจิทัลของเยาวชนไทยอย่างแท้จริง

อลิซ สเตนกลาส ประธาน Code.org กล่าวว่า Code.org ในฐานะองค์กรไม่แสวงหากำไรมุ่งส่งเสริมให้นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาสามารถเข้าถึงหลักสูตรการเรียนรู้ต่างๆ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยที่ผ่านมามีนักเรียนกว่า 25 ล้านคน และครูราว 800,000 จากกว่า 180 ประเทศทั่วโลก ลงทะเบียนเพื่อร่วมเรียนรู้บนแพลตฟอร์มของเรา

ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมและพัฒนาทักษะให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงด้วยการเรียนรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิทยาการคำนวณ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในศตวรรษที่ 21 และทักษะพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเยาวชนไทยให้ไม่ใช่เพียงแค่ “ใช้” เทคโนโลยีดิจิทัล แต่ยังสามารถ “สร้างสรรค์” ได้ในอนาคต

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ได้นำ Microsoft Azure ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์อัจฉริยะเข้ามาใช้ในการจัดทำห้องเรียนออนไลน์ CodingThailand.org เพื่อส่งเสริมการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ร่วมกับดีป้าและ Code.org รวมถึงยังสนับสนุนการอบรมครูเชิงลึกทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถความรู้และความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้กับครูผู้ฝึกสอน

“เราเชื่อว่าเยาวชนคืออนาคตที่สำคัญในการสรรค์สร้างนวัตกรรมให้เจริญก้าวหน้า และเยาวชนไทยก็มีความสามารถไม่น้อยไปกว่าชาติอื่น ไมโครซอฟท์มั่นใจว่าแพลตฟอร์มนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยสร้างทักษะความรู้ทางดิจิทัลให้กับครูและนักเรียน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองในการช่วยรัฐบาลให้บรรลุเป้าหมายนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และยังเป็นการตอบสนองกับพันธกิจหลักของไมโครซอฟท์คือต้องการส่งเสริมเยาวชนทั่วโลกรวมถึงเยาวชนไทยให้มีทักษะทางดิจิทัลเพื่อให้พวกเค้าสามารถบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และก้าวข้ามขีดจำกัดในยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลไปได้”

Related Posts