ครบรอบการทำธุรกิจ 8 ปีของ เสียวหมี่ แบรนด์มือถือน้องใหม่จากจีนที่ก้าวกระโดดขึ้นมาสู่แบรนด์สมาร์ทโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเน้นฟีเจอร์และฟังก์ชันแบบมือถือไฮเอนด์ แต่นำเสนอราคาที่เหมาะสมและสัมผัสได้ เช่นดียวกับการทำตลาดในเมืองไทย
ที่ล่าสุดเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุด 3 รุ่น Mi A2, Mi A2 Lite และ Mi 8 พร้อมจัดโปรแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับเอไอเอส เปิดราคาโปรแบบคู่แข่งหายใจไม่ทั่วท้องเริ่มต้นที่ 2,290 บาท สำหรับรุ่นเล็กราคาสุดคุ้ม และ 9,990 สำหรับเรือธงฟีเจอร์ชนเครื่องล่ะ 4 หมื่นบาทแบบสบายๆ
สำหรับตลาดในเมืองไทยนอกจากการเน้นทำตลาดกับแฟนพันธุ์แท้แล้ว ก็ได้มีการขยายตลาดออกไปเรื่อยๆ และกลยุทธ์การจับมือเป็นพาร์ทเนอร์รายเดียวในเมืองไทยอย่างเอไอเอส เบอร์หนึ่งของค่ายมือถือในเมืองไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างฐานลูกค้าใหม่แล้ว ยังนับเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
“เสียวหมี่เน้นส่งมอบประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลกในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยการทำตลาดยังคงเน้นออนไลน์เป็นหลัก แต่จะมีการสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ผ่านช่องทางอื่นๆ
ด้วยไม่ว่าจะเป็นการทำตลาดบนสถานีรถไฟฟ้า หรือการจัดโรดโชว์ไปตามที่ต่างๆ โดยในวาระฉลองครบรอบการทำธุรกิจในปีที่ 8 นี้ เสียวหมี่ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด Mi A2 Mi A2 Lite และ Mi 8 ในตลาดเมืองไทย”
นายจอห์น เฉิน ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียวหมี่ กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของเสียวหมี่จะเป็นกลุ่มผู้ชายที่ชื่นชอบเทคโนโลยี แต่ก็เริ่มมีกลุ่มลูกค้าผู้หญิงเข้ามาใช้งานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 3 รุ่นใหม่นี้แล้ว
ในปีนี้เสียวหมี่เตรียมนำเสนอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อีก 2-3 รุ่น เพื่อเจาะตลาดราคาประหยัดและตลาดมือถือระดับกลาง เพื่อเป็นตัวเลือกเพิ่มที่จะช่วยขยายตลาดให้มากขึ้น เพราะตลาดในเมืองไทยมือถือราคาต่ำกว่า 10,000 บาท มีการแข่งขันกันสูง โดยกลยุทธ์ของเสียวหมี่จะไม่เน้นการให้ของแถม แต่จะเน้นคุณสมบัติของมือถือที่คุ้มค่ามากกว่า
ด้านนายพงษกรณ์ คอวนิช หัวหน้าแผนกงานการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ เอไอเอส กล่าวว่า การจับมือในฐานะดิจิทัลพาร์ทเนอร์รายเดียวในเมืองไทยของเสียวหมี่ นับเป็นการมอบประสบการณ์สมาร์ทดีไวซ์จากเทคโนโลยีระดับโลกให้กับคนไทยทุกกลุ่มมาโดยตลอด
ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าเอไอเอสทั่วประเทศและการเปิดตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ “Xiaomi Mi A2 Lite และ Mi 8” (เฉพาะรุ่น 6 + 64GB) สมาร์ทโฟนสองรุ่นล่าสุดนี้เหมาะสำหรับกลุ่มคนมิลเลนเนียมที่มองหามือถือสเปคสูงในราคาดีคุ้มค่าและสามารถใช้งานได้ครบทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ เล่นเน็ต ท่องโซเชียล ดูหนัง ดูซีรีส์
โดยสมาร์ทโฟนเสียวหมี่ 2 รุ่นประกอบด้วย รุ่น A2 Lite ลูกค้าเอไอเอสระบบรายเดือน รับส่วนลดสูงสุด 4,000 บาท เหลือเพียง 2,290 บาท จากปกติ 6,290 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจ AIS Hot Deal 599 บาทขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 1,500 บาท สมาร์ทโฟนเสียวหมี่ รุ่น Mi 8 (6 + 64GB)
ลูกค้าเอไอเอสระบบรายเดือน รับส่วนลดสูงสุด 6,000 บาท เหลือเพียง 9,990 บาท จากปกติ 15,990 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจ AIS Hot Deal 899 บาท ขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 1,000 บาท
Mi A2 Lite สมาร์ทโฟน Android One รุ่นแรกที่มีหน้าจอแสดงผลในอัตราส่วน 19:9 บนหน้าจอขนาด 5.84 นิ้วที่แสดงผลแบบเต็มหน้าจอ (Full HD + full screen display) มาพร้อมกล้องคู่ AI ด้านหลัง 12+5 ล้านพิกเซล โดยเซนเซอร์กล้อง 12 ล้านพิกเซล พร้อมพิกเซลขนาดใหญ่ 1.25 m ระบบโฟกัส Phase Detection โฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล มี AI Portrait Mode ที่ทำให้ภาพถ่ายมี Bokeh Effect ได้แม้ไม่มีเซนเซอร์ตัวที่สอง หน่วยความจำภายใน ROM ขนาด 32GB และหน่วยความจำแบบชั่วคราว RAM ขนาด 3GB และแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh ผู้ใช้สามารถเล่นเกมบน Mi A2 Lite ได้ยาวนานถึง 7.5 ชั่วโมง ติดต่อกัน
และวิดีโอสตรีมมิ่งได้ยาวนาน 16.5 ชั่วโมง แบบไม่มีหยุดพัก Mi A2 Lite มีให้เลือก 3 สี สีดำ สีฟ้าและ สีทอง พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยในวันที่ 4 สิงหาคม ราคา 6,290 บาท
Mi A2 มีหน้าจอแบบ Full Screen ขนาด 5.99 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 และกระจก 2.5D Corning? Gorilla? Glass 5 ตัวเครื่องแบบ Aluminum Unibody รูปทรงบางเพียง 7.3 มิลลิเมตร กล้องหน้า IMX376 ความละเอียด 20 ล้านพิกเซลจาก Sony และกล้องคู่ด้านหลังความละเอียด 12+20 ล้านพิกเซลที่มี AI เทคโนโลยี
ทำให้ Mi A2 มีสมรรถนะในการถ่ายภาพที่ทรงพลัง Mi A2 มีให้เลือก 3 สี สีดำ สีฟ้าและ สีทอง พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยในวันที่ 3 สิงหาคม โดยมีให้เลือกสองรุ่น 4GB+64GB ราคา 8,990 บาท และ 6GB+128GB ราคา 10,990บาท
Mi 8 เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับสมรรถนะ Qualcomm Snapdragon 845 SoC และสามารถถ่ายภาพคุณภาพสูงด้วยกล้องคู่ที่ความละเอียด 12MP+12MP ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI และได้คะแนนกล้องถ่ายภาพนิ่งจาก DxOMark สูงถึง 105 คะแนน
ได้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีกล้องที่ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในโลกที่ใช้ระบบรับสัญญาณ GPS แบบสองความถี่ (dual frequency) ทำให้มีระบบนำทางที่แม่นยำที่ไม่มีใครเทียบด้วยหน่วยประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 845 จาก Qualcomm
บวกกับเทคโนโลยี Artificial Intelligence Engine (AIE) ทำให้ Mi 8 รองรับ แอปพลิเคชันที่ต้องการความสามารถในการประมวลสูงสุด เช่น เกมกราฟฟิคระดับสูง
Mi 8 มาพร้อมหน้าจอ Full HD+ AMOLED แบบ full screen ขนาด 6.21 นิ้วและอัตราส่วนจอภาพ 18.7:9 และอัตราส่วน หน้าจอต่อเครื่องที่ 86.68% Mi 8 มีให้เลือก 2 สี สีดำ และ สีน้ำเงิน พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยในวันที่ 3 สิงหาคม
โดยมีให้เลือกสองรุ่น 6GB + 64GB ราคา 15,990 บาท (วางจำหน่ายกับ AIS แบบ Exclusive), 6GB+128GB ราคา 17,990 บาท
